ณ พระบรมมหาราชวัง
.
เมื่อวันก่อนหน้านั้น แม่มาถามว่าวันเสาร์นี้ว่างมั๊ย จริงๆเราว่าจะไปเดินเล่นสนามหลวง ไปดูบรรยากาศ แต่ก็ตอบแม่ไปว่า จะไปไหน? แม่บอกอยากไปสนามหลวง ก็เลยบอกว่า ... ถ้างั้นก็ว่าง ^_^
แม่เคยบอกไว้แล้วว่าอยากเข้าวังไปลงนาม บอกไว้นานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะอยากไปวันนี้ ซึ่งคาดว่าคนคงจะเยอะ และต้องเดินมาก เพราะไม่แน่ใจว่ารถจะเข้าถึงสนามหลวงได้ถึงแค่ไหน
ทีแรกวางแผนว่าจะไปเรือด่วนแล้วขึ้นที่ท่าช้าง เพราะคงเดินใกล้กว่า แต่ดูแล้วว่าเป็นช่วงน้ำล้นตลิ่งมาก เท่าที่เห็นนี่ตามท่าเรือตามโป๊ะนี่น้ำท่วมเลย แลดูจะอันตราย ก็เลยเปลี่ยนแผนไปนั่ง MRT ไปหัวลำโพง แล้วต่อรถเอาอีกที (ซึ่งอันที่จริงแล้ว นี่เป็นแผนแรกแต่เดิมนะ)
ไปถึงหัวลำโพงแล้วจริงๆก็มีรถบริการฟรีอยู่นะ แต่ต้องรอคิวพอควร เลยเรียกสามล้อไปดีกว่า รักษาสภาพขาและสภาพร่างกายกันไว้ก่อน 555
สามล้อซึ่งดูจะรู้ลู่ทางดี ไปจอดส่งที่เชิงสะพานช้างโรงสี ซึ่งถือกว่าใกล้แล้ว เดินลงสะพานมายังไม่ทันไรก็มีคนมาคอยยืนแจกของกันแล้วค่ะ นี่ตาดี เห็นคนแจกยาคูลท์ เลยเดินไปขอมาคนละขวด แฮ่.. ยาคูลท์เย็นๆนี่ชื่นใจดีจริงๆ ^__^
เดินผ่านกระทรวงกลาโหมมาหน้าพระลาน มาจนถึงหน้าประตูวิเศษไชยศรีแล้ว ถึงได้ความว่า ต้องไปรับบัตรคิวก่อนซึ่งตอนนี้หางแถวน่าจะอยู่ที่หน้าศาลฎีกา แต่แค่ข้ามถนนไปเท่านั้น หางแถวรับบัตรคิวจากหน้าศาลนี่อยู่ตรงถนนหน้าพระธาตุแล้วเจ้าค่ะ
แม่ดูถอดใจนิดนึง (ข้าพเจ้าด้วย) คิดว่า เดี๋ยวมาอีกทีวันธรรมดาคนอาจจะน้อยกว่านี้ เลยเดินไปดูรูปวาดของคณะจิตรกรรมที่กำแพงศิลปากรดีกว่า (นี่ก็เป็นอีกพอยท์นึงที่แม่อยากมาดู) มาชม มาถ่ายรูป มาเดินดูบรรยากาศ ซักพักก็รู้สึกว่า เวลาเหลือเยอะมาก ไปต่อคิวเข้าลงนามก็น่าจะได้ มีเวลาอีกทั้งวัน (นี่คือ ยังไม่สิบโมงเช้าเลย มีเวลาถมไป)
ก่อนเดินกลับไปต่อคิว ที่หน้าประตูวิมานเทเวศร์ ซึ่งตรงกับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีคนยืนบ้างนั่งบ้างกราบไหว้พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศกันอยู่ตรงนั้น ... และ เรากับแม่ก็เช่นกัน
เดินไปต่อคิวหน้าศาลฎีกา คิวก็เดินเรื่อยๆคดเคี้ยวไปตามสนามหลวงกลับไปกลับมา ตามทางมีของกินมีน้ำหวานมีไอติมคอยแจกตลอด นี่ก็รับมา มีอะไรหวานๆรองท้องไว้ก่อน ช่วยไม่ให้เพลียได้ในวันที่อากาศร้อนแบบนี้
แม่ไปต่อคิวเข้ารถห้องน้ำ เราก็ต่อแถวไปเรื่อยๆ กว่าแม่จะเข้าห้องน้ำเสร็จ คิวที่เราต่อก็มาอยู่ที่แถวๆหน้าพระธาตุแล้ว คนเยอะจริงๆนะ บอกแม่ให้ค่อยๆเดินมา เวลาเหลือเฟือ เพราะแถวก็ค่อยๆขยับไป //โชคดีที่เต๊นท์มีตัวเลขให้อ้างอิงบ้าง เลยบอกพิกัดได้
ระหว่างทางนี่คนมาแจกของ แจกน้ำ แจกของกินกันเยอะมาก มาถือถุงให้ทิ้งขยะกันตลอดทางอ่ะ
บางทีแถวก็ขาดช่วง สับสนบ้าง (เออ พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้มีบัตรคิวนะ รู้สึกว่าบัตรคิวคงจะหมดไปนานแล้ว เพราะวันนี้คนคงจะเยอะจริงๆ เจ้าหน้าที่คงไม่ได้เตรียมการมาก่อน) คนเดินตัดแถวแทรกกันไปมาตลอดทาง เป็นการตัดแถวเดินเข้าสนามหลวง ... กิจกรรมเยอะจริงๆค่ะ
ซักพักก็ได้ไปคอยคิวอยู่ในเต๊นท์ที่มีเก้าอี้ให้นั่งแล้ว ค่อยสบายหน่อย หลังจากต่อแถวมาร่วมสองชั่วโมง จากหน้าศาลฎีกาจนเข้าประตูวิเศษไชยศรี ต่อเนื่องไปจนถึงเข้าในศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ใส่รองเท้าหุ้มส้นไป สามารถขึ้นไปได้เลยโดยไม่ต้องถอดรองเท้านะคะ ส่วนรองเท้าแตะเค้าให้ถอดไว้ก่อนขึ้น
ขึ้นไปนั่งพับเพียบเรียบร้อย ก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์หนึ่งครั้ง แล้วออกมาลงนามในสมุดหลวง เป็นอันเสร็จพิธี อ่อ ถ้าใครจะถวายเงินก็เดินเข้าไปหย่อนใส่ตู้ หรือวางในพานได้
ใช้เวลาไม่นาน ออกมามีขนมนมเนย มีน้ำดื่มแจกที่ด้านหน้าศาลาสหทัยฯอีกฟาก แล้วก็ทยอยเดินออกได้ หรือจะเข้าชมวัดพระแก้วก่อนก็ได้
เราแวะเข้าห้องน้ำที่วัดพระแก้วก่อน (นี่ก็คิวยาว แต่คิดว่าสะดวกกว่ารอไปเข้าข้างนอก) แล้วก็เข้าวัดไปไหว้พระก่อน ไหนๆก็มาแล้ว...
ตอนจะออกจากวัดนี่ออกไม่ได้นะ ตรงประตูสวัสดิโสภาที่จะออกไปถนนสนามไชยนั้นแน่นขนัดมาก เพราะใกล้ถึงเวลาที่เค้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีกันแล้ว เจ้าหน้าที่วังยังบอกว่า ยืนร้องในวัดก็ได้ เพราะออกไปไม่ได้จริงๆ
นั่นล่ะค่ะ นี่เลยอยู่ในวัดพระแก้วตอนเค้าร้องเพลงสรรเสริญกัน ^_^
รู้สึกว่าจะร้องกันสามรอบป่ะ? ได้ยินประมาณนั้น..
อ่อ แล้วนี่นั่งกินเสบียงที่พกไปเป็นอาหารกลางวันอยู่ในวัดนั่นแหละ อาหารมื้อแรกของวันค่ะ ขนมปังที่พกไปจากบ้าน 555
แล้วก็เดินออกมาทางประตูมณีนพรัตน์ ซึ่งตรงนี้ออกได้ (แต่ก็ยังแน่นอยู่ดี) เดินไปหาน้าที่เต๊นท์พยาบาลตรงหน้าศาลหลักเมือง แม่เลยถือโอกาสเข้าไปนั่งพักแป๊บนึง เราก็ช่วยพัดวีคนเป็นลมในเต๊นท์บ้าง แต่ส่วนใหญ่หนักไปในทางพัดให้แม่มากกว่า ^^ มีคนเอาข้าวเหนียวหมูมาให้ ก็เลยหยิบมาห่อนึง แบ่งกินกับแม่ (จริงๆตอนนั้นไม่ค่อยหิวนะ ไม่ค่อยอยากกินอะไรเลย อยากกินแต่น้ำอย่างเดียว) แล้วก็ได้สปอนเซอร์มาขวดนึง เออ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
คนเป็นลมเยอะนะ เพราะร้อนมาก และแดดดีมาก
นั่งอยู่ซักพักเลยตัดสินใจว่าจะเดินไปหาอะไรกินแถวท่ามหาราช เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ เค้าก็ตั้งแถวรับเสด็จกัน นี่ก็เลยได้รับเสด็จ 903 ด้วยหนึ่งขบวน
ไปถึงท่ามหาราชแล้ว ทุกร้านแน่นไปด้วยคนค่ะ ไม่มีที่นั่ง เลยเดินเรื่อยไปท่าพระจันทร์ มีร้านที่ยังพอหาที่นั่งได้ เออ ได้กินอะไรเป็นกิจลักษณะก็ตอนบ่ายสี่กว่าๆนี่แหละ ทุกร้านขายดี ของหมดไปตามๆกัน
กินเสร็จเดินข้ามสนามหลวงกลับไปสนามไชยต่อ คิดว่าพลังงานไม่เหลือกันแล้ว เลยจะกลับเลย ทีแรกน้าจะอยู่รอน้องมาร้องเพลงจุดเทียนกันอีกทีรอบดึก แต่ก็ไม่ไหวแล้ว กลับกันดีกว่า
ก่อนกลับได้ไอติมที่เค้าแจกมาอีกคนละแท่ง ... ชื่นจายยยย
ยังกินไอติมไม่ทันเสร็จ ฝนก็เริ่มลงเม็ดแล้วค่ะ และพอเดินเกือบถึงสะพานช้างโรงสีเท่านั้น ฝนตกห่าใหญ่เลยค่ะ ยืนรอฝนซาซักพัก พอเดินได้ก็ไปเรียกสามล้อกลับไปหัวลำโพง (ขากลับนี่รถติดแฮะ)
ใน MRT ขากลับก็คนเยอะมาก ต่อคิวซื้อตั๋วกันยาวคดเคี้ยวเต็มสถานีเหมือนกัน
หมดวันแต่เพียงเท่านี้ ... สลบค่ะ
.
ข้าวรพุทธเจ้า เอามโนและศิระกราน
นบพระภูมิบาล บุญดิเรก
เอกบรมจักริน พระสยามินทร์ พระยศยิ่งยง
เย็นศิระเพราะพระบริบาล
ผลพระคุณ ธ รักษา
ปวงประชาเป็นสุขศานต์
ขอบันดาล ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย
ดุจจะถวายชัย ชโย.
.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in