ลุง Malcolm Gladewell ออก Podcast ชื่อ Revisionist History ว่าด้วยเรื่องราวในอดีตซึ่งมีมุมมองเปลี่ยนโลก แต่ถูกลืมเลือนไป เอากลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง
ตอนนี้ ลุงพาไปรู้จักกับมหาเศรษฐีที่บริจาคเงิน 100 ล้านเหรียญให้กับมหาวิทยาลัย แต่ไม่ใช่เยล ไม่ใช่ฮาร์วาร์ด ไม่ใช่ MIT แต่เป็นมหาลัยเล็กๆ ใกล้เจ๊ง ในเมืองเล็กๆ ที่นิวเจอร์ซีย์
ความน่าสนใจของตอนนี้คือ มีการพูดถึงทฤษฎีของนักเศรษฐศาสตร์สองคนซึ่งศึกษาฟุตบอลมาอย่างเข้มข้น จนได้ไขความลับข้อนึงออกมาได้ว่า
"ความเก่งของทีมฟุตบอล ไม่ได้วัดกันว่า คนที่เล่นเก่งที่สุดเล่นเก่งขนาดไหน แต่เป็นคนที่ห่วยที่สุดในทีมเล่นได้เก่งขนาดไหน"
เขาให้เหตุผลประกอบว่า เพราะฟุตบอลมันเล่นกันเป็นทีม ต่อให้จ่ายบอลกันงดงามขนาดไหน แต่กองหน้า (ถ้าดันเป็นคนเล่นห่วย) (สมมุติชื่อบาโลเตลลี) (อันนี้สมมติเอง) ดันยิงไม่เข้า ทุกอย่างก็จบ ต่างจาก บาสเก็ตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่วัดกันด้วยความเก่งของซุปเปอร์สตาร์ในทีม (จอร์แดนวิ่งไปล้วงบอลจากแดนหลังมาชู้ตได้ แต่เมสซี่ลากจากหน้าโกล์ไปยิงประตูนี่ยากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้) ดังนั้น ในฟุตบอลแทนที่จะเซ็นซุปตาร์ราคา 80 ล้าน สู้ซื้อผู้เล่นดีๆ 20 ล้าน 4 คนมาร่วมทีมจะเวิร์คกว่า
ก็เหมือนกับการบริจาคเงินอันนี้เนี่ยแหล่ะ
มหาเศรษฐีที่บริจาคให้มหาลัยเล็กๆ เขามองว่า การเสริมคนที่อ่อนแอให้ดีขึ้นคือวิธีการที่ถูก แบบการสร้างทีมฟุตบอล
แต่มหาเศรษฐีคนอื่นที่บริจาคให้มหาลัยใหญ่ๆ มองกลับกันว่า การเสริมคนที่เก่งให้เก่งขึ้นไปอีกสิ ถึงจะถูก แบบการสร้างทีมบาสเก็ตบอล
ฟังแล้วก็นั่งคิดตามถึงอะไรหลายๆ อย่าง
แล้วคุณอยากเห็นเมืองไทยเป็นอะไร "ทีมฟุตบอล" หรือ "ทีมบาสเก็ตบอล"
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in