เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิว - Clover BookMarina Book Blog
รีวิว - คุณทนายของผมคือเครื่องปั๊มเงินครับ : shi jing

  • เล่ม 1 - E Book: CLICK!

    เรื่องย่อหลังปก
    “คิดว่าให้ข้าวห้าถังแล้ว
    ฉันเปียนเสียคนนี้
    จะยอมก้มหัวละทิ้งหลักการ
    ของตัวเองได้งั้นเหรอ”
    เปียนเสีย หรือ ‘เทพเปียน’ นักเขียนใหญ่
    ผู้อยู่บนจุดสูงสุดแห่งวงการ
    กล่าวถึง ‘เฉิงไป๋’
    ทนายเพื่อเศษสวะโดยเฉพาะ
    หญิงสาวผู้มีอีกฉายาว่าเครื่องปั๊มเงิน
    สองเดือนก่อนเปียนเสียทิ้งคำพูดไว้ว่า
    “ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีวันจ้าง
    ให้เธอเป็นที่ปรึกษาเด็ดขาด”
    สองเดือนต่อมา เพื่อเก็บข้อมูลเขียนนิยาย
    เขาก็ต้องมาร้องไห้อ้อนวอนเธอ
    “ได้โปรดแนะนำผมด้วยเถอะครับ!”
    “ข้าวห้าถังทำให้ฉันทิ้งหลักการไม่ได้
    แต่ถ้าหกถังละก็โอเคนะ!”

    คุยกันหลังอ่าน
    เรื่องนี้ขออนุญาตรีวิวเป็นรายเล่มอีกแล้ว ก็คือจริงๆเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในขอบเขตความสนใจของเราเท่าไหร่ค่ะในตอนแรก แต่มีคนโฆษณาให้ฟังว่าสนุกมากๆ เลยลองอ่านดูบ้าง ปรากฏว่าก็น่าสนใจจริงๆ แบบที่ค่อนข้างแตกต่างกับเรื่องอื่นๆในตลาดแปลไทยตอนนี้ เป็นแนวที่ค่อนข้างเน้นอาชีพนะ
    นางเอกเฉิงไป๋เป็นทนายความชื่อดัง พระเอกเปียนเสียเป็นนักเขียนชื่อดัง เรื่องนี้ยังค่อนข้างดำเนินเรื่องผ่านตัวพระเอกด้วย ซึ่งเราคิดว่านิยายที่เจาะกลุ่มคนอ่านผู้หญิงที่ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครพระเอกนั้นมีไม่มากจริงๆ 
    ตัวพลอตเองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ตัวเปียนเสียเป็นนักเขียนชื่อดัง ที่นิสัยเสียอยู่บ้าง แต่จริงๆเป็นคนอ่อนโยนมาก แล้วก็เขียนเรื่องเกี่ยวกับทนายเรื่องนึงโดยตัวร้ายในเรื่องมีต้นแบบมาจากนางเอกอย่างเฉิงไป๋นั่นเอง พอพระเอกได้มารู้จักกับนางเอกจริงๆก็รู้ว่านางเอกไม่ใช่คนแบบที่ตัวเองเขียน
    ในเล่มแรกจะมีว่าความคดีหนึ่งคือ คดีประกันภัยรถเครน ซึ่งสารภาพตามตรงว่าเราเองด้วยอาชีพแล้วก็นับว่าวนเวียนกับกฎหมายอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฏหมายประกันภัย แต่เรื่องก็ทำออกมาให้สนุกได้ มีการฟาดฟันแบบน่าติดตาม
    สรุปว่าอ่านไปเล่ม 1 แล้วชอบมากค่ะ



    เล่ม 2 - E Book: CLICK!

    เรื่องย่อหลังปก
    “เมื่อคืนผมดื่มหนักไปหน่อยผมไม่ได้...ไม่ได้ทำเรื่องอะไรแปลก ๆ ลงไปใช่ไหมครับ?”
    “คุณลองเดาดูสิ”
    เปียนเสีย หรือ ‘เทพเปียน’ นักเขียนใหญ่ผู้อยู่บนจุดสูงสุดแห่งวงการถูกทนายสาว ‘เฉิงไป๋’ พูดแบบนี้ใส่หลังจากผ่านคืนที่เขาเมามายจนภาพตัด
    หน็อย ยัยผู้หญิงร้ายกาจ!
    ตอนนี้เขากลายมาเป็นผู้ช่วยเฉพาะกิจของเธอเต็มตัวแล้ว และพบว่าคดีใหญ่วิ่งเข้ามาหาเธออีกจนได้
    ‘คดีภาพวาดที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์ประเทศอังกฤษ’
    ไอ้คนที่มาว่าจ้างเป็นสวะแท้ 100% แถมยังเป็นแฟนคลับเก๊ของเขาอีก
    ทนายเฉิงไม่มีวัน... อะไรนะ...รับทำงั้นเรอะ!?

    คุยกันหลังอ่าน
    เล่มนี้เราแทบจะอ่านต่อกันกับเล่ม 1 เลยค่ะ จบภายในวันเดียวกันเลยด้วยซ้ำ เรียกว่ากำลังติดลมสุดๆ 55555 ก็คิดว่าความสัมพันธ์พระนางไปอย่างไม่รีบไม่ร้อนเท่าไหร่ แต่อย่างที่โจวอวี้บอกว่า ทนายเฉิงเป็นพวกถนัดขุดหลุมแล้วรอให้เหยื่อตกลงไป เหยื่อในที่นี่ดูเหมือนจะเป็นเปียนเสียแล้วนะ ยังดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ว่าทนายเฉิงที่เป็นสายรุกน่ะ รุกยังไง เพราะตอนนี้ดูเหมือนเทพเปียนจะรุกมากกว่า ถึงจะรุกแบบงกๆเงิ่นๆ มีจังหวะให้อับอายขายหน้าเป็นระยะๆก็เถอะ
    ส่วนพลอตเรื่องในเล่มนี้มีคดีหนึ่งคือคดีภาพวาดที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์อังกฤษ ภาพวาดนี้ซ่อนอยู่ในรูปปั้นที่ประมูลมาจากอิตาลี กฏหมายเป็นแนวคดีแบบทวงคืนวัตถุโบราณระหว่างประเทศอะไรทำนองนี้ ซึ่งเราก็ไม่ม่ความรู้อะไรเท่าไหร่ อ่านเอาเพลินๆ แต่คดีนี้ยังไม่จบในเล่มนี้ค่ะไปต่อในเล่มสาม
    ส่วนในเล่มนี้ก็มีการเฉลยตัวละครอื่นๆอย่างความในใจของโจวอวี้หรือฟางปู้รั่ง ที่จริงๆเราแอบเดาแต่แรกแล้วว่าคนนี้น่าจะเป็นคนที่เคยมีซัมติงกับเฉิงไป๋มา อย่างไรก็ลุ้นให้เทพเปียนได้สุดๆค่ะ บุคลิกอย่างเปียนเสียนี่ทั้งชวนถีบ ทั้งชวนให้ชอบในเวลาเดียวกัน อ่านแล้วนึกถึงเทพเยี่ยเป็นพักๆ 555555


    เล่ม 3 - E Book: CLICK!

    เรื่องย่อหลังปก
    “เจียงหมิงไหวเป็นนักเขียนบทเรื่อง ‘มือสังหาร’ ค่ะ
    พอดีละครซีรีส์เรื่องถัดไปจะเป็นเรื่องแนวกฎหมาย...
    ตอนนี้เขาเลยขอมาเก็บข้อมูลอยู่ที่บริษัทเรา”
    จู่ ๆ เฉิงไป๋ก็มีผู้ช่วยกิตติมศักดิ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง
    แถม ‘เจียงหมิงไหว’ ยังเป็นคนที่ท่านนักเขียนใหญ่ไม่ชอบหน้า
    เล่นเอาเปัียนเสียหัวเสียเลยทีเดียว
    ขณะเดียวกัน
    การรื้อคดี ‘คดีคนกินคน’ ได้เริ่มร้อนระอุขึ้น
    กระแสมหาชนหลากหลายความคิด
    คำก่นด่า สาปแช่ง
    แท้จริงแล้วใครคือผู้ผิด
    ผู้พิพากษา...? อัยการ...? จำเลย...?
    หรือแท้จริงแล้วเป็นมติมหาชนที่ทำลายชีวิตคน?

    คุยกันหลังอ่าน
    รู้สึกว่าเนื้อเรื่องในชั้นศาลของตอนนี้ดูไม่ฟาดฟันเท่าไหร่ แต่ก็มีเนื้อหาด้านเลิฟไลน์เข้ามา เรียกว่าพระนางก็มีซีนร่วมกันเยอะทีเดียวค่ะ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ตกลงปลงใจกันแล้ว แต่ก็นับว่าต่างคนต่างมีใจ มีซีนน่ารักๆเยอะ คือเรียกว่าเราเห็นภาพเรื่องนี้ทำเป็นซีรีส์ได้ไม่ยากเลยค่ะ
    เล่มนี้มีตัวละครใหม่อย่างจางหมิงไหวที่เป็นคนเขียนบทเรื่อง มือสังหาร ไม่รู้ว่าตัวละครนี้มาเพื่อแค่ทำหน้าที่ในพลอตให้พระเอกเขียนเรื่องเกี่ยวกับทนายอาสาหรือกฎหมายอะไรทำนองนี้ หรือว่ามีบทบาทอื่นด้วย 
    ส่วนในเรื่องของพลอตก็มีคดีคนกินคนที่เป็นคดีเก่าของอาจารย์นางเอก ถูกรื้อฟื้นกลับมาใหม่ แล้วก็คิดว่าพลอตเรื่องน่าจะเริ่มขมวดถึงเรื่องคดีที่ทำให้นางเอกกับฟางรั่งต้องปิดบริษัทแล้ว รวมถึงอดีตของเฉิงไป๋กับฟางรั่งด้วย 
    ถึงช่วงแรกๆเราจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ดำเนินเรื่องโดยฝั่งเทพเปียน แต่ต้องบอกว่าจริงๆก็ไม่เชิงล่ะมั้งคะ ดำเนินเรื่องโดยทั้งนางเอกพระเอกนั่นแหละ ลุ้นให้สองคนนี้ได้ลงเอยกันไวๆค่ะ
    เรื่องนี้มี name drop หนังสือค่อนข้างเยอะที่คนรู้จักกันมากก็เช่น republic, วัยเยาว์อันสิ้นสูญ, ดาวซานถี่ จริงๆทั้งสามเล่มเราเคยจับมาแล้ว แต่ดันเป็นเรื่องที่เราไม่เคยอ่านจนจบทั้งหมดเลยค่ะ โดยเฉพาะดาวซานถี่ที่จะอ่านๆหลายรอบมากๆ แต่สุดท้ายก็ไปได้ไม่เกินห้าสิบหน้าแรก เรียกว่ายังไม่ได้เข้าเนื้อหาส่วนไซไฟเลยด้วยซ้ำไป ส่วน republic เรายังหาจังหวะเหมาะๆอ่านเล่มนี้ไม่ได้สักที ส่วนวัยเยาว์อันสิ้นสูญก็ดูเหมือนเป็นหนังสือสูบพลังงานที่ต้องมีสติและสมาธิในการอ่าน แต่คิดว่าคงจะอ่านในสักวันหนึ่งนั่นแหละค่ะ


    เล่ม 4 - E Book: CLICK!

    เรื่องย่อหลังปก
    "ไซเบอร์บุลลี่เรอะ? ตอนแกทำให้ครอบครัวเหยื่อต้องโดนคนรุมจวกค่า ทำไมไม่คิดล่ะว่าตัวเองจะมีวันนี้บ้าง? ถุย!"
    ความเห็นในโลกออนไลน์เรื่องคดีคนกินคนร้อนระอุขึ้นทุกขณะ จ้าวผิงจางต้องรับศึกหนักจนบ่าแก่ชรางองุ้น
    พร้อมกันนั้นทางเฉิงไป๋เองก็กำลังโต้คืน "เหล่าอัศวินแห่งคุณธรรม" อย่างเงียบเชียบภายใต้เงามืด
    หากกล้าที่จะพูดว่าร้ายในสิ่งที่ตนเองไม่รู้จริงและอยากโหนกระแสเพื่อเป็น "อัศวินแห่งความยุติธรรมบนโลกโซเชียล" ก็ต้องกล้าพอที่จะรับผลที่ตามมา เพราะเฉิงไป๋ไม่มีวันยอมอีกแล้ว...
    "ความยุติธรรมอาจมาช้า แต่ต้องมาแน่นอน" ทว่าบางครั้งเฉิงไป๋ก็คิดว่าความยุติธรรมที่มาช้ายังจะเรียกว่าความยุติธรรมอยู่อีกหรือ?

    คุยกันหลังอ่าน
    เล่มนี้ปิดคดีคนกินคนค่ะ แอบคลี่คลายไปในทางที่เราไม่คาดคิดนิดหน่อย แบบไม่คิดว่าจะเอาวิธีนีมารับมือ จริงๆเปียนเสียที่เป็นเจ้าของเรื่องก็คงไม่คิดเหมือนกันว่าเฉิงไป๋จะใช้ไอเดียนี้จริงๆเลย ส่วนเฉิงไป๋เองก็ฟ้องร้องคนในเนตเหมือนกัน
    เล่มนี้เลิฟไลน์ของพระนางตกลงปลงใจกันเรียบร้อยค่ะ เป็นแฟนกันแล้ว ต้องเรียกว่าเราก็รู้สึกช็อคพอๆกับเปียนเสีย ตอนที่เฉิงไป๋บอกว่าเปียนเสียเป็นแฟนเธอ แถมยังจูบก่อนด้วย แบบว่า ที่บอกว่าทนายเฉิงเป็นสายรุกนี่จริงสินะ ส่วนเปียนเสียก็เป็นเจ้าหมาเปียนที่มาตกลงในหลุมกับดักนี้
    เล่มนี้ปิดท้ายด้วยการเริ่มต้นของคดีหย่าร้างของฟางปู้รั่ง เห็นว่าอีกเล่มเดียวจะจบ ก็คิดว่าในเล่มสุดท้ายยังมีเหลือปมอีกเยอะเลย ไหนจะฟางปู้รั่ง ฟางรั่ง แล้วก็คดีฆาตกรรมเพื่อนบ้านอีก
    ก็ไม่รู้ว่าจะขมวดจบได้ในเล่มเดียวมั้ย บางทีเรื่องนี้ก็จบแต่ละเรื่องแบบไม่ค่อยเต็มอิ่มเท่าไหร่ จบแบบไม่รู้สึกว่าจบขนาดนั้น แต่คดีนี้สำหรับเฉิงไป๋ก็ถือว่าผ่านไปแล้วอะไรทำนองนี้


    เล่ม 5 - E Book: CLICK!

    เรื่องย่อหลังปก
    ‘ไม่ใช่ทุกคนที่จะแต่งงานมีลูกด้วยอารมณ์ความรู้สึกกับความรักนั้นยิ่งแล้วใหญ่’
    เฉิงไป๋เป็นคนมีเหตุผลมารองรับการกระทำของตนเองเสมออย่างน้อยเธอก็เชื่อว่าตนเองเป็นเช่นนั้น
    กำแพงแห่งเหตุผลอันสูงใหญ่ปิดกั้นอารมณ์ความรู้สึกของเธอไม่ให้เหนือกว่าเหตุผล
    มันแข็งแกร่งและไม่มีวันพังทลาย
    "ศีลธรรมนั้นไม่เคยมีมาตรฐานเด็ดขาดชัดเจน"
    "แต่กฎหมายมี"
    เธอเชื่อเสมอว่าหากมองโลกด้วยเหตุผล เธอก็จะไม่ต้องเจ็บปวดอีก
    จนวันหนึ่งมีชายคนหนึ่งทำลายมันเข้ามา และโอบกอดตัวตนของเธอ ที่อ่อนแอและแตกสลายเอาไว้

    คุยกันหลังอ่าน
    เราว่าคดีของฟางปู้รั่งสนุกดีค่ะ แต่คิดว่าฉากในศาลที่สนุกที่สุดยังให้คดีแรกนะคะ เรื่องฟางปู้รั่งนี่แอบรู้สึกว่าเป็นแบบที่จางหมิงไหวเคยพูดเอาไว้จริงๆ รู้สึกว่าคนแบบนี้จะต้องเป็นตัวเอกที่เท่มากแน่ ยิ่งถ้าได้คู่กับเฉิงไป๋น่าจะทำให้เรื่องราวมีสีสันมาก
    แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม เราก็รู้สึกว่าเปียนเสียเข้ากันกับเฉิงไป๋มาก เปียนเสียเป็นผู้ชายที่ดีมาก เอาใจใส่ อ่อนโยน รู้ได้โดยไม่ต้องพูดอะไร ฉลาด และบางทีก็ฉลาดเกินไป สุดท้ายแหวนวงนั้นของเปียนเสียก็ไม่ได้ใช้เลยใช่ไหมล่ะ ในเมื่อสองคนนั้นตัดสินใจแต่งงานกันแบบปัจจุบันทันด่วยขนาดนั้น
    เรารู้สึกว่าเฉิงไป๋โชคดีมากที่ได้เจอเปียนเสีย เปียนเสียก็คงคิดแบบเดียวกัน
    ส่วนในเรื่องของพลอต เรารู้สึกว่ามันไม่เต็มอิ่มเท่าไหร่ ตัวละครที่ปูมานานอย่างฟางรั่ง ก็กลับมาให้เห็นสองสามบรรทัด แล้วก็ไม่ได้มีบอกว่าหลังจากนั้นเหตุการณ์เป็นไงต่อ ถึงสุดท้ายจะมีฉากไปเยี่ยมหลุมศพผู้ต้องหาก็เถอะ คือรู้สึกว่าคดีที่เป็นปูมหลังของเรื่อง เป็นแผลในใจของนางเอก อย่างคดีของพ่อนางเอก หรือคดีฆาตกรรมเพื่อนบ้าน คนอ่านน่าจะได้รู้รายละเอียดมากกว่านี้อีกหน่อย อันนี้รู้สึกว่าเฝ้ารอแต่กลับไม่มาถึงน่ะ เล่มสุดท้ายนี่เป็นเรื่องของฟางปู้รั่งไปแล้วค่อนนึง

    ก็สรุปว่า โดยรวมๆก็ชอบนะคะ มีจุดที่เรารู้สึกไม่เต็มอิ่มอยู่บ้าง แต่ก็ยังคิดว่าสนุกเลยล่ะ ชอบพระนางมากๆ เข้ากันสุดๆ ตัวละครอย่างเปียนเสียสร้างมาได้น่าเอ็นดูมากๆ ทั้งน่าหมั่นไส้ทั้งน่ารักในเวลาเดียวกัน พลอตเรื่องค่อนข้างเน้นอาชีพ แต่ก็พาให้คนอ่านลุ้นไปด้วยไม่ยากเลยค่ะ

    รีวิวเรื่องอื่นๆทั้งหมด: #marinabookblog
    รีวิวแยกตามสนพ: Home

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in