เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
from the desert, with loveployapha.j
สู่เมืองทะเลทราย
  • วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2558
    ที่นั่ง 64C | EK 373
     เวลา 23:10 น.  ตามเวลาประเทศไทย





    "เชี่ย... นี่ตัดสินใจถูกป่ะวะที่พาตัวเองไปอยู่ไกลขนาดนี้..."


    คำถามนี้ผุดขึ้นมาในหัวขณะที่กำลังเครื่องบินค่อยๆถอยและเลี้ยวเพื่อเข้าสู่รันเวย์ ก่อนที่จะค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ



    เราใจหายแว๊บแปลกๆตอนที่เครื่องบินค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ทิ้งแสงไฟของเมืองไว้เบื้องหลังก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นหมู่เมฆและท้องฟ้าสีดำที่มองไม่เห็นดาว สิ่งเดียวที่เห็นคือไฟสีแดงที่กระพริบเป็นระยะๆตรงปลายปีกเครื่องบินนั่นแหละ

    ความรู้สึกแปลกๆโหวงเหวงในขณะนี้อาจเป็นเพราะไม่รู้ว่าอีกนานไหมกว่าจะได้กลับมาอีก ก็ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่านี่คือสิ่งที่เลือกแล้ว คืออนาคตที่เลือกเดิน เพราะฉะนั้นจะมาโลเลเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วแหละ เอาเถอะ ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป จากนี้เป็นไงเป็นกันวะ สู้!






    เท้าความให้รู้จักกันสักเล็กน้อย :)

    เราชื่อพลอย เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย เรียนในคณะที่ก็ไม่ได้ชอบมากแต่ก็เรียนได้ เลือกเรียนตามสิ่งที่พ่อแม่อยากในเรียนนั่นแหละนะ วาดภาพอนาคตไว้เสียดิบดีว่าต่อไปจะต้องเดินตามโร้ดแมพของครอบครัวอย่างไรบ้าง แต่สุดท้ายโชคชะตาก็เล่นตลก จับพลัดจับผลูมาเป็นแอร์โฮสเตสสายการบินตะวันออกกลางเสียได้ เลยต้องจำใจจากเจ้าจำจรหอบชะลอมกับกระเป๋าเดินทาง ย้ายบ้านมาอยู่เมืองทะเลทรายนี่แหละ

    เป็นการเริ่มต้นก้าวเข้าสู่วัยทำงานและการเป็นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างจะ...ไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนไปหน่อย แต่อย่างน้อยก็ได้สานฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นแอร์เพราะบ้านอยู่ใกล้ดอนเมือง เห็นเครื่องบินขึ้นๆลงๆผ่านหลังคาบ้านทุกวัน อยากเป็นอย่างพี่สาวสวยๆที่ยิ้มใจดี รับผิดชอบคำพูดของตัวเองที่อยากเดินทางรอบโลกก่อนอายุ 35 ปี และเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตนเองเสียทีละนะ






  • ย้อนกลับมาวินาทีนี้ ณ ขณะปัจจุบัน ความรู้สึกตื่นเต้นกับชีวิตใหม่ บ้านใหม่ งานใหม่มันหายไปเกือบจะหมดแล้ว ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้... เอาจริงๆนะ เรายังไม่พร้อม

    เรากลัว
    เรากังวล
    เราเครียด
    เรานึกถึงอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า

    ถ้าเทรนไม่ผ่านล่ะ... ถ้าไม่ผ่านโปรจะทำยังไง... ถ้าอยู่ไม่ได้ขึ้นมาแล้วจะเอายังไงกับชีวิตต่อ


    ตั้งแต่ออกจากบ้านจนมาถึงสนามบิน เราร่าเริงดี๊ด๊าตลอดเวลา ไม่มีวี่แววของความหงอยเหงาเศร้าซึมปรากฎออกมาเลย ความจริงแล้วคือ เราไม่กล้าน้ำตาไหล กลัวคุณแม่จะเป็นห่วงนั่นแหละนะ พอมาคิดๆเงียบๆอยู่คนเดียวแล้วก็ เชี่ย… ใจหาย…

    ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองเบาๆ แหม่…ดิ้นรนมาเองก็ต้องไปให้สุดทางสิ เราจะได้ท่องโลกกว้าง รู้จักเพื่อนใหม่จากทั่วโลก พบประสบการณ์ใหม่ๆหาจากที่ไหนไม่ได้


    และการที่เราออกเดินทางไปแสนไกล เพื่อที่จะได้รู้ว่าคนใกล้ตัวของเราสำคัญมากขนาดไหนไง อย่างน้อยตอนนี้เราก็จากบ้านไปแค่ 6 เดือนเอง พอเทรนเสร็จ ผ่านโปรก็จะได้กลับมาบ้านแล้ว ถึงตอนนั้นอาจจะไม่อยากกลับก็ได้นะ

    สู้!





    ด้วยรัก...จากความสูง 40,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเลกลางมหาสมุทรอินเดีย
    (เปิด flight information เพื่อเช็คว่าตอนนี้บินอยู่ตรงไหนเลยนะเนี่ย)





    ป.ล. นี่เป็นรูปโพลารอยด์ของพวกเราเหล่าสาวไทยทั้ง 7 (หายไปหนึ่งคน) ที่เดินทางมาพร้อมกันในวันนี้



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in