เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
HEAR ME GOgeekjuggler
ชีวิตใหม่...ไร้ทิป
  • The No-Tipping Point - Freakonomics ว่าด้วยการยกเลิกทิป

    อย่างที่รู้ๆ กันว่าการให้ทิปนับเป็นวัฒนธรรมอันแข็งแกร่งของชาวอเมริกัน หากใครไม่ให้อาจจะโดนมองตั้งแต่หัวจรดเท้าลามไปถึงด่าพ่อล่อแม่ลับหลัง (และบางครั้งก็ต่อหน้า)

    แต่การให้ทิปเนี่ย ก็ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงที่หลายคนมองไม่เห็นตามมาเหมือนกัน นับตั้งแต่ภายในร้าน แม้ว่าเงินเดือนของพนักงานเสิร์ฟจะน้อยกว่าพ่อครัว แต่เมื่อรวมทิปที่ได้ (ฝ่ายหลังไม่ได้ เพราะทำในครัว) ฝ่ายแรกกลับได้เงินสมน้ำสมเนื้อกว่า เมื่อเทียบกับจำนวนงานที่ต้องทำ


    ลูกค้าเยอะขึ้น พ่อครัวทำงานหนักขึ้น พนักงานเสิร์ฟได้ทิปเยอะขึ้น คนหลังครัวได้เงินเท่าเดิม


    "แล้วแบบนี้ ทำไมไม่เอาทิปที่ได้มาหารเฉลี่ยให้พ่อครัวหลังร้านด้วยล่ะ"
    น่าเสียดายครับที่สิ่งนี้ทำไม่ได้ เพราะกฏหมายของรัฐนิวยอร์ค (ตามท้องเรื่อง เพราะภัตตาคารที่เอามาเล่ามันอยู่ที่นั่น) บอกไว้ว่า ค่าทิปเนี่ย หารให้ได้เฉพาะกับพนักงานที่อยู่หน้าร้านเกิน 80% เท่านั้น (นี่พึ่งรู้ว่ามีกฏอะไรแบบนี้ก็วันนี้แหล่ะ)

    นอกจากนี้ ยังรวมถึงปัญหาในสเกลที่ใหญ่ขึ้นอย่างการที่คนที่เรียนทำอาหารมาแพงๆ (30,000 $ ในระยะเวลาหกเดือนแค่เพื่อรับไปประกาศนียบัตร ไม่ได้วุฒิด้วยนะ) พากันมาทำงานในส่วนหน้าร้านกันหมด เพราะว่าค่าทิป จนทำให้พ่อครัวขาดแคลน แม้ว่าจะมีเด็กจบใหม่จากด้านนี้มหาศาลก็ตาม ในคลิปก็มีสัมภาษณ์คนที่จบทำอาหารมา แล้วสุดท้ายก็ต้องย้ายมาเสิร์ฟแทน

    และถ้าเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ก็มีนักวิชาการบางคนออกมาบอกว่า การให้ทิปก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมาอีก เช่น มีการวิจัยว่าประเทศไหนที่มีการให้ทิปเยอะ ก็จะมีการคอรัปชั่นที่เยอะด้วย หรือ การให้ทิปถือเป็นการ discriminate (หรือ การเหยียด)​ รูปแบบหนึ่ง เพราะ คนที่หน้าตาสวยหุ่นดี ก็มักจะได้รับทิปมากกว่าคนที่ดูแย่กว่า


    คุณ Danny Mayer หัวหน้ากลุ่มร้านอาหารเครือ Union Square Hospitality Group เลยริเริ่มไอเดีย "ยกเลิกการให้ทิป" โดยสตาร์ทจากร้าน The Modern ที่ MOMA

    โปรแกรมชื่อ Hospitality Included นี้คือการเพิ่มราคาอาหารให้สูงขึ้นตามแต่ละเมนู โดยถัวๆ เฉลี่ยออกมาแล้ว ราคาจะออกมาประมาณเดิม คือ เท่าๆ กับจำนวนที่ลูกค้าเคยจ่ายสมัยมีทิปนั่นเอง

    ผลลัพธ์คือทุกคนแฮปปี้กันถ้วนหน้า

    พ่อครัวได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น
    พนักงานหน้าร้านได้เงินไม่ต่างจากเดิมมาก (ช่วงเดือนแรกๆ ทางร้านมีค่าชดเชยให้จากการประกาศใช้โปรแกรมนี้) แถมยังสุขภาพจิตดีขึ้น เพราะ ไม่ต้องเครียดว่าลูกค้าจะสั่งอะไร จะได้ทิปเยอะมั้ย หรือ ไม่ต้องแย่งกันมาทำงานตอนคืนวันศุกร์ คืนวันเสาร์ที่ได้ทิปเยอะกว่าวันธรรมดา
    อัตราการลาออกของพนักงานน้อยลง ใบสมัครมาเป็นพ่อครัวที่ร้านเพิ่มขึ้น 270% ใบสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟพุ่งขึ้น 200%
    ร้านทำเงินได้มากกว่าเดิม

    คุณ Danny ยังบอกว่าอาจจะยังสรุปไม่ได้เร็วขนาดนั้นว่าโปรแกรมนี้เวิร์ค เพราะ The Modern เป็นร้านอาหารที่ค่อนข้าง High End อยู่แล้ว ลูกค้าพร้อมจ่าย และ เมื่อลองคำนวณจริงๆ ลูกค้าที่แต่เดิมให้ทิป 20% พอเจอราคาใหม่ ต้องจ่ายเยอะขึ้นกว่าเดิม

    เขาเลยมีแผนว่าจะไปลองกับร้านอาหารอีกร้านในเครือของเขาที่คนธรรมดาทั่วไปเป็นลูกค้าหลักและราคาอาหารไม่ได้สูงมากนัก ว่าวิธีการยกเลิกการให้ทิปเนี่ย มันเวิร์คจริงรึเปล่า

    ก็รอดูกันต่อไป

    (อ่านจบแล้วถ้าชอบใจ ให้ทิปคนเขียนได้นะครับ)
    (ขอเลขบัญชีได้ทางหลังไมค์ครับ)


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in