“พี่ธาดา เรียบร้อยครั--”
พีระที่เดินออกมาเรียกนักบินรุ่นพี่ตามที่กัปตันมานพไหว้วานชะงักอยู่ตรงทางเดิน เมื่อเห็นธาดาคุกเข่าอยู่หน้าที่นั่งผู้โดยสารริมหน้าต่างที่หนึ่ง
หลังจากที่ชายหนุ่มนั่งฟังกัปตันมานพจนเข้าใจทุกอย่างโดยละเอียดแล้ว ก็ถือโอกาสขออนุญาตออกมาสลับตัวกับนักบินผู้ช่วยที่แท้จริง แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าเมื่อเดินตามทางที่น้องแอม เพอร์เซอร์คนสวยบอกมา จะได้พบเรื่องสนุกๆ อยู่ตรงหน้า…
ถึงพีระจะเห็นเลาๆ ว่าอีกฝ่ายจะทำตามข้อกฏบังคับโดยการถอดบั้งที่บ่าออกก่อนจะเข้ามาในห้องโดยสารแล้วก็ตามที แต่ไอ้การจะได้เห็นพี่ธาดาที่มีนิสัยเข้มงวดผิดกับหน้าตาที่อ่อนโยนราวกับเด็กไม่ประสีประสาจนดูเหมือนจะถูกชักจูงได้ง่ายคนนั้น ทำเรื่องใกล้เคียงการแหกกฏซึ่งห้ามไม่ให้นักบินเดินไปทั่วเคบินด้วยชุดเต็มยศ อย่างฉิวเฉียดแบบนี้ ย่อมต้องคุ้มค่าที่พีระจะเข้าไปรับรู้อย่างไม่ต้องสงสัย
กรุณาใช้คำว่ารับรู้นะครับ… ไม่ใช่สอดรู้… พีระคิดในใจ...
พีระย่องเข้าไปทางด้านหลังที่นั่งหมายเลขสองเคช้าๆ ธาดาที่ก้มตัวอยู่ และด้วยมีทั้งปรมัตถ์บวกกับพนักพิงบังจึงมองไม่เห็นเขา ชายหนุ่มขี้เล่นแอบมองท่าทางยิ้มแย้มของรุ่นพี่อยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะเท้าแขนบนที่นั่ง น้ำเสียงร่าเริงเปิดเผยกล่าวขึ้นดังๆ อย่างล้อเลียนแกมแปลกใจ
“หือ… มองไกลๆ ผมนึกว่าพี่ธาดามาจีบสาวนะเนี่ย ที่ไหนได้ เป็นเจ้าหนูตัวกระเปี๊ยก” จากนั้นก็หัวเราะร่วน
ธาดาขมวดคิ้ว เอนตัวออกทางด้านข้างเพื่อดูว่าใครกำลังพูดกับเขา…
อ๋อ เจ้าพีระตัวป่วนนี่เอง…
แต่สำหรับเด็กน้อยที่ไม่ชอบเสียงดังและไม่คุ้นเคยกับคนที่มักทำเสียงโหวกเหวกเหมือนคนป่าคนเถื่อนอย่างพีระ กลับปรับตัวกับการหยอกล้อเสียงสนั่นลั่นทุ่งแบบนี้ไม่ทัน
ปรมัตถ์สะดุ้งเฮือก...
ดีนะที่อาธาดาคาดเข็มขัดนิรภัยให้เขาแล้ว ไม่งั้นเด็กน้อยอาจจะตกใจจนพลัดตกเก้าอี้ ธาดาจึงได้แต่โผเข้าไปกอดปลอบเด็กน้อยแล้วลูบหลังกระซิบว่า ‘ขวัญเอ๊ยขวัญมา’ จากนั้นถลึงตาดุพีระไปหนึ่งดอก ก่อนทำปากขมุบขมิบชี้หน้าคาดโทษเจ้ารุ่นน้องตัวดีไว้
ถึงจะโดนพี่ธาดาดุ แต่ปฏิกิริยารักใคร่ห่วงหากันจนเกินเหตุทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบไม่อาจเล็ดรอดสายตาคมดุจเหยี่ยวของพีระไปได้ และอีกอย่างเขาก็พอรู้เรื่องอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อนอยู่เหมือนกัน ดังนั้น สรุปได้ว่าเด็กน้อยคนนี้ไม่มีทางใช่ลูกชายของธาดาอย่างแน่นอน
ถ้างั้นเด็กคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใคร...
เมื่อแผ่นหลังเล็กๆ ทำท่าผ่อนคลายลงแล้ว ธาดาจึงคลายอ้อมกอดพร้อมกับแนะนำให้ปรมัตถ์และพีระรู้จักกัน
ถึงอย่างนั้น เด็กน้อยยังเกาะอาธาดาแน่นเป็นลูกลิง ทั้งที่พีระเดินอ้อมมานั่งคุกเข่าคุยด้วยแล้ว แถมทั้งคู่ยังจ้องตากันอยู่ครู่หนึ่งด้วย
ทำไมมองฉันอย่างงั้น…
ทำอย่างกับฉันจะแย่งพี่ธาดาไปงั้นแหละ...
อะไรของเด็กนี่วะเนี่ย…
พีระคิดในใจได้ไม่ทันไร ธาดาก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น ดึงสายตาสองคู่เล็กหนึ่งใหญ่หนึ่งที่จดๆ จ้องๆ กันอยู่ให้หันไปหาคนพูด
“พีระ ขาไปเรานั่งในเคบิน พี่ฝากมัตถ์ด้วยก็แล้วกัน”
เด็กน้อยอ้าปากหวอ ส่ายหน้าหวือ...
ส่วนชายหนุ่มตอบ ‘ได้ครับ’ คำหนึ่ง แต่ในใจพลันขอบคุณรุ่นพี่ที่เปิดโอกาสให้เขาวางแผนตีสนิทอย่างลิงโลด
ด้วยความเต็มใจเลยคร้าบ พี่ธาดา...
หึ… ขาไปนี่เขานั่งเป็นนักบินสำรองหรือที่เรียกว่าเดดเฮดดิ้งไพล็อต เดี๋ยวหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ นี้พ่อจะขอสัมภาษณ์เจ้าหนูน้อยหัวแก้วหัวแหวนคนใหม่ของพี่ธาดา สืบเรื่องสาวๆ ของรุ่นพี่คนนี้เสียหน่อยเถอะ! ไม่แน่นะ… ไอ้จิ๋วนี่อาจจะเป็นลูกติดแม่ม่ายสุดฮ๊อต แฟนใหม่ของพี่ธาดาก็ได้
พีระคิดแล้วก็ได้แต่เหล่ไปทางปรมัตถ์ พร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์…
หัวคิ้วของเด็กน้อยขมวดแน่น ริมฝีปากเล็กๆ เม้มจนแทบเป็นเส้นตรง นัยน์ตากลมโตหรี่ลงครึ่งหนึ่งแล้วจ้องหน้าผู้ใหญ่ที่ปรายตามองมาราวกับกำลังอ่านใจพีระ…
พีระจ้องกลับไป...
มองไรฟะ ไอ้จิ๋ว!
ชายหนุ่มยู่ปากใส่เด็กน้อยที่มองมาทางเขา จนธาดาต้องจิ๊ปากปรามไปอีกรอบ แต่พอคล้อยหลังนักบินรุ่นพี่ พีระก็รู้สึกเหมือนเห็นเจ้าจิ๋วแลบลิ้นให้เขา กล้ามเนื้อชุ่มชื้นสีแดงสดตวัดแวบเดียวจนเกือบมองไม่ทัน ก่อนจะย่นจมูกให้เขาทีหนึ่ง จากนั้นหน้านิ่งๆ ก็ส่งสายตาเฉยสนิทเหมือนปลาตายมาให้เขา
แค่อ่านจากสีหน้าดูก็รู้แล้วว่าแสบหลบใน!
พีระเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันถลึงหน้าถลึงตาทะเลาะกับเด็กรุ่นลูกในใจ แต่แล้วพักเดียวเท่านั้น ก็เป็นสมองอันเฉลียวฉลาดว่องไวของพีระอีกนั่นแหละที่ตีความสีหน้าราบเรียบเกินเด็กของไอ้จิ๋วตัวแสบที่เขาเพิ่งตั้งฉายาให้ใหม่ขึ้นมาได้
ถึงแม้ไม่ได้ยินเสียง แต่สมองของพีระก็ได้ยินแจ่มแจ้งเลยว่าเด็กจิ๋วนี่พยายามโทรจิตสื่อสารอะไรกับเขา!
'จะมาสืบข่าวอาธาดาเหรอ ฝันไปเหอะ พี่พีระคนป่า' แบล่…
ไอ้ตัวแสบ!!!!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in