ไม่ได้เข้าโรงหนังนานมากแฮะ ช่วงที่ผ่านมาก็นึกๆเหมือนกันว่านี่เราดูหนังในโรงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะเนี่ย (จริงๆเรื่องล่าสุดก็
Avengers: Endgame ซึ่งมันยังไม่ถึงเดือนเลยนะ) รู้สึกเหมือนว่าเราห่างหายไปนานมากๆ ส่วนใหญ่ก็เพราะต้องเคลียร์งานช่วงก่อนไฟนอลที่รุมเร้าอย่างมหาศาลจนไม่เป็นอันทำอะไร มาวันนี้ก็เป็นวันหยุดจากการสอบไฟนอล (พรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายครับ อวยพรให้ผมด้วย TvT) แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า
John Wick ภาคสามแม่งเข้าวันนี้นี่หว่า นั่นก็เป็นสาเหตุการมาของรีวิวอันนี้ครับ ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วครับ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า (กว่าจะเข้าก็ล่อไปซะยาวเลยค่ะ)
สำหรับเนื้อเรื่องของภาคนี้นะครับ เล่าจบในบรรทัดเดียว
"จอห์น วิค สุดยอดนักฆ่า ต้องหาทางเอาตัวรอดหลังถูกตัดหางปล่อยวัดในภาคสอง"
ทั้งเรื่องมีใจความหลักๆแค่นี้ครับ แต่สิ่งที่ทำให้มันยาวกว่าทุกภาคเลยก็คือ ฉากแอ็คชั่นที่เหมือนผู้กำกับโกรธคนดู เพราะเล่นโยนมาตลอดแทบทั้งเรื่อง แต่ละฉากก็ล่อไป 5-10 นาที แล้วมีฉากใหญ่ๆประมาณเกือบ 10 ฉากมั้งครับ เรียกได้ว่าคงคอนเซ็ปต์ภาคสองไว้ได้ดีเลยคือ สู้กันจนเหนื่อยตามตัวละคร ระหว่างดูก็มีหอบเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ยังไงยังงั้นเลยครับ
ภาคสองนี่เป็นหนังแอ็คชั่นไม่กี่เรื่องที่ผมกล้าพูดเต็มปากว่าชอบ (อีกเรื่องนึงที่นึกออกคือ The Bourne Ultimatum) คือแบบมันเตะต่อยตบตีกันจนรู้สึกสงสารอะครับว่าชีวิตนักฆ่ามันรันทดได้ขนาดนี้เชียวหรือ เป็นประสบการณ์ดูหนังที่แปลกใหม่มาก ณ ตอนนั้น มาภาคนี้ก็ยังเหมือนเดิมครับ แต่ละฉากแอ็คชั่นถูกสร้างสรรค์มาอย่างเฉียบคม ลีลาท่าทางมันดูรวดเร็วและปราดเปรียวมาก พูดง่ายๆคือเท่สัดๆครับ ภาคที่แล้วว่าใช้ดินสอฆ่าคนเจ๋งแล้ว มาภาคนี้ยังมีอีกหลายสิ่งที่เซอร์ไพรส์มากว่ามึงเอาแบบนี้เลยเหรอ
ข้อเสียอย่างเดียวที่เห็นชัดๆเลยก็คือ เนื้อเรื่อง เพราะในภาคสอง มันบู๊กันเยอะก็จริง แต่เนื้อเรื่องก็จัดว่าเข้มข้นและลุ้นระทึก ต่างจากภาคนี้ที่ให้เวลากับฉากแอ็คชั่นเป็นหลัก (ซึ่งมันก็ทำออกมาได้โคตรสุดยอด) แต่เนื้อเรื่องกลับเบาบางอย่างน่าเสียดาย แต่ส่วนนี้มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผมเลยครับ
สำหรับคนที่ชอบหมานะครับ ภาคนี้มีซีนให้หมาได้ออกโรงด้วย เท่มากๆ
ใครที่ตามมาตั้งแต่ภาคแรก ควรดู หรือใครที่ชอบสไตล์แบบภาคสอง ภาคนี้ก็ยังมีให้เหมือนเดิมครับ (เยอะกว่าเดิมมั้ยผมไม่รู้แฮะ แต่ก็เยอะนั่นแหละ) พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า John Wick: Chapter 3 ยังคงเป็นหนังแอ็คชั่นแนวบู๊แหลกแบบที่หายากในยุคนี้ ที่ยังรักษามาตรฐานจากภาคที่แล้วได้ครบถ้วน แม้จะบกพร่องไปบ้างในแง่ของเนื้อเรื่อง แต่ฉากแอ็คชั่นโคตรมันส์ที่พร้อมจะระเบิดใส่หน้าคนดูตลอดทั้งเรื่อง มันก็คุ้มที่จะซื้อตั๋วเข้าไปดูแล้วแหละครับ
ตอนนี้ผมก็คงทำได้แค่นั่งรอภาคสี่มาแบบเหงาๆต่อไปครับ
ปล. : ฉากโหดรุนแรงมากครับ ผู้ปกครองที่คิดจะพาลูกหลานไปดูระวังด้วยนะครับ
Score: 9/10
Directed by: Chad Stahelski
Story by: Derek Kolstad
Screenplay by: Derek Kolstad, Shay Hatten, Chris Collins & Marc Abrams
Based on the characters by: Derek Kolstad
Genre: Action, Crime, Thriller
Runtime: 130 mins
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ^^
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in