(1)
Santa Monica
‘ผมได้ข่าวว่าน้องมันไปแอลเอพี่เจอกันหรือเปล่า’
ข้อความจากองซองอูทำให้ผมปลายตาหันไปมองร่างสูงใหญ่ที่นั่งพิงกำแพงสายตาเขาทอดมองไปยังวิวภายนอกห้องนอนตอนนี้
ไม่เจอ…
ที่ไหนกันล่ะ!
ทันที่ที่ผมมาเหยียบแผ่นดินอเมริกา จู่ ๆ ก็มีสายเข้าเป็นเบอร์ที่ผมไม่รู้จักโทรเข้ามาเสียงหายใจและประโยคแรกที่เขาเอ่ยขึ้นมันทำให้ผมใจเต้นผิดจังหวะ
[อยากเจอ..]
เสียงทุ้มติดสำเนียงปูซานมันคุ้นหูจนผมไม่ต้องเอ่ยถามชื่อจากคนปลายสาย
“ดะ..แดเนียล” อ่า..ผมว่าจะผมตั้งใจควบคุมเสียงไม่สั่นแล้วนะแต่ทำไงได้ ตอนนี้ดันตื่นเต้นซะงั้น
[มาเจอกันหน่อยสิ…พี่ซองอุน]
“นายอยู่ที่นี่..?”จากที่ซองอูบอกมาแดเนียลเพิ่งบินมาถึงก่อนผมไม่นานมานี้เองแต่เขาหาทางติดต่อผมได้เร็วขนาดนี้ได้ไงทั้งที่เราสองคนขาดการติดต่อกันไปร่วมเดือนด้วยซ้ำ
ผมรู้เรื่องราวบางอย่างที่กำลังเป็นปัญหาของแดเนียลที่ผ่านมาผมทำได้เพียงให้กำลังใจเท่าที่มีโอกาสผมรู้มันไม่ง่ายหรอกแต่แดเนียลจะผ่านไปได้
ผมเชื่อในตัวเขาน่ะ เชื่อเขาเหมือนที่ใครหลาย ๆ คนก็เชื่อเช่นกัน
“จ้องกันแบบนี้ มีอะไรจะถามผมเหรอ”เพราะแดเนียลรู้ตัวว่าถูกจ้องอยู่เขาจึงหันมาหาผม
“พี่แค่..อยากรู้ว่านายสบายดีไหม”
เป็นคำถามที่คงมีคนนับหมื่นนับแสนอยากจะรู้…เหมือนกับผม
“ต้องการคำตอบแบบไหนล่ะ แบบที่ทุกคนต้องการ หรือ..”ร่างสูงเอี้ยวตัวหันมาจ้องหน้าผมสายตาเราสบกัน
“แบบที่นายรู้สึก”ผมสวนกลับไปก่อนที่เขาจะเอ่ยจบ “อยู่กับพี่…นายอยากพูดอะไร อยากทำอะไร ก็ทำได้นะ”
“หืม…ได้หมดเลยเหรอ”แดเนียลเม้มปากเบาๆ สายตายังคงจับจ้องมองมาไม่หยุด
สายตาแบบนี้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างไรก็ไม่รู้แดเนียลใช้สายตาเก่งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมรู้ดี
“เดี๋ยวตีเลยจ้องเก่งเกินไปแล้วนะ!”ผมขึ้นเสียงใส่แดเนียลที่เอาแต่อมยิ้มใส่ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ไปหาอะไรกินกันไหมพี่หิวอะ”ผมเปลี่ยนเรื่องเมื่อแดเนียลยังคงจ้องหน้ากันไม่หยุด
“ไปดิ ไปร้านที่เราเคยมาด้วยกันตอนนั้นดีปะ”แดเนียลเสนอ
“แถวหาดใช่ไหม”
“ใช่..”
พอเขาเอ่ยถึงตอนนั้นภาพความทรงจำที่เคยมาที่นี่ด้วยกันกับเพื่อนพี่และน้องอีกสิบคนก็ย้อนกลับเข้ามาในความคิด
อืม…คิดถึง
เมื่อเกือบสองปีที่แล้วผมเพื่อนร่วมวงอีกสิบคนเดินทางมาเล่นคอนเสิร์ตที่ลอสแองเจลิสและได้ไปเที่ยวที่หาด Santa Monica ด้วยกัน และในตอนนี้ผมก็กลับมาที่นี่คนเดียวอีกครั้ง
..ไม่ใช่คนเดียวสิ ในเมื่อเจ้าคนตัวโตที่เดินข้าง ๆดันโผล่มาให้เจอถึงที่นี่เสียอย่างนั้น
แปลกดีที่หัวใจผมมันเต้นแรงเพียงแค่ได้เห็นแผ่นหลังกว้าง ๆ นั่นในชุดเสื้อยืดสีเข้มสบาย ๆ เข้ากับกางเกง Adidas สีดำที่แดเนียลชอบใส่ประจำเพียงแค่นี้ก็ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่มหลุดยิ้มออกมาอาจเพราะไม่ได้เจอกันเกือบสองเดือนได้ล่ะมั้งถึงรู้สึกคิดถึงเขามากกว่าปกติ
หลังจากที่ขออนุญาตผู้จัดการเพื่อออกมาข้างนอกกับรุ่นน้องคนสนิทแบบส่วนตัวแล้วผู้จัดการก็ยังกำชับอย่างหนักแน่นว่า ‘อย่าให้ใครถ่ายภาพได้’ ซึ่งผมก็รับปากแค่โดยดีจะไม่ให้หลุดหรอก เนียนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เชื่อสิ! และแล้วกลายเป็นว่าตอนนี้หนุ่มเอเชียสองคนก็ได้นั่งอยู่ในร้านอาหารกึ่งบาร์ที่เคยมาด้วยกันครั้งที่แล้วพวกเขาเลือกทานอาหารอเมริกัน พร้อมกับ Craft Beer คนละขวดเช่นเคย
ช่วงพลบค่ำริมหาดยังเต็มไปด้วยผู้คนไม่ได้ลดน้อยลงเท่าไรนักท้องทะเลสีครามของมหาสมุทรแปซิฟิกตัดกับแสงอาทิตย์ที่กำลังอ่อนแสงลงแต่ยังคงสาดส่องไปทั่วท้องฟ้ากระทบกับก้อนเมฆสีขาวจนเกิดภาพที่สะดุดตาเจ้าชายแห่งก้อนเมฆให้หยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาเก็บภาพวิวนั้นไว้ก่อนคนตัวเล็กจะหันมาหาคนข้างกายพร้อมรอยยิ้มที่คนตัวโตเคยบอกว่ามันน่ารักมากๆ
“แดเนียล..ถ่ายรูปกัน”แดเนียลรู้งานดีจึงหันมาส่งยิ้มมองกล้องผมเอียงคอไปซบกับไหล่กว้าง ๆ ของแดเนียล คนตัวโตตัวแข็งนิ่งเหลือบตามองผมล่อกแล่กเพราะเขาไม่ชินกับการที่ผมเริ่มก่อนล่ะมั้ง
เสียงกดชัตเตอร์ดังไปพร้อมกับรอยยิ้มของทั้งคู่
มันคือ…ภาพที่มีแค่เรา
แค่เราจริง ๆ
“พี่มีงานวันไหน”ระหว่างที่ทานอาหารแดเนียลก็เป็นฝ่ายเปิดบทสนทนา
“พรุ่งนี้ มาดูดิ”
“อยากไปนะ แต่ยากว่ะ คนรู้แน่..”
“เออ นั่นดิ ก็เสี่ยงไป”
“’งั้นทำให้เต็มที่แล้วกัน พี่เก่งอยู่แล้วผมรู้ จะรอดูคลิปนะครับ”แดเนียลยิ้มจนตาหยีใส่ผม
ทำไงดี…หัวใจผมมันจะระเบิดแล้ว!
“เขินเหรอ”
“เปล่าซะหน่อย”ผมพูดปด
“คนเราอะ…อยู่ด้วยกันมาตั้งสองปีจะเดาไม่ออกได้ไงว่าแบบไหนเขิน แบบไหนโกรธ”เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ผมคาดเดาไม่ออกแต่สายตาที่เขามองมามันยิ่งเพิ่มความแดงของใบหูและใบหน้าผมได้ดี
“…”
“แล้วแบบเนี้ย…คือเขินผม ดูออก”
“แล้วแบบไหนคือคิดถึงล่ะ”ไหน ๆก็โดนเด็กมันเล่นงานแล้ว เจอกันสักตั้งเป็นไง
“แบบผมไง”แดเนียลยักคิ้ว พลางยิ้มมุมปาก “คิดถึงจะแย่ ไม่งั้นไม่มาถึงนี่หรอกนะ”
…จบกัน
ใครจะทนก็ทนไป แต่ผมน่ะ ไม่ทนโว๊ย!
คังแดเนียลมันอ้อนเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ให้ตายเถอะไม่ใช่ว่าแต่ก่อนผมจะไม่เคยเจอเหตุการณ์แนว ๆ นี้หรอกนะ ตอนนั้นเขามากอด มาวอแว มาดมมาอุ้ม จิ้มแก้ม จับหน้าอก จับก้น ก็คือไอ้เด็กนี่มันทำกับผมมาหมดแล้วแถมยังไลฟ์ไปบอกว่าผมเป็นความรัก ผมน่ารักต่าง ๆ นานาอีก แต่ก็นั่นแหละทั้งหมดทั้งมวลยังไม่เขินเท่ากับคำว่าคิดถึงที่น้องมันหมายถึงเมื่อกี้เลยว่ะ
อาจเพราะว่าผมก็คิดถึงเขามากเหมือนกันไงถึงทำให้ความหมายของคำนี้มันพิเศษกว่าครั้งไหน ๆ
“งั้นก็อย่าหายไปนาน ๆ สิ พี่ก็คิดถึงนายนะ”
“ครับ…จะไม่หายไปไหนอีกแล้วล่ะ”
“ตอนนี้ทุกอย่างโอเคใช่ไหม”แดเนียลถามผมหลังจากที่พวกเราทานอาหารเสร็จสิ้น พวกเราย้ายตัวเองมานั่งริมหาด
ขวดเบียร์ที่มีเพียงหนึ่งก็เพิ่มมาเป็นสองแดเนียลยกขวดชึ้นมาชิดริมฝีปากก่อนจะกระดกเบียร์กลืนลงลำคอใบหน้าเรียวเมียงมองมายังผมที่กำลังนั่งชันเข่าเท้าคาง ในมือถือขวดเบียร์แกว่งไปมา
“โอเคเลยล่ะ สนุกนะที่ได้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เคยได้ทำแต่มันก็มีนิดนึงที่รู้สึกคิดถึงวันเก่า ๆ แต่ก็นั่นแหละอย่างที่พวกเราเคยคุยกันทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้น”
ผมถอดมองไปยังหาดทรายและท้องทะเล ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปได้ไม่นานนักแต่ยังหลงเหลือเพียงแสงรำไรพอจะให้เห็นเสี้ยวหน้าขงแดเนียลที่นิ่งเงียบไป
“นายน่ะทำได้ดีแล้วนะแดเนียล”
“….”
“ในวันข้างหน้า…สัญญานะว่าเราจะได้เจอกันบนเวทีประกาศรางวัลสักงานหนึ่งพี่จะนั่งดูโชว์ของนาย และนายก็จะดูโชว์ของพี่ เราจะได้ไปคอนรวมด้วยกันไปเจอกันตามรายการวาไรตี้ พี่อาจจะได้แต่งเพลงให้นายร้องสักเพลง…มันคงดีมาก ๆ เลยว่าไหม”
“พี่ซองอุน…”น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบา ๆ ก่อนจะดึงร่างผมเข้าหาตัวเขา
กอดที่ผมคุ้นเคย
กอดที่ให้ความอบอุ่น
…กำลังสั่นไหว
“เชื่อพี่นะ และพี่ก็เชื่อในตัวนาย คังแดเนียล…นายนะเก่งที่สุดเลย”
It's so sweet, knowing that you love me.
(2)
You
“ขอกอดหน่อย”ไม่ทันที่ประตูห้องจะปิดด้วยดี ผมรวบร่างเล็ก ๆ ที่เอ่ยคำขอนั่นเข้ามาในอ้อมกอดทันทีเมาแล้วน่ารักแบบนี้ ไม่ชอบหรอกนะ…
พี่มินฮยอนเคยบอกว่าช่วงที่เป็นเมทกับพี่ซองอุนน่ะ เวลาคนตัวเล็กเมาทีไรตื่นมาอีกทีถอดเสื้อผ้าเกลื่อนเตียงไปหมด ถอดเก่งขนาดนี้ควรมานอนกับผมปะ…ให้ตายเหอะ
“ตอนนั้นยังมีแพคอยู่เลยเดี๋ยวนี้มันหายไปไหนแล้วล่ะพี่”จำได้ดีจำได้ขึ้นใจว่าในคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของพวกเราพี่ซองอุนโชว์อะไรไว้ฮือฮากันทั้งฮอล์ไหมล่ะแต่ไอ้พี่ก็ดูไม่สนอะไรเลย…ก็นะโชว์เก่งตั้งแต่ตอนอยู่ในรายการแล้วคนนี้
“ปากนิ่มเหมือนเดิมไหมพี่ลองหน่อยดิ”
ริมฝีปากอวบอิ่มถูกครอบครองด้วยริมฝีปากของคนที่ตัวสูงกว่าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวแต่ถึงอย่างนั้นคนในอ้อมก็กอดเงยหน้ารับจูบอย่างเคยชิน ระหว่างเราสองคนน่ะคุ้นเคยกันและกันดี จุดไหนที่พี่ซองอุนชอบ จุดไหนที่จะทำให้เขามีความสุข…ผมรู้ ไม่ต่างกัน เขาเองก็รู้ว่าผมชอบแบบไหน
ร่างกายของเรามันทำงานไปตามสัญชาตญานความต้องการที่ไหลวนอยู่ภายในเริ่มปลุกความเป็นตัวตนของเราสองคนริมฝีปากอวบอิ่มกดย้ำจูบบนกลีบปากล่างของผม ขบเม้มแผ่วเบาอย่างเคลิบคลื้ม ผมลากลิ้นเลียไปตามริมฝีปากอวบอิ่มเชื่องช้าก่อนจะแทรกมันเข้ามาภายในโพรงปากอุ่น สัมผัสเร่าร้อนเต็มไปด้วยรสชาติของเบียร์ที่ดื่มมาเมื่อก่อนหน้านี้ยิ่งทำให้ผมและเขาดำดิ่งไปนห้วงอารมณ์ที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ
“อื้อ..”
“อ่า..คิด..ถึง..”ผมเอ่ยไปพร้อมกับพรมจูบปรายคางมน ไล่มายังแก้มเนียน คลอเคลียปรายจมูกรั้น ๆ น่ารักก่อนจะกลับไปยังริมฝีปากอวบอิ่มที่ผมหลงใหลอีกครั้ง
ความร้องแรงทวีคูณ…จนไม่ได้สนใจเลยว่าเราจูบกันไปนานเท่าไหร่เพราะต่างคนต่างใช้เวลานี้บอกรักกันอย่างไม่รู้จบ
“อา..จูบอีก..จูบพี่อีก”
ผมน่ะไม่เคยขัดใจคนตัวเล็กหรอก
จูบของพี่ซองอุนเหมือนยาเสพติดที่พอเริ่มติดแล้วก็อยากจะลองมันเพิ่มขึ้นไปอีก สัมผัสหวาน ๆ จากคนตัวเล็กปลุกปั้นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งลิ้นอุ่น ๆ นั่นหยอกเย้ากับปลายลิ้นของผมจนน้ำใส ๆ ไหลเยิ้มออกมาเลาะขอบปากก็ยิ่งทำให้อารมณ์ที่มีอยู่พุ่งสูงขึ้นจนทรมานไปทั้งร่าง
“ดะ..เนียล อืม..”
ริมฝีปากแดงระเรื่อครางเสียงออกมาเมื่อสัมผัสชื้นแฉะแตะแต้มไปทั่วลำคอผมจูบย้ำลงไปตรงร่องกลางระหว่างไหปลาร้าของคนที่นอนปรือตาอยู่บนเตียง
ผมค่อยเลื่อนมือไปถอดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนบนตัวของพี่ซองอุนมือสองข้างของคนตัวเล็กกึ่งเปลือยโอบรอบคอ ก่อนจะค่อย ๆเลื่อนไล้มือมาตามลาดไหล่หนา ลากผ่านหน้าอกที่แน่นด้วยกล้ามเนื้อ พลางใช้นิ้วเรียวๆ สะกิดกระดุมเสื้อบนตัวผมเช่นกัน
“พี่ ยะ..อยากกอดนาย”ผมดึงร่างคนตัวเล็กที่กึ่งนอนกึ่งนั่งให้ลอยขึ้นมาก่อนจะจับสะโพกมนมานั่งทับบนทักตัวเอง
ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันจนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่กระชั้นขึ้นตามแรงขับจากภายใน ใบหน้าหวานแดงเรื่อเมื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่คับแน่นภายใต้เนื้อผ้าที่นั่งทับอยู่
“แน่นไปหมดแล้วนะ”คนตัวเล็กชี้นำ
“ทำไงดีล่ะครับ ผมว่ามันอยากเจอพี่นะ”ผมเงยหน้าไปสบตาเขาก่อนจะหยอกเย้าด้วยรอยยิ้มเรามองกันอย่างรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ พี่ซองอุนหัวเราะเบา ๆก่อนจะก้มใบหน้าลงมากดจูบข้างใบหูผม ลิ้นเล็ก ๆ และปากอวบอิ่มดูดเม้มบริเวณผิวเนื้อผมเบาๆ
“ไหน ๆ แล้ว..คงต้องเจอกันหน่อยแล้วล่ะ ยังว่านอนสอนง่ายเหมือนเดิมหรือเปล่าน้า”
“อยู่แล้ว มันน่ะชอบพี่จะตาย ลองจับดูสิครับ”
“อืม..ม”ร่างกายผมกำลังถูกคนตัวเล็กเล่นงานด้วยสัมผัสชื้นๆ นั่น ปลายลิ้นที่ครอบครองผม นิ้วมือที่กำลังรูดขึ้นลงไปมา…ยิ่งถี่เท่าไรเสียงลมหายใจของผมก็ยิ่งขาดห้วงอย่างทรมาน
“อื้ม ม..มันดิ้นสู้จังอะ”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเบาๆ พลางเงยหน้ามาสบสายตาผมที่จ้องเขาอยู่
“กะ..ก็พี่กำลัง..อะ..แกล้งมันนี่นา”ผมเอ่ยอย่างติดขัดสติสัมปะชัญญะไหลลงไปกองตรงหว่างขาหมดแล้ว รวมถึงเลือดในกายด้วย เพราะตอนนี้น่ะมันแข็งจนแทบปริแตกร่อมร่อ
“แล้วชอบไหม..”
“…โคตรอะ ใกล้แล้ว…อ่า..”
ผมเอนตัวนอนลงกับเตียง พลางรั้งร่างคนตัวเล็กที่กำลังก้มเงย ๆ เพลิดเพลินกับการปั่นป่วนผมให้เปลี่ยนมานอนตะแคงข้างหันหน้าเข้าหากันปากหยักจูบเม้มกดสัมผัสเข้ากับปากอวบอิ่มซ้ำ ๆ ใช้มือเรียวยาวลูบไปตามสีข้างและแผ่นหลังเนียนก่อนจะค่อยไล่ไปจนถึงสะโพก พลางลูบไล้ก้อนกลม ๆ สองก้อนนั้นที่ทั้งนิ่มและเด้งผมใช้นิ้วชี้และกลางแทรกผ่านก้อนกามสองก้อนนั่นไปแตะสัมผัสกับช่องทางที่เริ่มชื้นระหว่างนั้นอีกมือหนึ่งที่ว่างอยู่แตะสัมผัสกับแกนกายของคนตัวเล็กที่กำลังแข็งชัน ผมรูดขึ้นลงเร่งจังหวะหน่อยๆ จนพี่ซองอุนหลุดเสียงครางออกมา และความชื้นแฉะจากปลายแท่งนั่นก็บ่งบอกว่าทุกอย่างกำลังพร้อมแล้ว
Though we don't need to say it to each other, sweet
ลมหายใจของคนตัวเล็กกว่าค่อยๆ ถี่ขึ้นสลับปล่อยเสียงวาบหวามออกมา เมื่อตัวตนของผมแทรกเข้าไปในตัว
“อะ..นะ..แน่น แดเนียล..อา”
“อืม..อีกนิดนะ”
“ยะ..เพิ่งดัน..พี่ จุก”
“..อ่า”เพราะใบหน้าหวานเหยเกผมเลยหยุดที่จะขยับร่างกายเพื่อเข้าไปให้ลึกกว่าเดิมคงต้องรออีกนิดให้พี่ซองอุนปรับตัวได้เสียก่อน
ผมก้มลงจูบริมฝีปากอิ่มที่เจ่อแดงอีกครั้งปลอบประโลมคนตัวเล็กด้วยสัมผัสที่อ่อนโยน ในช่วงที่คนตัวเล็กกำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสที่ผมมอบให้ร่างสูงจึงค่อย ๆ ดันตัวตนให้ลึกเข้าไปอย่างเชื่องช้าจนมิด
“อ๊ะ..”
พี่ซองอุนใช้จมูกคลอเคลียกับจมูกผมมือเล็กโอบรอบคอแกร่งที่กำลังเริ่มขยับกายเป็นจังหวะเนิบนาบ ทุกจังหวะที่ขยับเขยื้อนกายเรียกเสียงครางสลับกับลมหายใจถี่ๆ ของคนตัวเล็กได้ดี ผมจับเรียวขาพี่ซองอุนให้อ้าออกรับสัมผัสที่แนบแน่นขึ้น ก่อนจะยกขาข้างหนึ่งมาพาดบนไหล่และเร่งจังหวะโดยกระแทกสะโพกเข้าไปเน้นๆ
ช้า สลับ ถี่
เนิบนาบ สลับเร่งเร้า..
…วนอยู่อย่างนั้น
ยิ่งตรงจุดไหนที่เสียงหอบหายใจของคนตัวเล็กถี่กระชั้นขึ้นผมจะยิ่งเน้นคลึงอยู่จุดนั้นซ้ำๆจนพี่ซองอุนหลุดครางไม่ได้ศัพท์ออกมา
แรงปรารถนาที่พุ่งทยานสูงขึ้นเรื่อยๆ เผาไหม้เราสองคนจนลืมสิ้นความจริงใด ๆ สติและความนึกคิดต่าง ๆ ที่มีกำลังถูกสัญชาตญานครอบงำให้จดจ่อไปกับสัมผัสของร่างกาย
เราสองคนต่างกำลังบอกรักกันนับพันครั้ง
บอกรักกันผ่านร่างกาย…
Though we don't need to say it to each other, sweet
Knowing that I love you, and running my fingers through your hair
ผมจูบเบา ๆที่ขมับของคนตัวเล็กที่นอนหมดแรงหลังจากผ่านกิจกรรมเรียกเหงื่อกันไปไม่นานพี่ซองอุนครางเบา ๆ รับสัมผัส ก่อนจะพาดแขนมากอดผมไว้ ใบหน้าหวานซุกซบกับหน้าอกผม ผิวกายเนียนขาวแดงระเรื่อเล็กน้อยเพราะเสียดสีกับเตียงและเกิดจากการสัมผัสของผม
“พรุ่งนี้จะเป็นไงนะ”เสียงงึมงำของพี่ซองอุนเอ่ยขึ้นมาราวกับกังวลอะไรบางอย่าง
“พี่…ระหว่างเราน่ะ..มัน”
“แดเนียลพี่อยากมีนายนะ…แต่ก็รู้ใช่ไหมว่ามันไม่ง่ายเลย”ใบหน้าหวานที่ซบหน้าเข้ากับหน้าอกผมอยู่ก่อนนี้เงยขึ้นมาพลางสบสายตากับผมนิ่งๆ
“รู้สิ มันไม่ง่ายตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ด้วยกันแล้วไง”
“อือ..ตอนนั้นน่ะ นายแสดงออกมากไปด้วยซ้ำ”
“ก็..”ผมปฏิเสธไม่ได้เลยเพราะที่เขาพูดมามันจริง ตอนที่อยู่ในวงน่ะ ใคร ๆ ก็รู้ว่าผมชอบเขาแค่ไหนทำทุกอย่างขนาดนั้น ดูไม่ออกก็แย่แล้ว
“ถึงกับไปบอกว่ามีคนลือว่าพี่เป็นแฟนสาวของนาย พี่เห้นแฟนคลับงงกันใหญ่เลยล่ะ”
ผมหัวเลาะลั่นกับประโยคที่เขาพูดใช่…ในรายการนั้น ผมเป็นคนพูดถึงเองทั้งหมดจนวันต่อมาถึงกับเป็นข่าวในอินเทอร์เน็ต
แล้วไงอะ…ซองอุนแฟนสาวของคังแดเนียล
ผมว่าก็เพราะดีว่านะ
“พี่ลงรูปผมบ้างดิ”
“บ้าเหรอ ไม่..”
“ทำไมอะ”
“เสี่ยงเกินไปนายไม่รู้เหรอว่ามีแฟนคลับ เอ่อ เรียกว่าไงนะ..?”
“ชิป”
“อ่า นั่นแหละ มีแฟนคลับชิปพี่กับนายด้วยนะอย่าลงเลย”
“โห…กับพี่องอะก็มีคนชิปกับพี่นะครับ พี่ยังลงรูปเขาได้เลยอะ แต่กับผมนะ ไม่ยอมท่าเดียว” ปากหยักยู่เบา ๆ ทำหน้าหงอยเหมือนน้องหมาที่ถูกเจ้าของเมินเฉยใส่ ผมน้อยใจเป็นเหมือนกันนะเห็นแบบนี้
“แดเนียลอ่า ไม่น้อยใจสิ”เพราะเห็นว่าผมเงียบ คนตัวเล็กก็พาตัวเองเลื้อยขึ้นมานอนทับบนตัวผมซะงั้น
กลายเป็นว่าร่างกายเปลือยเปล่าของเราสองคนกำลังแนบชิดกันอีกครั้ง
“ง้อผมเลย”
“เจ้าเล่ห์เนอะ..”
“แล้วไงอะครับตัวเล็ก”
“หึ่ยย ทุกทีอะ”ริมฝีปากอวบอิ่มเบะหน่อย ๆ ใช้สายตาเหล่มองผม
“พี่รู้ดีนะครับว่าควรง้อยังไงผมถึงจะหายน่ะ”ผมกระตุกยิ้มใส่คนน่ารักที่หน้าแดงแจ๋อย่างนึกขันโดยที่พี่ซองอุนได้แต่จิ๊ปากขัดใจ
“ไหน…คนเก่ง ง้อผมแบบที่พี่ชอบทำสิครับ”
ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินย้อนกลับไปราวกับเพลงที่เปิดวนซ้ำ ๆอย่างนั้นทั้งคืน..
END
tag #แฟนฮวังฟิคชั่น
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in