ไม่กี่วันมานี้ตัวเราเองเพิ่งจะได้สัมผัสกับรู้สึกดี ๆ หลาย ๆ อย่าง

ทั้งที่ความทุกข์มากมายจากสิ่งที่เรารักเหมือนกำลังจะพาเราดิ่งลงไปเรื่อยๆ ในหุบเหว

เราเลือกสิ่งนี้ด้วยความชอบและความรักทั้งหมดในช่วงรอยต่อของชีวิต

เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เรารักนั้น เราได้คิดแบบนั้นกับมันจริง ๆ รึเปล่าในอนาคต

ช่วงเวลาของการตัดสินใจของเด็กวัยสิบแปดและความกดดันจากรอบข้างมากมาย เป็นแรงผลักดันในเรามาอยู่ในจุดๆ นี้  

เด็กมายมายล้วนมีความฝันที่ยิ่งใหญ่และสิ่งเหล่านั้นถูกดับให้มอดไหม้ลงไปด้วยความเป็นจริงที่เผชิญในชีวิตของช่วงเริ่มต้นการเป็นผู้ใหญ่

ความฝันมากมายของเราหลาย ๆ ครั้งที่ได้ถูกขีดฆ่าออกไป

และจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าสิ่งเหล่านั้นได้หายออกไปจากชีวิตตอนไหน

เราพยายามตามหาแรงบันดาลใจมากมายเพื่อปลุกไฟฝันเหล่านั้นขึ้นมา

และพยายามที่จะหยุดตั้งคำถามกับสิ่งที่เราเจอในความเป็นจริงแล้วเริ่มที่จะปลงไปกับมัน

รู้ไหมว่าคำว่า “ปลง” นั้นน่ากลัวขนาดไหน ?

การที่คน ๆ นึงสามารถจะหยุดคิด และหยุดให้ความสนใจกับสิ่ง ๆ หนึ่งที่รักนั้น...น่ากลัวจริง ๆ

ช่วงเวลาวันหยุดที่เราได้มาจากการทำงานหนักในแต่ละอาทิตย์

ได้ลองทำอะไรแล้วบ้าง ?

วันเสาร์ที่ผ่านมาเราได้ลองดูซีรีส์ที่เราชอบและมันได้จุดประเด็นในชีวิตที่เราหลงลืมไปแล้วขึ้นมา

ประโยคสนทนาง่าย ๆ ของตัวละคนเอกสองตัวที่พูดนั้นช่างน่าสนใจอย่างแปลกประหลาด

A: “ฉันมีหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง เป็นหนังสือที่เก่ามากแล้ว

ฉันรักหนังสือเล่มนั้นมาก ไม่ว่าสุข หรือ ทุกข์ ก็ยังเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจ

มันจะเป็นหนังสือที่ฉันรักที่สุดเสมอ”

…

A: “แต่แล้ววันนี้หนังสือเล่มนั้นของฉันเปลี่ยนไปประโยคที่เคยเน้นเอาไว้ก็จำไม่ได้แล้วว่าเน้นไว้ทำไม

เหมือนยิ่งอ่านก็ยิ่งได้รู้ว่า ตัวเองอ่านพลาดไปหลายบท

ยิ่งอ่านไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งไม่เข้าใจเลยสักนิดเหมือนกับ...ได้อ่านหนังสือเล่มใหม่ที่ไม่คุ้นเคย”

…

B: “บางทีหนังสือเล่มนั้น อาจจะเป็นเหมือนเดิมมาตลอด

บางทีใจคุณต่างหากที่เปลี่ยนไป ไม่ใช่หนังสือเล่มนั้นหรอก”

ประโยคเหล่านี้ล้วนแล้วแต่พูดถึงเรื่องของความรัก

แต่เราคิดถึงชีวิต...

พอได้เห็นประโยคนั้นแล้ว ไฟหลาย ๆ อย่างในตัวก็ถูกปลุกให้ลุกขึ้นมา

เราน่ะ คิดว่าชีวิตเราเปลี่ยนไปหลายครั้ง แต่เคยถามตัวเองรึเปล่าว่าเป็นชีวิตหรือเราที่เป็นคนเปลี่ยนมัน

ที่เคยบอกว่าไม่มีเวลาให้สิ่งที่ตัวเองรักและคำอ้างมากมายที่โผล่ขึ้นมาในหัวเพื่อแก้ตัวนั้น...

อย่าเอามาเป็นสิ่งที่บอกคุณว่าชีวิตเปลี่ยนไปเลย

‘ทำไม่ได้’

’ไม่มีเวลา’

มันไม่จริงหรอก

คุณนั่นแหละที่เปลี่ยนมัน คุณอีกนั่นแหละเป็นคนทิ้งมัน

และเป็นตัวคุณอีกนั่นแหละ ที่จะเอามันกลับมาใหม่ได้

.... 

ประโยคสนทนาจากซีรีส์เรื่องนี้