เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นาฬิกาทรายWITCHARIN NIRANAMKUL
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน ร้านกาแฟ
  • "ในที่สุด ชั้นก็ปั่นจนเสร็จสักที"

    ตึ๊ง!!

    "เอ๊ะ . . . แจ้งเตือนหรอ"

    หลังจากที่เขาละโฟกัสออกจากงานก็พบว่ามีข้อความส่งมาหาเขา

    "ใครกันเนี่ยส่งข้อความมาเวลานี้"

    เขามักจะชินและใจเต้นแรงอยู่เสมอเมื่อมีข้อความเข้า
    ซึ่งนั้นหมายถึงว่าเขากำลังจะได้รับงานใหม่ แต่ในครั้งนี้แตกต่างกันออกไป

    // ไงวิช สบายดีไหม
    เมธหรอ เขาขมวดคิ้วพร้อมมีคำถามในใจกับชื่อโปรไฟล์ที่แสดงอยู่บนหน้าจอ

    // ไง สบายดี นายล่ะ?
    // สบายดีอยู่แล้ว
    // เข้าเรื่องเลยนะ

    เขาหุบยิ้มลงทันทีด้วยเซ้นที่รู้สึกว่านี่ไม่ใช่การทักหาธรรมดา

    // พรุ่งนี้นายว่างไหม อยากนัดนายมาคุยเรื่องสำคัญหน่อย
    // ว่างสิ วันพักพอดี
    // วันพัก? ในวันอังคารเนี่ยนะ
    // เอิ่ม . . .
    // ฮ่า ๆ งั้นพรุ่งนี้บ่ายโมงเจอกันร้านกาแฟนะ
    // โอเค

    สิ้นสุดบทสนทนาผ่านออนไลน์
    เขาก็เหลือบไปมองนาฬิกาอีกครั้ง

    "อีกห้านาทีหนึ่งทุ่ม"
    "ให้ตายสิไฟล์อัพเสร็จยังเนี่ย อ่อ . . . พร้อมส่งแบบเฉียดฉิว"

    "เราได้รับไฟล์งานมาแล้วนะครับ เดี๋ยวทางผมจะโอนเงินให้พรุ่งนี้นะครับ"

    ข้อความจากอีเมลผู้จ้างงานถูกส่งมาหลังจากไฟล์งานถูกส่งไปเพียงไม่กี่วินาที

    "เอาล่ะถึงเวลาเบียร์สินะ"
    มือที่หยาบกร้านเปิดตู้เย็นแล้วหยิบเบียร์ออกมา พร้อมถาดรองบุหรี่ 

    ถึงเวลาผ่อนคลาย
    เขาจุดบุหรี่สีขาวล้วน พร้อมปล่อยจิตใจและร่างกายได้พักผ่อน
    ในห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยชีวิตที่วาดฝันไว้
    กำลังถึงจุดเปลี่ยนแปลง
    ราวกับพายุที่ถาโถมเขามาในวันที่ฟ้าสดใส

  • ในเช้าที่มืดมัวราวกับฝนจะถล่มลงมาได้ทุกวินาที

    "เอาล่ะวันนี้ก็เป็นเสื้อขาวกับเสื้อคลุมสีน้ำตาลก็แล้วกัน"

    ไม่นานเขาก็ขับรถยนต์คลาสสิค Volvo 740 GLE สีขาว ไปถึงนัดไว้ตรงเวลา
    หลังจอดรถไม่นานเขาก็ได้ยืนมองเก้าอีสีน้ำตาลหน้าร้านพร้อมคิดถึงน้องสาวสุดหวงและครุ่นคิดไปพลางว่าน้องสาวจะเป็นยังไงบ้างเวลานี้

    "ไม่ได้มาสักพักแล้วสินะร้านนี้"

    "สวัสดีค่ะรับอะไรดีคะ"

    พนักงานใหม่หรอ เขาคิดในใจพร้อมมองไปยังใบหน้าที่สดใสนัยตาสีน้ำตาลอ่อนผมสีดำเข้มมัดผมหางมาในเสื้อขาวและผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาล

    "ผมเอากาแฟดำใส่น้ำตาลสองช้อนชา"
    "อเมริกาโน่หวานน้อยนะคะ" พนักงานสาวตอบพร้อมกดรายการเมนู

    คำตอบที่ได้รับจากพนักงานสาวทำเขาสะดุ้งเฮือกพลางคิดในใจว่า นี่เราคงอยู่คนเดียวนานไปสินะ ทันใดนั้นก็มีมือหนาที่นุ่มนวลมาจับตรงไหล่เขา

    "ว่าไงวิช มาตรงเวลาสินะ โทษทีพอดีหลงทางนิดหน่อย"
    พนักงานมองชายหนุ่มหนวดเคราบางพร้อมยิ้มให้
    "ผมขอแบบหมอนี่ด้วยหนึ่งแก้วนะครับ"
    "ได้เลยค่ะ" พนักงานสาวตอบด้วยน้ำเสียงสดใส พร้อมหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าเครื่องชงเอสเพรสโซด้วยสีหน้าขรึมตึง

    "เราไปนั่งรอกันดีกว่า"
    วิชรินทร์พูดแล้วกระซิบใส่หูเมธว่า "เดี๋ยวโดนเฉ่งหัวเอาน่ะ"

    ทั้งคู่เดินไปนั่งโต๊ะริมหน้าต่าง พร้อมกับสายตาคู่หนึ่งที่มองมายังทั้งคู่ด้วยความสงสัย
    ราวกับวิชรินทร์และเมธเดินผ่านเขาแล้วทำให้เขาเสียสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

    "เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยนะ"
    วิชรินทร์นั่งกุมมือพร้อมมองไปยังสายตาของเมธด้วยความจริงจัง

    "พอดีว่ามีเรื่องที่บริษัทของพี่ชายชั้นนิดหน่อย
    คนตัดต่อดันลาออกกลางคัน พร้อมกับงานใหญ่ที่ไปไม่ถึงไหนน่ะ"

    "ว่าไงนะ งานบริษัทหรอ"
    "ใช่ ตอนนี้ไม่มีใครรับงานนี้ต่อเลย ไม่มีฝ่ายไหนกล้ารับต่อ"
    เมธพูดพร้อมเม้มปากด้วยความกังวลที่แสดงออกทางสายตาอย่างชัดเจน
    "แต่ชั้นไม่มีอะไรรับรองว่า . . ."
    "ไม่ต้องหรอก ถือว่ารับงานฟรีแลนซ์ไว้ก็ได้ แต่ . . . "
    "แต่อะไรหรอ?"
    "นายต้องไปทำงานที่บริษัท"

    ประโยคนั้นทำให้วิชรินทร์ตัวแข็งทื่อ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในวงการฟรีแลนซ์มานาน
    เขาไม่เคยคิดแม้แต่น้อยว่าจะต้องผูกไทดเดินเข้าบริษัท ภาพนั้นไม่เคยมีอยู่ในหัวเขาเลย

    "นายแน่ใจนะว่าหาใครมาแทนไม่ได้" วิชรินทร์ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดปนกังวล
    "ช่วงนี้มันช่วงที่หลายคนโถมหาฟรีแลซ์ก็จริง" เมธพูดพร้อมมองไปยังมือของวิชรินทร์ที่กุมอยู่โดยไม่สบตา
    "แต่งานนี้มันเกินกว่าฟรีแลนซ์มือใหม่ที่ทำเพียงไม่กี่ปีจะรับไหวนะ" เมธเงยหน้ามามองสายตาของวิชรินทร์ด้วยความคาดหวัง
    "เอิ่ม . . . "
    "อเมริกาโน่หวานน้อยค่ะ"
    "ขอบคุณครับ" วิชรินทร์พูดพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ดีนัก จนพนักงานสาวต้องส่งยิ้มหวานให้
    แต่คนที่รับยิ้มหวานตอบกลายเป็นเมธ ซึ่งนั่นทำให้พนักงานชายที่ยืนอยู่เคาเตอร์ต้องขมวดคิ้ว

    "จะว่าไงดีล่ะ ต่อให้ชมไปมันก็ . . ."
    "ชั้นว่าต้องเป็นนายเท่านั้นนะวิช คนอื่นชั้นตามหาจนเหนื่อยเลยล่ะ และโดนหลอกด้วย เพราะงั้นชั้นเลยเชื่อคำพูดนายเมื่อตอนนั้นที่บอกว่า รับเงินเมื่องานจบเท่านั้น"

    "นี่นายกำลังจะพูดอะไรกันแน่ แล้วไอที่โดนหลอกน่ะ"
    "ชั้นเผลอไปหน่อย แต่ความเดือดร้อนนั่นน่ะ มันเงินชั้นเอง"
    "เจ้าบ้า!!! จะไปยอมได้ยังไงแบบนั้น" วิชรินทร์เสียงแข็งจนอีกฝ่ายต้องชะงักจากแก้วกาแฟที่กำลังยกดื่ม
    "ช่างมันเหอะน่า ชั้นเจรจาไม่เก่งหรอกนะแต่ว่า" พูดจบเมธก็ยกกาแฟดื่ม
    "ชั้นจะรับงานนั้นเอง"
    "จริงหรอ" เมธตอบด้วยความตกใจจนเกือบสำลักกาแฟ
    "ใช่ จะไม่ยอมให้นายโดนฟรีแลนซ์คนไหนหลอกอีก" จากมือที่กุมอยู่กลายเป็นกำหมัดแน่น
    "งั้นพรุ่งนี้ก็ไปทำงานที่ออฟฟิคเก้าโมงตรงนะ"
    "กะ . . .เก้าโมงหรอ" วิชรินทร์คลายมือที่กำแน่นออกทำให้เห็นรอยเล็บที่ถูกกดลงไปบนฝ่ามือ
    "ใช่ ชั้นจะโทรปลุกนายตั้งแต่แปดโมงนะ และก็ขอตัวไปทำงานต่อนะส่วนค่ากาแฟเดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง"
    "เอ้ย!! ไม่เอาสิ ให้ชั้นเลี้ยง ในฐานะที่นายมอบความตื่นเต้นให้นะ"
    "งั้นขอบคุณมากไว้จะเลี้ยงหลังจบงานละกัน"

    ไม่นานเมธก็เดินจากไปพร้อมเสียงกระดิ่งร้านที่สงบลง

    "แต่ชั้นไม่เคยตื่นก่อนเก้าโมงด้วยสิ" =-=

    "เอ่อ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าคนเมื่อกี้ใช่แฟนคุณรึเปล่า" ไม่นานพนักงานชายก็เดินเขามาถามด้วยสายตาที่วิชรินทร์เองก็บอกไม่ได้ว่ามันคือสายตาด้วยความรู้สึกอะไร
    "เอ่อ เปล่าเพื่อนผมสมัยมหาลัยน่ะครับ"
    "งั้นผมขอช่องทางติดต่อเพื่อนคุณหน่อยได้ไหม"
    เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าที่มองแบบนั้น วิชรินทร์แต่คิดในใจ ว่าเรด้าเขาน่าจะพังไปเรียบร้อยแล้ว ทำได้เพียงรับโทรศัพท์ของพนักงานมาพร้อมกรอกชื่อติดต่อของเมธไป และพนักงานสาวที่ยืนขำเบา ๆ อยู่หลังเคาเตอร์

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in