ผมขึ้น ม.3 โดยไม่คาดหวังหรือเพ้อฝันอะไรให้มากมาย

สิ่งสำคัญข้อแรกที่ผมต้องยอมรับ ก็คือ คงไม่มี “ภาวะยืดตัว” ใดๆ เกิดขึ้นกับตนเองแน่นอนแล้ว

ความหวังแบบมักน้อยที่ผมมี ก็ได้แก่ การประคองอัตราการเจริญเติบโต 4 เซนติเมตรไว้อีกสักหนึ่งปี เพื่อให้ตัวเองสูงถึง 170 ซม. ตอนจบ ม.3

หรือถ้าอัตราการเจริญเติบโตจะชะลอตัวลงไปเรื่อยๆ ผมก็ยังอยากสูงขึ้นสัก 3 เซนติเมตร ระหว่างการเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นปีสุดท้าย เพราะนั่นจะทำให้ผมมีส่วนสูง 169 ซม.

“จบ ม.3 ด้วยการสูงเท่าพี่หมิวก็ยังดีวะ” ผมคิด

ผมอำลาชีวิตนักเรียน ม.ต้น ด้วยส่วนสูง 168 ซม. ซึ่งเป็นระดับความสูงที่ผมน่าจะผ่านมันมาได้สบายๆ ตั้งแต่ช่วง ม.2

จากเด็กที่มีรูปร่างค่อนข้างสูงตอน ม.1 ผมจบ ม.3 ด้วยฐานะคนที่ตัวสูงอยู่ในโซนครึ่งล่างของห้องและระดับชั้น เพราะเพื่อนๆ จำนวนมาก ต่างมีส่วนสูงแตะหลัก 170-180 ซม. กันเยอะแยะแล้ว

ถึงผมจะตัวสูงเท่าๆ ดาราสาวรูปร่างสูงโปร่งหลายคนที่สูง 168 ซม. แต่ก็ยังมีนางเอก-นางแบบ-นางงามอีกมากหน้าหลายตา ซึ่งตัวสูงกว่าผม 

เช่น จนแล้วจนรอด ผมก็ยังสูงไม่เท่าที่พี่หมิว ลลิตา และพี่แหม่ม คัทลียา ซะที

ลองมองไปที่เวทีการประกวดนางงาม “พี่ซินดี้ สิรินยา” มิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2539 ก็มีส่วนสูง 175 ซม. ตามข้อมูลของกองประกวด (หลังจากนั้น ข้อมูลส่วนสูงของเธอจะขยับขึ้นเป็น 176 ซม.) ส่วน “พี่น้ำฝน สรวงสุดา” นางสาวไทยปี 2540 ก็มีส่วนสูง 169 ซม. จากการวัดของกองประกวด (ต่อมา เธอให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองสูง 170 ซม.)

ข้ามไปที่ละครหลังข่าวช่อง 3 นางเอกดาวรุ่งอย่าง “พี่เชอรี่ เข็มอัปสร” ที่อายุมากกว่าผมแค่ปีเดียว ก็สูงราวๆ 170-171 ซม. เรียบร้อยแล้ว

แม้แต่เมื่อเข้าไปดูหนังไทยในโรงภาพยนตร์ ก็ยังมีนางเอกตัวสูงๆ ให้เห็น เช่น “พี่อุ๋ม อาภาศิริ” นางแบบเจ้าของความสูง 173 ซม. ที่ผันตัวเองมาเป็นนางเอกเรื่อง “คู่กรรม” หรือ “มาริสา อานิต้า” นางเอก “เสียดาย 2” ก็สูงถึง 174 ซม. แม้เธอจะอายุน้อยกว่าผมหนึ่งปีก็ตาม

ในยุคสมัยที่ดาราหญิงรุ่นใหม่ๆ เริ่มตัวสูงถึงหรือเลย 170 ซม. กันเป็นว่าเล่น ผมกลับต้องมานั่งประสาทเสียว่าตัวเองจะสูงถึง 170 ซม. หรือไม่?