• ไม่ใช่ว่าไม่เคยเดินทางติดต่อกันนานขนาดนี้ เพียงแต่คราวนี้ มันเป็นสองทริปต่อกันแบบไม่ให้หายใจหายคอ
• นั่นแหล่ะ เพราะมันบังเอิญมาต่อกันแบบไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้ ฮือ
ฝรั่งเศส / 19 - 24 พ.ค.
• ออฟฟิศพาไปเหมือนทริปก่อน (เฮ) เป็นยุโรปครั้งที่สองในชีวิต (ครั้งแรกอ่านได้
ที่นี่)
• การนั่งเครื่องบินยาวๆ 18 ชั่วโมง (รวมทรานสิท) ไม่ใช่เรื่องสนุก ถึงจะได้กินข้าวหลายรอบก็ตาม
• เพื่อนร่วมทริปแบ่งเป็นสองสาย สายช็อปกับสายอาร์ท แน่นอนว่า มากับทัวร์ สายหลังย่อมลำบากหน่อยๆ
• เช่น ได้แค่ไปถ่ายรูปหน้า Lourve แต่ไม่ได้เข้าไงล่ะ ฮือออ
• ยังคิดเหมือนเดิมว่าไม่อินเท่าไรกับยุโรป ไม่อินกับปารีส ทำไมไม่รู้ ถ้าไม่นับตึกรามบ้านช่อง และ สถาปัตยกรรม ที่เหลือก็ไม่ใช่ทาง (เป็นมนุษย์เอเชียที่แท้จริง)
• เอสคาร์โก้ อร่อย! อร่อยกว่าหอยหวานบ้านเรา
• ระหว่างที่ทัวร์เขาปล่อยให้ไปช็อป นี่แอบหนีไป European House of Photography เป็นมิวเซียม Contemporary Photography ที่แสนจะคอนเทมป์ คอนเทมป์จนบางทีก็ไม่อิน โหวย
• งานในนั้นที่ชอบมี 2 งาน อันแรก ช่างภาพเคยเป็นนักเพาะกายมาก่อน เลยเอาภาพตัวเองในอดีตมา collage กับโฆษณาเพาะกาย อีกอัน เป็นอาร์ทติส ที่เอาแชมป์สเก็ตบอร์ดมาไถลเล่นท่ากับงานศิลปะมินิมอล แล้วถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion มาแสดง ชอบอันหลังมาก ยืนดูแล้วเหมือนตกอยู่ในมนต์เสน่ห์
• ที่เหลือ คำบรรยายเป็นภาษาฝรั่งเศส ไม่มีอังกฤษ อ่านไม่ออก
• การเดินทางไปที่นี่ นั่งรถไฟใต้ดินไป มีความเกร็งมาก เป็นขบวนเก่า โทรมๆ หน่อย ได้ยินกิตติศัพท์ร่ำลือ ยิ่งเกร็งเข้าไปอีก นั่งรถไฟที่ไหนไม่เคยเครียดเท่าที่นี่เลยโหวย
• พักแถบย่าน La Defence เป็นเมืองสร้างใหม่ มีตึกเยอะๆ ออฟฟิศ ประตูชัยอันใหม่ (ที่ไปนั่งตรงบันไดแล้วกินไวน์แล้วชิลมาก) ให้ความรู้สึกเหมือน Odaiba ที่ญี่ปุ่น ชอบความร้างๆ เหงาๆ แบบนี้
• เคยอ่านรีวิวปารีสของรุ่นพี่ เขาบอกว่าไปที่ไหนก็ได้กลิ่นฉี่ พอมาเองเลยเข้าใจ ถ้าจะฉี่ต้องจ่ายเงินเข้าห้องน้ำครั้งละ 1 ยูโรขนาดนี้ ยอมข้างนอกก็ได้น่ะ (แต่นี่ไม่ได้ทำนะ)(ฉี่สามที่ได้ไวน์ 1 ขวด)
• พระราชวัง Versailles นี่อลังมาก และดียิ่งขึ้นที่มีไกด์มาคอยแนะนำเล่าเรื่อง เปลี่ยนมุมมองของตัวเองเวลาเข้ามิวเซียมพอสมควร เพราะพอมีคนมาเล่าเรื่องประกอบ ทำให้เราอินกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้มากขึ้นไปอีก
• ไกด์ไทย กับ ไกด์ฝรั่ง เล่ากันคนละมุมมอง
• วันสุดท้าย
โชคดี... ที่เวลาตอนเย็นเหลือก่อนกลับ ฟรีไทม์!
โชคร้าย... ตอนแรกว่าจะไปร้าน Photobook ที่เล็งไว้ แต่คำนวณเวลาแล้วไม่ทัน เลยไม่ได้ไป
โชคดี... มีคนชวนไป Palais de Tokyo ที่จัดแสดงงานอาร์ท อ่ะ ไป!
โชคร้าย... ส่วนแกลเลอรีมันปิด เพราะกำลังติดตั้งงานใหม่
โชคดีสุดๆ... ในนั้นมีร้านขายของ เจอ Photobook เล่มที่อยากได้มากๆ มานานแล้ว กัดฟันแน่นๆ จ่ายตัง ฟิน
โชคร้ายสุดๆๆๆๆ... มารู้ทีหลังว่า มันมีงานนิทรรศการ The Making of Exile ของ Josef Koudelka ช่างภาพระดับตำนาน แต่กว่าจะรู้ ก็ไปไม่ทันแล้ว ฮือออออ
• โมเมนต์ที่ฟินที่สุด คือ การเดินเล่นริมน้ำ เดินไปเรื่อยๆ จนเจอก๊วนคนเต้นลีลาศ ฉากหลังเป็นหอไอเฟลยามใกล้ค่ำ งดงามจริงๆ
กรุงเทพฯ / 24-25 พ.ค.
• กลับมาถึงไทย เช้า 24 ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก ถึงบ้านก็วางแผนทริปฟิลิปปินส์ ไปทำธุระ นู่นนี่นั่นก็หมดวันละ
• วันที่ 25 เข้าออฟฟิศ เย็นๆ ก็นั่งรถไปสนามบิน กายละเอียดฟื้นแล้ว แต่กายหยาบยังไม่เข้าที่เลย
ฟิลิปปินส์ / 26-29 พ.ค.
• ไปทำอะไรน่ะเหรอครับ ผมไปงาน Manila Masters ดูงานแข่งเกม Dota 2 ครับ
• อยากรู้ใช่ไหมว่าในนั้นมันมีอะไรบ้าง อ่านได้
ที่นี่ (ขายของ)
• จริงๆ ทริปนี้ต้องบอกว่าลุ้นหนักมาก เพราะ จองตั๋วไปทริปนี้ก่อนที่ออฟฟิศจะประกาศวันไปฝรั่งเศส ถ้าชนกันก็ ggwp แต่โชคก็ยังเข้าข้างคือไม่ทับวันกัน แต่ก็เหนื่อยหนักหน่อยเพราะไม่ทันจะได้อยู่เมืองไทย ก็ต้องบินอีกแล้ว
• และด้วยความงกวันลาพักร้อน แถมโจทย์ในการเดินทางคือ ต้องไปถึงมะนิลาศุกร์เช้าที่การแข่งมันเริ่มพอดี เลยตัดสินใจบินคืนพฤหัส แล้วไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์ ดึงๆ เวลาไว้ให้แลนด์ดิ้งตอนเช้าพอดี
• นั่นแหล่ะครับ โคตรเหนื่อยเลย นอนก็หลับๆ ตื่นๆ ได้นอนจริงๆ น่าจะ 2 ชั่วโมง แต่ข้อดีคือ ได้ใช้เล้าจน์สนามบินครั้งแรกในชีวิต ฟินมาก มีที่อาบน้ำด้วย ของกินก็เยอะ ฮือ
• ถึงสนามบิน Ninoy Aquino International Airport ที่เขาว่ากันว่าน่ากลัวมาก แต่พอไปจริงก็ไม่มีอะไร หรือเช้าไป โจรยังไม่ออกมาทำงานกันก็ไม่รู้
• เข้าเมืองด้วย GrabCar มีบูทถูกต้องตามกฏหมายที่สนามบินเลย ใช้โปรได้ คุ้มและสะดวก
• ที่พักชื่อ Kabayan Hotel ไม่ไกลจากสนามบินมาก แถมโคตรจะใกล้กับ SM Mall of Asia Arena สถานที่จัดงานอีเวนต์แห่งมะนิลาา (งานที่ผมไปก็ด้วย) จองห้องรวมเตียงแคปซูล นอนหลับได้อย่างสงบ มีข้าวเช้าให้กิน พนักงานดูแลดี ถ้าใครคิดจะบินไปดูคอนเสิร์ตที่มะนิลา แล้วไม่ซีเรียสมากเรื่องที่พัก ขอแนะนำที่นี่เลย
• การดูแข่ง Dota 2 ในประเทศที่คนบ้าคลั่ง Dota 2 ที่สุดในโลกประเทศนึง บรรยากาศมันเกินบรรยายมากๆ ฟินแล้ว คุ้มค่าแล้วกับตั๋วและการถ่อไปถึงที่นั่น
• พลาดกิจกรรมบนเวทีที่พีคที่สุดในงาน เพราะไปขอลายเซ็นผู้เล่นให้เพื่อนผู้ชักชวนผมให้เริ่มเล่นเกมนี้ครั้งแรก (ตั้งกะยังเป็นแผนที่ใน Warcraft)
• กิจกรรมตลอดสามวันที่ไปดูแข่ง Dota 2 คือ ตื่น - กินข้าวเช้า - นั่งรถ - ดู - กินข้าวเที่ยง - ดู - ซื้อสตาร์บัคส์ - ดู - หาของกินเล่น - ดู - กลับที่พัก - หาขนมกิน - อาบน้ำ - นอน
• พูดถึงสตาร์บัคส์ ปกติ ตอนอยู่ไทยก็ไม่ค่อยได้กินหรอก แต่พอคูณค่าเงินที่นี่แล้ว มันถูกมาก! (ราวๆ 90 บาท) เลยกินมันทุกวันเลย สะดวกดี
• ภาษาฟิลิปปินส์ที่พูดตลอดทริปมีอยู่ 2 คำคือ Bayad Po (นี่เงินค่ารถของฉัน) กับ Tara (จอดตรงนี้) ใช้ตอนนั่งรถ Jeepney ไปยังสนามแข่ง
• Jeepney คือรถโดยสารประจำทางสุดฮิตแห่งฟิลิปปินส์ หน้าตามันเหมือนรถกระป๊อบ้านเราแต่หลังคาโหลดเตี้ยกว่า และ คนขับจะบังคับให้คุณนั่งเบียดมากกว่า (แถวนึงนั่งกันเกือบสิบคน!) และลีลาการขับละม้ายคล้ายคลึงกับรถเมล์สาย 8 รีวิวจากฝรั่งหลายคนกลัวมาก แต่นี่ชินมาก สบ๊าย ราคา 7 เปโซ (ราวๆ 5 บาท)
• ค่าครองชีพถือว่าไม่แพงเลย เตรียมเงินไปนี่เหลือบาน (ข้าวเช้ากินโรงแรม ข้าวกลางวันฟรี เพราะรวมในตั๋วที่ไปดู) ถ้าประหยัดๆ น่าจะเหลือเยอะกว่านี้อีก
• วันสุดท้ายก่อนกลับ ตอนแรกถามคนอื่นว่าจะไปไหนดี สุดท้าย นั่งรถไปเดินห้าง SM Mall of Asia แทน แต่ด้านหลังห้างมีทางเดินริมอ่าว เดินเล่นถ่ายรูปชิลๆ มีคนมากมายหลายหลากมานั่งแฮงค์เอ้าท์กัน
• เสื้อ Uniqlo ลาย Nintendo ถูกกว่าไทย เลยสอยมาตัวนึง
• สิ่งที่ชอบที่สุดตลอดทริป คือ ร้าน Jollybee ร้านฟาสต์ฟู้ดที่ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะต้องเจอ ราวกับมะนิลาโดนร้านนี้ซื้อไปแล้ว พายช็อกโกแลตมาร์ชเมลโลว์นี่มาสเตอร์พีซมากๆ
• รีบมาสนามบินตั้งแต่ไก่โห่ ถือว่าคิดถูกเพราะคิวเช็คอินยาวมหาศาลล้านแปดมาก
• โดนยึดปลั๊กพ่วง ด้วยเหตุผลว่าสายไฟมันยาวเกินไป...
• สตาร์บัคส์ในสนามบินยังถูกกว่าราคาปกติบ้านเรา เชื่อละว่าถูกจริง
• ขากลับ แวะที่สิงคโปร์เหมือนเดิม นั่งๆ นอนๆ แล้วแว้บไปเข้าเล้าจน์ อาบน้ำ หาของกิน ฟาดทุกอย่างที่ขวางหน้า โซบะเย็นอร่อย สลัดผักกรุบกรอบ ชาร้อน ขนม น้ำ อัดให้คุ้ม
กรุงเทพฯ / 30 พ.ค.
• แลนด์ดิ้ง นั่งรถเข้าเมือง แบกกระเป๋าเข้าออฟฟิศต่อเลย
• ตระหนักกับตัวเองได้เลยว่า เรามันแก่แล้ว ร่างกายสลายมา
• แต่ทั้งหมดนี้คือ 11 วันที่ตราตรึงใจที่สุดในชีวิตทริปนึงเลย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in