เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายแปล✿ Peony ✿
รีวิว วัตถุโบราณลงเขา เล่ม 1-2
  • วัตถุโบราณลงเขา เล่ม 1-2《古董下山》

     ผู้แต่ง: หยวนเหอกู้ 缘何故
     สำนักพิมพ์: Muzes
     จำนวน: 5 เล่มจบ 
     เรื่องย่อ:

    วัตถุโบราณตัวน้อยลงเขา

              หลังจาก เว่ยเต๋อเต้า ผู้เป็นอาจารย์จากโลกนี้ไป เว่ยซี วิญญาณเร่ร่อนที่ถูกเก็บมาเลี้ยงดูฟูมฟักดั่งลูกน้อย (?) ก็เป็นอิสระ เอ้ย ก็ไม่รู้ว่าชีวิตต่อจากนี้ควรทำเช่นไรดี 555 เขาไร้กายเนื้อจึงออกจากเขตอาคมของภูเขาไม่ได้ ทั้งยังจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้อีก ตั้งแต่มีความรู้สึกนึกคิดก็มีเว่ยเต๋อเต้าคอยเทศนา พร่ำบ่นพร่ำสอน ห้ามกินนู่นห้ามกินนี่มาโดยตลอด จนในที่สุดเว่ยซีเปิดปัญญาญาณและกลายเป็นศิษย์คนสุดท้ายของ สำนักไท่ชัง ที่มีชื่อเสียงเกรียงไกรในโลกบำเพ็ญเพียร (?) โดยมีตราเจ้าสำนักซึ่งเป็นพู่หยกล้ำค่าเป็นหลักฐานเดียวที่บ่งบอกเรื่องราวทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องเหลวไหล (´-ω-`)
     
          ทว่ายามนี้ที่เขตแดนอาคมกลับมีร่างหนึ่งนอนนิ่งอยู่ วิญญาณนั้นยังมีหน้าตาคล้ายเว่ยซีมากอีกด้วย เมื่อพบว่าสิ่งนี้กินไม่ได้ (↼_↼) เว่ยซีจึงฉุดช่วยให้วิญญาณน้อยไปสู่สุคติ แต่ใครจะคิดว่าเมื่อเขาตื่นขึ้นมาจะจับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ในกายเนื้อนี้เสียแล้ว เว่ยซีในฐานะเจ้าสำนักรุ่นที่หกสิบสองจึงตั้งปณิธานว่าจะต้องทำให้สำนักไท่ชังกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งให้จงได้! ดังนั้น เว่ยซีในชุดเต้าผาวซอมซ่อขาดเป็นรู จึงรีบคว้าตราเจ้าสำนัก และสะพายตะกร้าไม้ไผ่วิ่งลงภูเขาไป!

    คอสเพลย์นักพรตยาจกภูเขาของเจ้าสำนักไท่ชัง (^人^)

    ชีวิตนอกภูเขาช่างยากนัก

             ปกติเว่ยซีก็หิวอยู่ตลอดและกินเท่าไรก็ไม่อิ่ม ยามนี้นอกจากไม่พบสัตว์ป่าสักชนิดให้กินแล้ว ยังต้องเผชิญหน้ากับนักท่องเที่ยวที่สวมเสื้อผ้ากะรุ่งกะริ่งมาเที่ยวชมภูเขาเฟิ่งหยางอีก ‒ ไหนตาเฒ่าว่าไร้ผู้คนอย่างไรเล่า? เว่ยซีตระหนักแล้วว่านอกภูเขานั้นเต็มไปด้วยของวิเศษ ทั้งสัตว์ที่ใช้ขับขี่ และหอสูงเทียมฟ้า (⊙_⊙) ราชาแห่งขุนเขาจึงยึดหลักทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง และได้แต่สงบเสงี่ยมเพราะไม่มั่นใจระดับพลังของของวิเศษร้ายกาจเหล่านั้น 555 โชคดีที่ชุดคอสเพลย์นักพรตยาจกได้เรียกความเห็นอกเห็นใจจากคุณน้าคุณป้าจนได้รับทั้งอาหารและเงิน เขาจึงมอบยันต์ให้พวกเขาเป็นการตอบแทน 

           ขณะที่ยันต์คุ้มภัยกำลังสำแดงอิทธิฤทธิ์จนเว่ยซีกลายเป็นนักพรตผู้สูงส่งอยู่นั้น ตัวเขาก็กำลังรวบหัวหน้าแก๊งขอทานมาเป็นลูกศิษย์คนแรกได้สำเร็จพอดี 555 แถมยังได้รับงานปราบผีร้ายจากลูกค้ารายแรกอีกด้วย ทว่าระหว่างที่เว่ยซีกำลังต่อยตีและส่งวิญญาณร้ายไปสู่สุคติด้วยการกินอย่างเมามันอยู่นั้น แขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่าง ซั่วจง กลับปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับสลายวิญญาณผีร้ายจนอาหารสำรองของเว่ยซีหายไปหมดเลย ‒ อย่ามารังแกกันให้มันมากนัก (ᗒᗣᗕ)՞

           ถึงคุณซั่วจงคนนี้จะอุดมไปด้วยพลังธาตุหยางที่ชวนน้ำลายสอ แต่ความความประทับใจแรกพบที่เว่ยซีมีต่อเขากลับติดลบจนไม่อาจแก้ไข 555 ในเมื่ออาจารย์ไม่ให้กินคน แต่กัดคนคงไม่เป็นไรใช่มั้ย (?) เว่ยซีจึงตัดสินใจงับคออีกฝ่าย และค้นพบว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขา…กัดอะไรไม่เข้า ด้วยความอัดอั้นใจจึงเปลี่ยนมาแทะมืออีกฝ่ายอย่างเอร็ดอร่อยแทน  ‒ (`皿´#) วันนี้กัดไม่เข้า วันหน้ายังมีโอกาสอีก!!! 

    คุณซั่วจง สามีแห่งชาติผู้หล่อเหลาและร่ำรวย  (*/▽\*)
    ฟื้นฟูสำนักไท่ชังต้องเริ่มจากตรงใด?

           แม้วิธีปราบผีร้ายของสำนักไท่ชังจะเปล่งรัศมีโดดเด่นดั่งนกกระเรียนในฝูงไก่ ทว่าหนทางในฟื้นฟูสำนักกลับยากลำบากกว่าที่เว่ยซีคิดเอาไว้มาก ยังดีที่ประสิทธิภาพการปราบผีของสำนักได้ดึงดูดลูกค้าให้มาทำบัตรสมาชิกได้หลายราย นอกจากนี้สำนักยังจับมือกับบรรดาผีๆ (ที่เจ้าสำนักกินไม่ได้) ร่วมกันทำธุรกิจจนขอบเขตของกิจการเริ่มเหนือจินตนาการมากขึ้นเรื่อยๆ 555 แถมยังมีศิษย์คนใหม่ที่พลังหยางเหลือล้นอย่าง ลู่เชวีย มาคอยช่วยเหลือ และปลอมประโลมกระเพาะน้อยๆของเจ้าสำนักในยามหิวได้อีกด้วย ‒ อาจารย์ปลื้มใจเหลือเกิน 

           ว่ากันว่ารากฐานของสำนักล้วนอาศัยพลังศรัทธา ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ของสำนักได้แสดงอิทธิฤทธิ์อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยันต์ลดน้ำหนัก ใบกุยช่าย (?) ที่ช่วยให้หลับสบาย หรือแม้แต่เต๋อเต้าเทียนจุนที่สำนักบูชาก็ยังศักดิ์สิทธิ์มากๆ ทว่า #นักพรตรูปหล่อทำพิธีกรรม ที่ปรากฎบนโลกออนไลน์กลับบ่งบอกว่าสำนักยังไม่ได้ถูกพูดถึงในด้านความศักดิ์สิทธิ์สักเท่าไรนัก 555 ดังนั้น หากอยากเป็นหนึ่งในใต้หล้า ย่อมต้องเดินหน้าต่อไป มาดูกันว่าเจ้าสำนักรุ่นที่หกสิบสองจะนำพา บริษัท สำนักไท่ชัง จำกัด ให้เจริญรุ่งเรืองตามที่ตั้งใจเอาไว้ได้หรือไม่ แต่ที่รู้ๆคือ สำนักไท่ชังนี้ ช่างทำให้ทุกคนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรจริงๆค่ะ 555
          

    แวะฟัง Theme Song《你最好吃》ของ Radio Drama ได้ค่า
           สำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราชอบมากๆในปีนี้เลยค่ะ 555 คิดไม่ถึงว่าจะสนุก ตลกโบ๊ะบ๊ะ และขำปอดโยกได้ขนาดนี้ แถมพล็อตเรื่องยังเป็นการปราบผีที่แหวกแนวสุดๆอีกด้วย ระหว่างอ่านบอกเลยว่าหลุดขำตลอด ทั้งเนื้อเรื่อง สำนวนการแต่ง การแปลกินขาดมากจริงๆ 555 ตัวละครทั้งน่ารัก และมีคาร์แรกเตอร์สุดๆ โดยเฉพาะไมเคิลจอมสอพลอ 555 ใครชอบแนวปราบผีคอมเมดี้แบบนี้แนะนำเลยค่ะรับรองผีไม่น่ากลัวเลย อ่านแล้วอารมณ์ดี ฟีลกู๊ดสุดๆเลย ส่วนการเล่าเรื่องจะเล่าผ่านเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่บรรดาลูกค้าต่างพบเจอจนขนหัวลุก รวมถึงปาฏิหารย์ของผลิตภัณฑ์และบริการจากสำนักไท่ชัง 555 ทว่ายิ่งคลี่คลายเคสต่างๆได้มากเท่าไร ท่านเจ้าสำนักผู้เน้นเรื่องกินเป็นหลัก ปราบผีเป็นรองก็ได้แต่โอดครวญว่า นานแล้วที่ไม่ได้เจอสิ่งที่กินได้! ‒ น่าเห็นใจจังเลย 555

              การปราบผีในเรื่องนี้บอกเลยว่าล้มล้างทุกศาสตร์ในใต้หล้า อ่านไปอ่านมาชักไม่แน่ใจแล้วว่า นี่มันเป็นการปราบผี? หรือทารุณกรรมผีกันแน่ ( ; ω ; ) ไม่ต้องมีกระบี่ไม้ท้อ เลือดหมาดำ หรือยันต์อินหยางก็จัดการผีร้ายได้อย่างอยู่หมัด วิธีการจับผีของสำนักไท่ชังนั้นก็แสนจะเรียบง่าย แถมยังมีประสิทธิภาพอย่าบอกใคร หากสัมผัสวิญญาณร้ายไม่ได้ก็ทุบของก่อนเดี๋ยวผีก็ออกมาเอง หากถกแขนเสื้อคุยกันไม่รู้เรื่องก็กินผีร้ายให้หมดในคำเดียว! (っ˘ω˘ς ) หากเป็นผีที่ดีก็จับมาใช้แรงงานในกิจการในเครือซะเลย ตอนนี้ทุกคนพอจะเห็นความรุ่งเรืองของสำนักไท่ชังกันแล้วใช่มั้ยคะ ดังนั้น อย่ารอช้า สมัครสมาชิก VIP กับสำนักไท่ชังวันนี้ แถมฟรีของสมนาคุณ และสิทธิพิเศษจากกิจการในเครือด้วยนะ (・ω<)☆

             มากันที่คุณซั่วจงสามีแห่งชาติ บอกได้สามคำว่า หล่อมาก เก่งมาก และรวยมาก!! o(≧▽≦)o ลวดลายอักขระโบราณบนตัวก็ส่งเสริมให้เขาดูเหมือนหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่มีรอยสักรอบแขนสุดๆ เท่อย่าบอกใครเชียว 555 หลังจากตามหาเว่ยซีพบแล้ว คุณซั่วจงก็ถูกความใคร่ครอบงำจิตใจ (?) จนต้องอ้างเหตุผลปลอมตัวมาเป็นลูกศิษย์เพื่อจับตาดูว่าเจ้าสำนักไท่ชังจะกินคนเหมือนในอดีตหรือไม่ 555 เป็นลูกศิษย์ก็ส่วนนึง แต่การสปอยล์ท่านเจ้าสำนักแบบไม่ลืมหูลืมตา แถมยังจู้จี้ ขี้หวง และเรียกร้องความสนใจบ่อยๆนี่มันยังไงกันน้า ท่านเจ้าสำนักไม่เข้าใจเลย อิอิ

            ส่วนเว่ยซีนั้น ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ร้ายที่ฆ่าคนแบบตาไม่กระพริบ (?) แต่ปัจจุบันเขาได้เปลี่ยนไปเป็นหนุ่มน้อยไร้เดียงสา ทึ่มทื่อ และน่าเอ็นดู ‒ ขนาดคุณซั่วจงยังแปลกใจ (°ロ°) ! จุดอ่อนของเขาคือกินเท่าไรก็ไม่อิ่ม ทว่าจุดแข็งกลับเป็นกินเท่าไรก็ไม่อ้วน กินได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า กินได้ทุกที่ทุกเวลา ลงตะเกียบทุกคราล้วนแม่นยำและแน่วแน่จนทุกคนหวาดผวาไปตามๆกัน 555 ดังนั้น การที่เขามีศิษย์คนรองที่เต็มไปด้วยพลังหยางมาคอยดูแลยามหิวนั้น ก็นับได้วว่าเป็นพรมลิขิต เอ้ย บุญบารมีที่ท่านเจ้าสำนักสั่งสมมาเนิ่นนานแล้วล่ะค่า (⁄ ⁄>⁄ ▽ ⁄<⁄ ⁄) ‒ อย่าหาว่าอาจารย์ลำเอียงเลยนะ 555 

           แน่นอนว่าสองคนนี้มีอดีตร่วมกันมายาวนาน ความสัมพันธ์เลยให้อารมณ์สามีมาคอยดูแลภรรยาที่ความจำเสื่อม 555 แม้จะจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ แต่ความคุ้นเคย (?) ที่เว่ยซีมีต่อซั่วจงกลับไม่เคยจางหายไปเลย ปัจจุบันสิ่งที่เว่ยซีต้องการมีเพียงความอยากอาหารที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ‒ โปรดเรียกว่าลวนลามอย่างเป็นธรรมชาติจะดีกว่า (*ノωノ) การแทะนิ้วแจ๊บๆ เริ่มไต่ระดับเป็นการกอดๆ จูบๆ ลูบๆ คลำๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งความไรเดียงสาอย่างเหนียวแน่นสุดๆ ขนาดคุณซั่วจงยังจนปัญญาและโกรธไม่ลงเลย หลังๆท่านจ้าสำนักถูกป้อนพลังหยางจนชิน ทั้งอิ่มทั้ง ฟินสุดๆ ‒ คนอ่านก็ฟินมากเช่นกัน ถึงไม่หิวก็บอกหิวเพราะอยากจะชิมอีกสักคำสองคำ อิอิ นับวันลูกศิษย์คนนี้ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ขนาดที่ท่านเจ้าสำนักยังต้องเอ่ยว่า นายก็เป็นสมบัติล้ำค่าของอาจารย์เช่นกัน ยังไงล่ะ อิอิ (≧◡≦) 

    ใครอยากฟัง Radio Drama《古董下山》
    จิ้มลิงค์ Trailer หรือ Episode 1 ได้เลยค่า
             ปิดท้ายรีวิวนี้ด้วยการขายของ 555 ใครที่ชอบนิยายแนวลึกลับเหนือธรรมชาติ ปราบภูติผีปีศาจที่ไม่สอดคล้องกับค่านิยมและหลักการของระบอบสังคมนิยมเช่นนี้ 555 เราขอแนะนำเรื่อง My Five Elements are short of You #ชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ ลองเข้าไปอ่านรีวิวกันได้น้า เรื่องนั้นจะมีศาสตร์การปราบผีที่จริงจังกว่าเจ้าสำนักไท่ชัง รับรองสนุกมากๆค่ะ 555

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in