เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Fiction Kirst x SingtoNapassorn CHAN
ทฤษฎีคนแหกกฎของสิงโต
  • ทฤษฎีคนแหกกฎของสิงโต

    1. ปลุก

    2. ตามรับส่ง

    3. จัดแจงทุกสิ่งอย่าง

    4. คอยโทรตาม

    5. ชอบทิ้งให้อยู่คนเดียว...





    บางทีการที่เราใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเป็นเวลานานๆ มันก็ทำให้เราไม่ชินเวลาที่มีใครอีกคนก้าวเข้ามาเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิต มาแหกกฎที่เราตั้งไว้











  • 1. ปลุก


         ผมมักเป็นคนที่ชอบตื่นสาย ...
         การที่ผมทั้งทำงานและเรียนไปด้วย ทำให้เวลานอนของผมไม่ค่อยแน่นอน พอมีเวลานอน...หลับข้ามวันเลยก็มี
         แต่... พอมีสิ่งชีวิตแบบเจ้าก้อน ที่ผมมักเรียกติดปาก เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
    ชีวิตในการนอนของผมก็เปลี่ยนไป...
         จากที่ต้องตื่นเพราะนาฬิกาปลุก....แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกต่อไป

         “พี่มึงตื่นได้แล้ว”

         สองมือขาวๆ เอือมมือเขย่าปลุกคนนอนข้างๆ ที่ตอนนี้นอนคุ้มโปงด้วยความรำคาน แต่คนปลุกก็ไม่ยอมแพ้ยื้อแย่งผ้าห่มกับคนที่นอนอยู่ คิ้วหนาขมวดคิ้วมองคนที่นอนขี้เซ้า ต่อให้ปลุกยังไงก็ตื่นยากซะเหลือเกิน

         “พี่มึง! วันนี้มีสอบนะเว้ย รีบลุกเลย”

    แต่อีกฝ่ายกลับนอนนิ่ง
    คริสเลยตัดสินใจด้วยการ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    กระโดดทับ !!!


    “อ๊ากกก !!! ไอ้ก้อน”

         แล้วมันก็ได้ผลเพราะสิงโตถึงกับร้องลั่น กับน้ำหนักตัวของเจ้าก้อน...
    อย่างกับกินช้างมาทั้งตัว แล้วดูตัวผมที่มันโดดทับมา ยังจะมาหัวเราะชอบใจอยู่ได้ พี่มึงจะแบนแล้ว!

         “อย่าให้ลุกได้นะก้อน!”

         “แล้วพี่มึงจะตื่นไหม”

         “เออ! ”

         “ก็แค่นั่น เดี๋ยวคริสไปเตรียมข้าวเช้าไว้ให้”

         คริสพูดขึ้นอย่างอารมณ์ วันนี้เป็นอีกวันที่เขาปลุกอีกฝ่ายสำเร็จไปด้วยดี ถึงแม้จะต้องออกแรงกระโดดทับพี่สิงก็ตาม สงสัยวันนี้ต้องชวนนิววี่ไปเติมของหวานทดแทนพลังงานที่เสียไปซะแล้ว เย่ !







  • 2. ตามรับส่ง



         ผมเป็นคนที่ไม่แน่นอนเรื่องอารมณ์ซักเท่าไหร่ เวลานึกอยากไปไหนก็ไป
    ปกติก็ใช้บริการรถสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ เพราะที่บ้านเป็นห่วงเวลาขับรถเอง เพราะผมทั้งทำงานและเรียนไปด้วย ท่านก็กลัวว่าผมจะวูบหลับในเกิดอุบัติเหตุได้ เอาจริงก็ขี้เกียจด้วยแหละ

         แต่พอเจ้าก้อนเริ่มมีบทบาทในชีวิตผมมากขึ้น ทำให้การเดินทางผมดูมีความระบบ
    ระเบียบมาก(?) คือเช้าคุณก้อนจะรีบไปส่งผม พอตกเย็นหรือผมเลิกเรียนเขาก็มารับ อย่างวันนี้
    08:00 น.

         เป็นเวลาเร่งรีบของใครหลายๆ คน การจราจรที่ไม่ขยับมาเป็นชาติเศษแล้ว มือของผมที่กำลังกดเกมส์อย่างเมามันส์ ถึงกับชะงัก กดพอสเกมส์ไว้แทบไม่ทัน เพราะเสียงจากคนข้างตัวพูดขึ้น

         “พี่สิง วันนี้คริสไปส่ง เดี๋ยวจะรอกลับพร้อมพี่ แล้วแวะไปหาพ่อกันเลยเนอะ” 

         “หืม พ่อใคร พ่อพี่รึพ่อเรา”

         “พ่อพี่สิงอ่ะ ก็เมื่อเช้าใช่ไหมพี่อาบน้ำอยู่ แล้วพ่อก็โทรเข้ามา คริสก็เลยรับแทน พ่อเลยฝากบอกให้แวะเข้าไปหาด้วย”

    ผมเช็คโทรศัพท์ตัวเองทันที พ่อโทรมาจริงๆ ด้วย

    “แล้วเราจะไปรอพี่ที่ไหน” ผมถามอย่างงงๆ เพราะเจ้าตัวจะบอกจะไปนั่งรอผมตอนเลิกเรียน

    “ร้าน amazon ครับ”
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    โดนเฝ้าอย่างเต็มขั้นแล้วครับ สิงโตขอร้องไห้ได้ไหม ฮือออ!!!
  • 3. จัดเตรียมทุกสิ่งอย่าง



         ตารางชีวิตของผมในวันหยุดที่ไม่มีเรียนผมก็จะนอนตื่นสาย พอบ่ายๆ ถึงลุกมาหาอะไรกิน ซักผ้าบ้างอะไรบ้าง แต่! พอมีเจ้าก้อน ตัวรุงรังที่เข้ามาในชีวิตผมเท่านั่นแหละ
    ชีวิตในวันหยุดของผมก็...

         “พี่สิง พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไปตักบาตรให้เจ้ามูบินกัน”

         มูบินก็คือเต่าของเจ้าก้อนที่ตายเมื่อวันก่อน เนื่องจากท้องอืด เพราะกินเยอะไป!

         “เดี๋ยวสายๆ เราค่อยไปหาอะไรกิน”

         “เออๆ ลืม ต้องไปซื้อของเข้าห้องด้วยนี้หว่า”

         พูดจบเจ้าก้อนกระโดดลงจากเตียง วิ่งไปวิ่งพลางจดของที่ตัวเองจะซื้อไปด้วย ผมทำได้แต่นั่งกรอกตาไปมา แล้วทิ้งตัวเองลงนอนตามเดิม

         ตั้งแต่เช้ามาที่ผมลืมตาขึ้นหลังจากโดนปลุกจากฝีมือเจ้าก้อน หมอนั่นก็ยังไม่ยอมหยุดพูดเลย … ไม่รู้นะว่าหายใจทันรึเปล่า

         “พี่สิง! คริสลืมอ่ะ”

         เจ้าก้อนกระโดดขึ้นเตียงแล้วมาเขย่าตัวผม พร้อมกับทำน้ำเสียงร้อนลน 

         “ว่า”

         “คือหนังที่คริสจะดูมันเข้าวันนี้ งื้ออ ไปดูกัน”

         นี้นะเรื่องที่เองลืม โว้ยยยยย! ไอ้ก้อน

         “พี่สิงไปอาบน้ำเลย คริสจะเตรียมชุดไว้ให้ อาหารไปกินข้างนอกเนอะ”

         เจ้าก้อนสรุปเสร็จสับแล้วพาตัวเองไปเลือกชุดให้ผม พร้อมกับเตรียมรองเท้าไว้ให้ แล้วค่อยตัวเองไปอาบน้ำ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าในห้องน้ำมีแปรงสีฟันของผมที่ถูกบีบยายสีฟันไว้แล้ว พร้อมผ้าขนหนูที่แขวนไว้ให้พร้อม

         “ขอบคุณนะครับ” 

         เจ้าก้อนที่จะไปอาบน้ำพูดขึ้น พร้อมกับแก้มแดงๆ ที่ค่อยๆ
    เคลื่อนหน้ามาหาผม แล้วริมฝีปากก็ประทับข้างแก้มผมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเจ้าตัวที่วิ่งหายไปทางห้องน้ำ ทิ้งให้ผมนั่งนิ่ง พร้อมกับอัตราหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ...







  • 4. คอยโทรตาม


         น้อยครั้งที่ผมจะเป็นฝ่ายโทรหาคนอื่นก่อน เพราะปกติก็ส่งข้อความแทนเอาก็ได้ แต่เจ้าก้อนกับงอแงหนักมาก ที่ผมไม่ค่อยโทรหา หรือตอบข้อความช้า

         อย่างไปเรียนผมจะไม่รับโทรศัพท์หรือตอบข้อความเลย บางทีเจ้าก้อนก็ชอบส่งไลน์มาถามว่าจะกินอะไรไหม คริสจะซื้อเตรียมไว้ให้ 

         หรือบางวันที่เจ้าตัวไปเที่ยวกับครอบครัว ก็จะโทรมาเช็คตลอดว่าผมทำอะไรอยู่ กินข้าวรึยัง ถามว่ารำคานก็ตอบได้เลยว่านิดหน่อย ผมก็รู้ว่าน้องเป็นห่วง แต่มันมากเกินไปรึเปล่า จนเราทะเลาะกัน

         “คริสว่าพี่สิงเลิกใช้โทรศัพท์เถอะ”

         “เราอย่าประชดพี่นะคริส ไหนบอกเราจะคุยกันดีๆ ไง”

         “จะให้คุยดีๆ อีกเหรอวะ ผมเพิ่งกลับมาจากใต้หวันแท้ๆ พอลงเครื่องได้ก็รีบไปรับพี่ทันที่ เพราะพ่อพี่ โทรมาหาคริส ว่าพี่สิงไม่มีรถกลับห้อง เพราะทำงานจนดึก แล้วพอผมไปถึง ตึกเรียนพี่เงียบมาก แต่ผมก็ยังนั่งรอพี่อยู่แบบนั่น ผมทั้งแชททั้งโทรแต่ก็ไม่ตอบกลับเลย อึก ” มือขาวๆ ปาดน้ำตาออกจากหน้าตัวเอง พร้อมกับพูดต่อ

         “ทั้งที่พี่ตอบคนอื่นได้ตลอด แต่กับผมพี่ไม่เคยสนใจเลย พี่ทิ้งให้ผมนั่งรอจนเช้า พี่ทำได้ยังไงวะ อึก ถ้าพ่อพี่ไม่โทรหาผม ผมก็คงต้องรอไปแบบนั่นจนเช้าอีกวันเลยรึเปล่า !!!”

         “คริส! ใจเย็นแล้วฟังกันดิวะ พี่ไม่รู้ว่าพ่อพี่โทรไปหาเรา ให้เรามารับพี่ เราก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพี่ไม่ได้เปิดเสียงโทรศัพท์น่ะ”

         “อืม ผมเข้าใจพี่ล่ะ ผมมันโง่ที่ไปรับพี่เอง ผมโง่เองที่ห่วงพี่มากเกินไป และผมก็โง่ที่มารักคนอย่างพี่”

         คำพูดสุดท้ายที่คริสพูดมันดังก้องอยู่แบบนั่น พร้อมกับเจ้าตัวที่เดินชนไหล่ผมออกไป ทั้งน้ำตา สุดท้ายก็เป็นผมบ้างที่ยืนน้ำตาไหล ความคิดในหัวมันตีวนไปหมด ผมหันมองประตูที่ปิดสนิทอยู่ พอจะก้าวเดินตามอีกคนไป ขาก็ไม่เรี่ยวแรงขึ้นมาดื้อๆ ผมทิ้งตัวลงพิงเข้ากับผนังห้อง มองความว่างเปล่าตรงหน้า … ลมหายใจของผมในตอนนี้มันกำลังแผ่วลงเรื่อยๆ หัวใจมันปลิวติดมือตามอีกคนไปแล้ว ได้แต่นั่งยิ้มเยาะตัวเอง กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป
  • 5. อยู่คนเดียว



         วันเวลาในแต่ละวันที่ผ่านไป ผมรู้สึกว่ามันช่างยาวนานรึเกิน ตั้งแต่ไม่มีใครอีกคนที่อยู่ข้างกาย บางทีเราก็ไม่มีความกล้าไม่พอที่จะเดินเข้าไปขอโทษ ได้แต่นั่งคิดนอนคิดไปมาซ้ำๆ เฮ้อ พาตัวเองลุกอาบน้ำตั้งแต่เช้า แล้วมาเรียนด้วยรถแท็กซี่ แล้วฝนก็ตกลงมายิ่งทำให้การจราจรติดหนักเข้าไปอีก แต่ไม่ได้รีบเพราะออกมาเช้ามาก เห็นฝนตกแล้วคิดถึงอีกคนขึ้นมา

         “พี่สิง วันนี้คริสว่าฝนจะตกแน่ คริสเอาร่มใส่ในกระเป๋าให้แล้วนะ”

         พอผมเปิดกระเป๋าดู ก็พบว่ามีร่มพับขนาดเล็กอยู่หนึ่งอัน แต่ผมเห็นไม่จำเป็นใช้ก็เลยเอาจากกระเป๋า พอตกเย็นฝนก็ตกจริงๆ ผมที่วิ่งตากฝนขึ้นรถเมย์กลับบ้านเองในวันนั่น โดนเจ้าของร่มบ่นชุดใหญ่ แถมป่วยหนักอีก

         ไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีหยุดน้ำตาไหลออกมา จนรู้สึกอุ่นๆ ที่ข้างแก้ม ผมรีบยกแขนเสื้อเช็คทันที ความทรงจำระหว่างเรามันช่างมากมายเหลือเกิน สิ่งดีๆ ที่คริสทำให้ผมมันมีเยอะมากจริงๆ 

         “เอ่อ... เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณ”

         “ปะ...เปล่าๆ ครับ ” ผมหันไปตอบคุณลุงขับแท็กซี่ ก่อนจะรีบยิ้มตอบอีกฝ่ายไป คุณลุงแกก็พยักหน้ารับ

         “ตอนลุงอายุเท่าคุณ ลุงก็เคยมาร้องไห้ที่บนรถแท็กซี่นะ”

         ลุงแกพูดขึ้น ผมก็นั่งเงียบฟังแกพูดไปเรื่อย

         “ลุงโดนแฟนบอกเลิก แล้วเขาก็ไล่ลุงออกจากห้องด้วย แต่ก็นะ ลุงก็สมควรโดนเขาบอกเลิกจริงๆ นั่นและ เราก็เอาแต่ทำงานไม่มีเวลาดูแลเขาเลย พอมีเวลาก็ไม่ได้สนใจเขา เพราะคิดว่าเขารักเรามาก เขาไม่มีทางทิ้งเราไปหรอก ... แต่ชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้มีอะไรแน่นอน ถ้าตอนนี้เรายังมีโอกาสที่จะแก้ไข ก็รีบทำเถอะ อย่าปล่อยเวลาทิ้งไว้เลย”

         ประโยคของลุงมันเตือนสติผมในเวลานั่น จากที่คิดว่าน้องคงไม่อยากคุยกับเราแล้ว เอาแต่ไม่กล้าเผชิญหน้า คิดไปเองสารพัด ผมต้องไปตามเจ้าก้อนกลับมา

         “ขอบคุณครับลุง” ผมขอบคุณลุงขับแท็กซี่

         เลิกเรียนผมรีบเก็บของเพื่อที่จะไปหาคนที่ผมคิดถึง แต่ก็เหมือนอะไรๆ ก็ไม่ได้เป็นใจให้ผมขนาดนั่น จังหวะที่เดินข้ามถนนก็มีรถคันหนึ่งตรงมาทางผม ร่างกายของผมปะทะเข้ากับด้านหน้าของรถจนกลิ้งขึ้นฝากระโปรงหน้ารถแล้วตกลงมาบนพื้น สติที่เหลืออยู่น้อยนิดของผม...กำลังคิดถึงรอยยิ้มของเจ้าก้อน ผมพอจะมีโอกาสกลับไปเห็นรอยยิ้มแบบนั่นอีกไหม

         ผมเดินอยู่ท่ามกลางหมอกสีขาวที่หนาตามาก เดินไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย แต่กับเหมือนได้ยินเสียงใครเรียกชื่อตัวเองซ้ำไปซ้ำมา แล้วเสียงก็คุ้นมากด้วย คริสเหรอ ใช่คริสใช่ไหม คริสได้ยินช่วยตอบพี่ที ผมเอาแต่มองหาเสียงนั่น เหมือนเสียงมันดังออกไปไกลเรื่อยๆ ผมที่วิ่งตามจนเหนื่อย นั่งลงอย่างหมดแรง ผมอยากกลับไปหาเจ้าก้อนผมคิดถึงน้อง ได้โปรด ช่วยให้ผมกลับไปหาเขาที

         ขนตาที่ปิดสนิทขยับเล็กน้อย จนเปลือกตาที่ปิดอยู่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แต่ด้วยแสงที่จ้ามากจนเขาหรี่ตาลง หันมองข้างตัวก็พบกับกลุ่มผมสีดำนอนซบอยู่กับฝ่ามือเขา มือที่จับกันจนแน่น เหมือนกลัวผมจะหายไปไหน คริส...พี่กลับมาแล้วนะคนดี

         “คะ...คริส” เสียงที่ผมคิดว่าดังมากติดแหบจนนึกว่าไม่ใช่เสียงผม แต่คนที่นอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นทันที

         “พี่สิง พี่ฟื้นแล้ว อึก พี่ฟื้นแล้ว ฮืออออ”

         “อืม พี่ฟื้นแล้วครับ ขอน้ำหน่อย”

         แก้วที่มีน้ำถูกยื่นมาที่ผมพร้อมกับหลอด ผมค่อยๆ ดูดน้ำเข้าไป คริสที่ร้องไห้ก็ยังคงร้องไห้ต่ออยู่แบบนั่น ผมเอาแต่มองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง คนที่คิดถึงมากที่สุดในเวลานี้ ผมทำเขาร้องไห้อีกแล้วเหรอ

         “พี่ขอโทษครับ”

         “พี่จะขอโทษผมทำไม อึก พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” มือขาวปาดน้ำตาออกจากหน้าตัวเอง ใจจริงผมอยากเป็นคนให้มากกว่าแต่ติดว่าแขนยังไม่มีแรง

         “ผมไปตามหมอดีกว่า”

         “ไม่ต้องหรอก พี่ไม่เจ็บอะไร”

         “พี่อยากอยู่กับเรามากกว่า” ผมบอกอย่างนั่นก่อนจะจะกวักมือให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ 

         “กอดได้ไหม”

         คริสค่อยๆโน้มตัวเองเข้ามากอดผมอย่างแผ่วเบาเพราะว่ากลัวผมจะสะเทือนแผลได้

         “พี่อยากกอดคริสแน่นๆ อยากจูบด้วย”

          เจ้าก้อนที่กอดผมอยู่แก้มแดงขึ้นมาซะงั้น ผมอดใจกับแก้มกลมๆ ไม่ไหว จนต้องกดหอมลงไป โอ๊ยยยยยย แก้มเมียมันชื่นใจจริงๆ 

         “พอเลย ห่วงตัวเองก่อนไหม” ว่าผมด้วยเสียงอ่อนขนาดนี้ คิดว่าผมลจะกลัวไหม
    รอให้ออกจากโรงบาลก่อนเถอะ จะฟัดให้ร้องไม่ออกเลย 

         เสียงเปิดประตูเข้ามาทำให้เราผละออกจากกัน เป็นพ่อผมที่เดินเข้ามา 

    “พ่อครับ”

         พ่อเดินตรงเข้ามากอดผมทั้งน้ำตา ความเจ็บปวดทางร่างกายที่ผมได้รับ ไม่เท่ากับตื่นขึ้นมาเห็นน้ำตาคนที่เรารัก ที่เขากำลังกอดเราพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย 

         “ดีใจที่ลูกกลับมาหาพ่อ อย่าทิ้งพ่อกับคริสไปแบบนี้อีกรู้ไหม”

         มือใหญ่ยกขึ้นลูบหัวผม ก่อนที่หมอจะเข้าตรวจอาการผม อีกสองสามวันผมก็สามารถออกจากโรงพยาบาลแล้ว แผลตามตัวมีช้ำบาง หัวที่กระแทกพื้นก็ไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วง คริสเล่าให้ฟังว่าผมสลบไปถึงสองวันเต็มๆ นั่นคือทำไมทุกคนต่างร้องไห้ที่ผมฟื้นขึ้นมา

         วันนี้ต่อมาครอบครัวคู่กรณีของผมเขาก็เขามาเยี่ยมและขอโทษ พร้อมกับรับผิดชอบค่าใช้ทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวคืออย่าเอาเรื่องลูกชายเขา แต่เหมือนทางเจ้าก้อนจะไม่ยอมความ เพราะทางนั่นขับรถด้วยความประมาท ผ่าไฟแดงมาชนผมที่กำลังเดินข้ามถนนอยู่

         ผมไม่ได้ติดใจที่จะเอาเรื่องเขา เพราะผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก เลยขอร้องคริสให้ยอมความเขาไปเถอะ เจ้าก้อนมีท่าทางฮึดฮัดแต่ก็ยอมตกลงตามที่ผมขอ

         “มานั่งใกล้ๆ หน่อยสิ ไปนั่งตรงโซฟาทำไม”

         ผมเรียกเจ้าก้อนเข้ามาใกล้ๆ ทำท่าเหมือนไม่พอใจแต่ก็ยอมมาอยู่ดี 

         “ยิ้มอะไร” ดูทำเสียงเหวี่ยงเข้า

         “ยิ้มให้แฟน พี่ผิดเหรอ” ผมเอือมมือไปดึงแก้มคนข้างๆ

         “พอเลย ใครเป็นแฟนกัน”

         “อ่อ...ต้องเมียสินะ”

         เพี้ยะ!

         “โอ๊ยยยย ก้อนตีพี่ทำไม พี่ยังเจ็บอยู่นะ” ผมลูบแขนตัวเองปอยๆ

         “ตีคนปากดีไง สม”

         ผมมองตามอีกคนที่ลุกออกไป คาดโทษไว้ใจ รอให้ออกโรงบาลก่อนเถอะ

         ถึงวันที่ผมออกโรงพยาบาล กลายเป็นพ่อผมที่มารับแทน เพราะเจ้าก้อนไม่ว่างขึ้นมากะทันหัน ผมนี้งงมาก แล้วหลายวันที่เฝ้าโรงพยาบาลล่ะ ทำไมถึงว่างมาเฝ้าได้ อารมณ์คล้ายน้อยใจตีขึ้นมาเต็มอก พอโทรหาก็ไม่รับ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ จนมาถึงบ้านผม ก้มมองโทรศัพท์ที่ไร้สัญญาณจากอีกฝ่าย 

         “น้องบอกพ่อรึเปล่าครับว่าไปไหน ทำไมสิงติดต่อน้องไม่ได้เลย”

         “เอาน่า เดี๋ยวน้องก็มาหาเองและ พ่อว่าเรารีบเข้าบ้านไปพักผ่อนเถอะ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเอง”

         นี้คือสิ่งที่ผมทำได้ตอนนั่น คือ นอน ตื่น กิน วนลูปอยู่แบบนั่น เป็นอาทิตย์แล้วที่ผมเฝ้าโทรศัพท์ไม่ขาดตัวเลยแม้แต่วินาทีเดียว คนๆ เดียวที่ผมคิดถึง เขาไม่สนใจที่จะรับสายจากผมเลย ทำไมก้อนใจร้ายกับพี่จังวะ ไม่รักพี่จริงๆ แล้วใช่ไหม

         เฮ้อ ได้แต่ยืนถอนหายใจอยู่ตรงระเบียงบ้าน เวลาเย็นที่อากาศกำลังสบายมีลมพัดเอื่อยๆ พระอาทิตย์กำลังค่อยๆ ลับขอบฟ้า ความคิดต่างๆนาๆกำลังตีกันอย่างยุ่งเหยิงอยู่ในหัวผม 

         “ขมวดคิ้วขนาดนั่น หน้าแกหมดดี”

         ผมหันตัวกลับมากก็เจอกับคนที่ผมคิดถึง... รอยยิ้มกว้างถูกส่งมาให้ จนต้องพาตัวเองเข้าไปกอดอีกฝ่ายจนแน่น

         “หือ พี่สิง คริสหายใจไม่ออกแล้ว”

         “คริส พี่ไม่ได้ฝันใช่ไหม คริสกลับมาหาพี่จริงๆ ใช่ไหม” 

         ผมพูดอยู่กับคออีกฝ่าย ไม่รู้ทำไมตัวเองเสียงสั่นขนาดนั่น กลัวว่ามันจะเป็นแค่ฝัน

         “คริสตัวจริงเสียงเลยครับ กอดแน่นขนาดนี้ยังไม่มั่นใจอีกเหรอ”

         ผมพยัก เจ้าก้อนที่อยู่ในอ้อมกอดผมกอดกระชับเข้าไปอีก เราเองต่างก็คิดถึงกันและกัน คริสค่อยๆ ลูบหลังผมอย่างต้องการปลอบคนอ่อนแอตรงนี้

        “พี่...ขอโทษ”

        “...”

         “ขอโทษที่เป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลย ชอบทำแต่ให้เราเสียใจอยู่ตลอดเวลา ชอบละเลยความใส่ใจที่เรามีให้ ไม่สนใจความรักที่เรามีให้พี่ พี่ขอโทษ”

         “...” 

         ผมดึงตัวคริสออกมา ใบหน้ากลมเต็มไปด้วยน้ำตา ผมบรรจงน้ำตาให้อย่างเบามือ พร้อมกับจับมือไว้แน่น แล้วผมก็คุกเข่าลง

         “พะ...พี่สิง ฮึก ลุกขึ้นเถอะนะ”

         “พี่ขอโอกาสได้ไหมคริส ให้พี่มีโอกาสรักเราและดูแลเราคืนบ้าง สำหรับพี่ยังพอมีโอกาสนั่นไหม”

         “ฮือๆ ไอ้พี่สิงคนบ้า”

         ผมลุกขึ้นแล้วรวบตัวของคริสเข้ามากอดไว้ 

         “คริสรักพี่สิงมาตลอด...รักมากๆ ด้วย อึก ฮือๆ”

         “ครับๆ พี่ก็รักคริสนะครับ หยุดร้องไห้เถอะนะ ใจพี่จะขาดตามแล้วรู้ไหม เห็นน้ำตาเราแบบนี้พี่ทำอะไรไม่ถูกแล้ว” ผมยิ้มให้กับคนที่ซุกอกผมอยู่ ถึงหน้าจะเลอะน้ำตา แต่ก็ไม่สามารถปิดความน่ารักของคริสได้เลย ผมคงไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ

    พ่อครับ...ยกขบวนขันหมากไปขอเด็กคนนี้ให้สิงด้วยครับ!

  • บทส่งท้าย




         ผมรู้แล้วว่าที่น้องหายไปตอนที่ผมออกจากโรงพยาบาล ก็เพราะน้องไปเดินเรื่องเรียนให้ผม แล้วก็เป็นคนทำงานส่งให้ด้วย แฟนผมทำไมน่ารักจัง

    ตัดฉับมาชีวิตตอนนี้ ผมก็ยังเป็นผมคนเดิมที่มีเจ้าก้อน ตัวรุงรังคอยจัดการทุกอย่างให้ แต่ที่ต่างไปก็คือผมติดเจ้าก้อนมากตอนนี้!

    ไม่ว่าน้องจะไปไหน ทำอะไรกับใคร ต้องบอกผมก่อน พอมีคนหน้าแปลกเข้ามาทักเราเวลาที่ไปเดินห้างด้วยกัน ผมก็แอบหงุดหงิดทุกครั้ง บอกตรงๆ ว่าไม่ชอบ ทั้งที่แต่ก่อนผมแทบไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ

    “พี่สิง งอนคริสอีกแล้วเหรอ”
    “อีกแล้วงั้นเหรอ ใช่สิพี่มันไม่ขาวหล่อเกาหลี เหมือนพระเอกซีรีย์ที่ก้อนดูหรอก”

    “หึงเหรอ หึงพระเอกซีรีย์นี้นะ”

    ผมมองเจ้าก้อนอย่างไม่พอใจ ก่อนจะสะบัดหน้าแล้วเดินเข้านอนมา มือขาวของคริสได้เกาหัวอย่างงงๆ พี่มึงเป็นอิหยังวะเนี่ย เป็นประจำเดือนก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ตามไปง้อคนแก่หน่อยดีกว่า เกิดน้อยใจมากๆ หัวล้านขึ้นมาทำไง ไม่ได้การและรีบไปง้อลุงเขาดีกว่า

    พี่สิงที่นอนหันหลังกัน ทำให้ผมแอบยิ้ม กำลังอาการงอนที่เดี๋ยวนี้มาบ่อยขึ้น ผมไม่ได้เหนื่อยใจหรือเบื่อเลยซักครั้ง เพราะอะไรนะเหรอ 

    “คริสรักพี่สิงนะครับ”

    ผมโน้มตัวกระซิบใกล้ใบหูของคนที่แกล้งนอนหลับอยู่ แล้วก็ได้ผลเมื่อพี่สิงพลิกตัวกลับมาแล้วดึงผมให้ลงมานอนด้วยพร้อมกับแน่น

    “รำคาญพี่ไหม ที่พี่งี่เง่าแบบนี้”

    “รู้ตัวเองด้วย” ผมตอบอย่างขำๆ

    “ไม่ตลกเลยก้อน ตอบพี่ดีๆ” พี่สิงซุกหน้ากับลงซอกคอของผม

    “ไม่อ่ะ ใครจะไปรำคาญแฟนตัวเองกัน”

    “จริงอ่ะ”

    “จริงครับคุณสิงต้วน”

    ผมยิ้มให้กับคนที่กอดตัวเองอยู่ เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาทำให้เราสองคนเติบโตขึ้นในความสัมพันธ์ เราต่างเปิดใจคุยกันมากขึ้นและแสดงตัวตนของตัวเองมากขึ้นด้วย ผมเชื่อว่าในอนาคตของเราสองคนมันจะต้องมีเรื่องราวอีกมากมายแน่นอน ขอเพียงตอนนี้เรายังเข้าใจกันอยู่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผมเชื่ออย่างนั่น

    “พี่รักคริส เจ้าก้อน คนที่เป็นทุกอย่างในชีวิตพี่”

    “ก้อนก็รักพี่สิงนะครับ”

    เรามองหน้ากันแล้วยิ้มให้กัน บรรยายกาศลอยอบอวลเต็มไปความสุขของเราทั้งสองคน




    ขออวยพรให้ทุกท่านได้พบกับความรักที่สวยงามและเป็นพลังให้แก่กันในยามอ่อนล้าหรือมีความสุข
    ขอบคุณค่ะ 



    ฝากเรื่องสั้นเรื่องนี้ด้วยนะคะ เขียนเนื่องจากวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ขอบคุณที่ีเข้ามอ่านนะคะ 
    มาพูดคุยหรือทักทายได้ที่ Twitter : @FarNN_ZL 
    แล้วพบกันใหม่นะคะ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in