ตอนเด็ก กาแฟมันโคตรจะขมเลยอะ
ฉันในตอนนั้นเปิดตู้เย็นหยิบแก้วกาแฟของแม่มาแอบจิบด้วยความอยากรู้อยากลอง
ไอน้ำสีน้ำตาลที่ผู้ใหญ่เขาชอบกินกันเนี่ย มันอร่อยสักเท่าไรเชียวนะ
หนึ่งอึก
แล้วก็แทบจะบ้วนทิ้ง
ขม รสขมปร่าที่ปลายลิ้น
ช่างต่างจากความหวานของลูกอมโปรดของฉันเสียเหลือเกิน
ขนาดว่ากลืนไปแล้วรสชาติขม ๆ ก็ยังติดอยู่ที่คอ
ไม่เข้าใจเลยนะว่าพ่อกับแม่กินไปได้ยังไง
ตอนเอาไปเล่าให้แม่ฟัง ฉันคาดคั้นว่าทำไมแม่ถึงได้กินกาแฟทุกวันทั้งที่มันไม่อร่อย
แม่กลับหัวเราะชอบใจใหญ่ก่อนจะบอกว่า
กาแฟ ไม่ใช่ของสำหรับเด็ก
แล้วมือแม่ก็พลันคว้าแก้วกาแฟนมข้าง ๆ มาจิบ
ยี่สิบปีถัดมาฉันจึงได้เข้าใจความหมายของมัน
ฉันตอนนี้ไม่ได้โหยหารสหวานละมุนจากลูกอมและเยลลี่หลากสีพวกนั้นอีกแล้ว
จริงอยู่ รสชาติมันช่างเย้ายวนใจ
คงเพราะฮอร์โมนอะไรสักอย่างที่ฉันเองก็ไม่สันทัด
แต่กาแฟให้รสชาติที่ต่างออกไป
มันทั้งขม ทั้งละมุนลิ้น
ความเย็นจากน้ำแข็งคือความรู้สึกแรกเมื่อยามหยดกาแฟแรกสัมผัสปลายริมฝีปาก
ไหลผ่านลิ้น ความขมผสมกับความหวานละมุนอย่างลงตัว
แล้วสุดท้ายกาแฟก็ทิ้งรสชาติขมปร่าไว้ในคอ
กาแฟ ไม่ใช่ของสำหรับเด็ก
ก็คงเพราะว่า โตขึ้น ฉันเรียนรู้ว่า รสชาติขม ไม่ได้แปลว่าไม่น่าพิศมัย
ความขมที่มาแทรกในอณูรสชาตินั้นทำให้เกิดความกลมกล่อม
หรือเพราะว่าเราผ่านโลกมากขึ้น
เลยจำต้องเสาะหารสชาติที่สะท้อนความบัดซบของชีวิตอยู่เสมอ
มันเกี่ยวกับอะไรกับการที่ผู้ใหญ่ต้องผ่านชีวิตที่ขมขื่นหรือเปล่า
ฉันเองก็ตอบไม่ถูกว่าอะไรทำให้เด็กที่เกลียดกาแฟคนนั้นกลายมาเป็นผู้ใหญ่ที่รักกาแฟตอนนี้
รู้แค่ว่า ฉันคงไม่เลือกกินลูกอมระหว่างทำงานส่งอาจารย์ตอนตีหนึ่ง
.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in