• การนั่งเครื่องบิน 11 ชั่วโมงทรมานใช้ได้



• วิดีโอสาธิตความปลอดภัยของ KLM น่ารักดี เป็น Stop Motion ลายเส้นการ์ตูนบนจานดินเผาขึ้นชื่อของเนเธอร์แลนด์



• เนเธอร์แลนด์คือดินแดนแห่งความตื๊ด ขนาดลิสต์เพลงในเครื่องเอนเตอร์เทนเมนต์บนเครื่องบิน ยังมีลิสต์นึงชื่อว่า Dutch DJ’s ซึ่งมีตั้งแต่ Armin Van Buren ศิลปินในดวงใจฉัน ไล่ไปถึง Hardwell Afrojack Nicky Romero ฯลฯ

• ทริปนี้จาก 4 มื้อที่ทัวร์จัดให้ (ไม่นับข้าวเช้าของโรงแรม) เป็นอาหารจีนไปซะ 3

• สิ่งที่น่ารำคาญกว่าไกด์ที่พูดเยอะ คือ ไกด์ที่พูดเยอะแล้วบอกข้อมูลผิดๆ

• ผู้ชายเนเธอร์แลนด์ดีมาก ดีระดับผู้ชายด้วยกันเองยังต้องชม ดีตั้งแต่ ตม. ขาเข้า ยัน ตม. ขาออก

• เมืองรอทเทอร์ดัม เหมือน ย่านทองหล่อที่ถูกขยายสเกล มีทั้งร้านฮิปๆ โซนฮิปๆ และ คนฮิปๆ

• แสงยุโรปงดงามมาก ถ่ายยังไงก็ออกมาดูสวย เข้มข้นกว่าแสงญี่ปุ่น แต่ไม่กระด้างเท่าแสงเมืองไทย



• ฝรั่งเกรียนมีเยอะกว่าที่คิด

• เพิ่งรู้ตอนมาถึงว่ารถใต้ดินที่นี่หมดตีสาม

• แปลว่า ตอนแรกที่จะมาดูคอนเสิร์ต World Premiere ของ Armin Van Buren (ย้อนไปอ่านข้างบน) ก็สามารถทำได้ แต่ไม่ได้จองมา เพราะกลัวเลิกดึกแล้วไม่มีรถนั่งกลับเข้าเมือง ....

• ขอบรรจุ Stroopwafels ลงในหมวดเดียวกับทุเรียนทอด คือ กินแล้วหยุดไม่ได้ เพลินเหมือนใส่ยาเสพติด

•  Cafe ขายชา Coffeeshop ขายกัญชา

•  แต่ทุกที่มีกลิ่นกัญชา

• Skunk อะไรสักอย่างบาดคอมาก Bubblegum เรื่อยๆ ชอบสุดคือ Partymix

• เจอเรื่องลึกลับ (หรือผี หรือวิญญาณ หรืออะไรสักอย่าง) ที่ซอยแห่งหนึ่งในรอทเทอร์ดัม

• ท้องผูกครั้งแรกในรอบหลายเดือน เนื่องด้วยอาหารอันไม่มีเส้นใย อุดมไปด้วยขนมปังและชีส แถมน้ำเปล่าก็ไม่ค่อยได้กิน

• การมาทัวร์ที่ตารางเวลาไหลลื่นไม่มีล็อคในประเทศที่ห้างร้านทุกอย่างในเมืองปิดตอนหกโมงเย็นนี่ลำบากเหลือแสน

• Donners Book Store ใหญ่มาก เจอคนล้อมวงเสวนาวรรณกรรมกันด้วย



• เลนจักรยานที่นี่คือเลนจักรยาน ไม่ใช่ การตีเส้นบนพื้น ฝังรั้ว แล้วโมเมบอกว่าคือเลนจักรยาน

• เข้าห้องน้ำแพงที่สุดในชีวิตที่นี่ ฉี่หนึ่งทีมูลค่า 28 บาท

• สิ่งที่น่ารำคาญกว่าการไปที่ๆ ทัวร์บังคับลง คือ การไปที่ๆ ทัวร์บังคับลงแล้วเจอป้าคนไทยเป็นเจ้าหน้าที่ที่นู่นฟุ้งฝอยนอกเรื่อง สั่งสอน และ เหยียดคนไทยนิดๆ

• “เนี่ย พี่รวยมากเลยนะ พี่ดูหมดเลยละแวกเอเชีย” (กูอยากรู้ไหมครับ)

• การมีเวลาในอัมสเตอร์ดัมเพียง 6 ชั่วโมงก่อนที่ทุกมิวเซียม ทุกร้านรวง ทุกสิ่งทุกอย่างจะปิด วัดใจให้เราต้องพุ่งไปยังสถานที่ๆ เราอยากไปมากที่สุด ไม่เคยแข่งกับเวลาอะไรขนาดนี้มาก่อน

• พิพิธภัณฑ์ที่ไกด์แนะนำให้ไปเที่ยวในอัมสเตอร์ดัมคือมาดามทุซโซ่

• ไม่ต้องซื้อซิมหรือเปิดโรมมิ่งก็ได้ ที่นี่ไวไฟฟรีเยอะมาก แค่ขยันหา

• Foam fotomuseum การได้เดินดูนิทรรศการภาพถ่ายในแกลลอรี่สำหรับภาพถ่ายโดยเฉพาะคือความฟินอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

• Rijksmuseum ใหญ่โตมโหฬารอลังการงานสร้างมาก เดินสองชั่วโมงแบบไม่หยุดพักยังเดินไม่ครบ ไม่เคยดูสารคดีเกี่ยวกับที่นี่มาก่อน แต่กลับไป กทม.​แล้วจะหาดูแน่นอน



• ในภาพ Night Watch ของ เรมแบรนดท์ ไม่มี Jon Snow อยู่ข้างใน

• สาวชาวดัตช์ที่น่ารักที่สุดที่เจอในทริปนี้ คือ เจ้าหน้าที่รับฝากกระเป๋าของ Rijksmuseum

• หมดแล้ว ไปได้แค่สองที่เท่านั้น จบ. ขาดที่อยากไปอีกประมาณนึง

• เมืองที่นั่งชิลริมน้ำได้ทุกแห่งหนในเมืองนี่มันสุดยอดจริงๆ

• และการนั่งชิลริมน้ำยามเย็นพร้อมเปิด มันเป็นใคร ออลไร๋ ของ Polycat คลอไปด้วยนี่ก็สุดไปอีกทางจริงๆ

• Red Light District คนเยอะมาก ทะลักมาก จนอยากนับถือคนที่เดินเข้าไปใช้บริการในช่วงเวลาทัวร์ลงจริงๆ

• แต่ทุกคนในย่านนั้นดูเป็นมืออาชีพ พร้อมที่จะให้บริการในงานและหน้าที่ของตัวเอง

• เขาบอกมาว่า ราคาขั้นต่ำคือ 50 ยูโรต่อ 15 นาที

• วันสุดท้ายก่อนที่จะกลับบ้าน เวลาเดินไปไวเสมอ

• แดดแรงสุดที่บ้านเขา แสบตา แสบผิว พอๆ กับแดดแรงๆ ในบ้านเรา แต่แค่มีลมเย็นกว่า

• ท้ายที่สุดแล้ว คิดว่าตัวเองอินกับละแวกเอเชียมากกว่ายุโรป

• แต่ถ้าไปฟรีอีก ที่ไหนก็ไปหมดแหล่ะ

• ขอบคุณออฟฟิศที่พาไปครับ (-/-)