ในเช้าที่มืดมัวราวกับฝนจะถล่มลงมาได้ทุกวินาที
"เอาล่ะวันนี้ก็เป็นเสื้อขาวกับเสื้อคลุมสีน้ำตาลก็แล้วกัน"
ไม่นานเขาก็ขับรถยนต์คลาสสิค Volvo 740 GLE สีขาว ไปถึงนัดไว้ตรงเวลา
หลังจอดรถไม่นานเขาก็ได้ยืนมองเก้าอีสีน้ำตาลหน้าร้านพร้อมคิดถึงน้องสาวสุดหวงและครุ่นคิดไปพลางว่าน้องสาวจะเป็นยังไงบ้างเวลานี้
"ไม่ได้มาสักพักแล้วสินะร้านนี้"
"สวัสดีค่ะรับอะไรดีคะ"
พนักงานใหม่หรอ เขาคิดในใจพร้อมมองไปยังใบหน้าที่สดใสนัยตาสีน้ำตาลอ่อนผมสีดำเข้มมัดผมหางมาในเสื้อขาวและผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาล
"ผมเอากาแฟดำใส่น้ำตาลสองช้อนชา"
"อเมริกาโน่หวานน้อยนะคะ" พนักงานสาวตอบพร้อมกดรายการเมนู
คำตอบที่ได้รับจากพนักงานสาวทำเขาสะดุ้งเฮือกพลางคิดในใจว่า นี่เราคงอยู่คนเดียวนานไปสินะ ทันใดนั้นก็มีมือหนาที่นุ่มนวลมาจับตรงไหล่เขา
"ว่าไงวิช มาตรงเวลาสินะ โทษทีพอดีหลงทางนิดหน่อย"
พนักงานมองชายหนุ่มหนวดเคราบางพร้อมยิ้มให้
"ผมขอแบบหมอนี่ด้วยหนึ่งแก้วนะครับ"
"ได้เลยค่ะ" พนักงานสาวตอบด้วยน้ำเสียงสดใส พร้อมหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าเครื่องชงเอสเพรสโซด้วยสีหน้าขรึมตึง
"เราไปนั่งรอกันดีกว่า"
วิชรินทร์พูดแล้วกระซิบใส่หูเมธว่า "เดี๋ยวโดนเฉ่งหัวเอาน่ะ"
ทั้งคู่เดินไปนั่งโต๊ะริมหน้าต่าง พร้อมกับสายตาคู่หนึ่งที่มองมายังทั้งคู่ด้วยความสงสัย
ราวกับวิชรินทร์และเมธเดินผ่านเขาแล้วทำให้เขาเสียสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
"เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยนะ"
วิชรินทร์นั่งกุมมือพร้อมมองไปยังสายตาของเมธด้วยความจริงจัง
"พอดีว่ามีเรื่องที่บริษัทของพี่ชายชั้นนิดหน่อย
คนตัดต่อดันลาออกกลางคัน พร้อมกับงานใหญ่ที่ไปไม่ถึงไหนน่ะ"
"ว่าไงนะ งานบริษัทหรอ"
"ใช่ ตอนนี้ไม่มีใครรับงานนี้ต่อเลย ไม่มีฝ่ายไหนกล้ารับต่อ"
เมธพูดพร้อมเม้มปากด้วยความกังวลที่แสดงออกทางสายตาอย่างชัดเจน
"แต่ชั้นไม่มีอะไรรับรองว่า . . ."
"ไม่ต้องหรอก ถือว่ารับงานฟรีแลนซ์ไว้ก็ได้ แต่ . . . "
"แต่อะไรหรอ?"
"นายต้องไปทำงานที่บริษัท"
ประโยคนั้นทำให้วิชรินทร์ตัวแข็งทื่อ ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในวงการฟรีแลนซ์มานาน
เขาไม่เคยคิดแม้แต่น้อยว่าจะต้องผูกไทดเดินเข้าบริษัท ภาพนั้นไม่เคยมีอยู่ในหัวเขาเลย
"นายแน่ใจนะว่าหาใครมาแทนไม่ได้" วิชรินทร์ถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดปนกังวล
"ช่วงนี้มันช่วงที่หลายคนโถมหาฟรีแลซ์ก็จริง" เมธพูดพร้อมมองไปยังมือของวิชรินทร์ที่กุมอยู่โดยไม่สบตา
"แต่งานนี้มันเกินกว่าฟรีแลนซ์มือใหม่ที่ทำเพียงไม่กี่ปีจะรับไหวนะ" เมธเงยหน้ามามองสายตาของวิชรินทร์ด้วยความคาดหวัง
"เอิ่ม . . . "
"อเมริกาโน่หวานน้อยค่ะ"
"ขอบคุณครับ" วิชรินทร์พูดพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ดีนัก จนพนักงานสาวต้องส่งยิ้มหวานให้
แต่คนที่รับยิ้มหวานตอบกลายเป็นเมธ ซึ่งนั่นทำให้พนักงานชายที่ยืนอยู่เคาเตอร์ต้องขมวดคิ้ว
"จะว่าไงดีล่ะ ต่อให้ชมไปมันก็ . . ."
"ชั้นว่าต้องเป็นนายเท่านั้นนะวิช คนอื่นชั้นตามหาจนเหนื่อยเลยล่ะ และโดนหลอกด้วย เพราะงั้นชั้นเลยเชื่อคำพูดนายเมื่อตอนนั้นที่บอกว่า รับเงินเมื่องานจบเท่านั้น"
"นี่นายกำลังจะพูดอะไรกันแน่ แล้วไอที่โดนหลอกน่ะ"
"ชั้นเผลอไปหน่อย แต่ความเดือดร้อนนั่นน่ะ มันเงินชั้นเอง"
"เจ้าบ้า!!! จะไปยอมได้ยังไงแบบนั้น" วิชรินทร์เสียงแข็งจนอีกฝ่ายต้องชะงักจากแก้วกาแฟที่กำลังยกดื่ม
"ช่างมันเหอะน่า ชั้นเจรจาไม่เก่งหรอกนะแต่ว่า" พูดจบเมธก็ยกกาแฟดื่ม
"ชั้นจะรับงานนั้นเอง"
"จริงหรอ" เมธตอบด้วยความตกใจจนเกือบสำลักกาแฟ
"ใช่ จะไม่ยอมให้นายโดนฟรีแลนซ์คนไหนหลอกอีก" จากมือที่กุมอยู่กลายเป็นกำหมัดแน่น
"งั้นพรุ่งนี้ก็ไปทำงานที่ออฟฟิคเก้าโมงตรงนะ"
"กะ . . .เก้าโมงหรอ" วิชรินทร์คลายมือที่กำแน่นออกทำให้เห็นรอยเล็บที่ถูกกดลงไปบนฝ่ามือ
"ใช่ ชั้นจะโทรปลุกนายตั้งแต่แปดโมงนะ และก็ขอตัวไปทำงานต่อนะส่วนค่ากาแฟเดี๋ยวชั้นเลี้ยงเอง"
"เอ้ย!! ไม่เอาสิ ให้ชั้นเลี้ยง ในฐานะที่นายมอบความตื่นเต้นให้นะ"
"งั้นขอบคุณมากไว้จะเลี้ยงหลังจบงานละกัน"
ไม่นานเมธก็เดินจากไปพร้อมเสียงกระดิ่งร้านที่สงบลง
"แต่ชั้นไม่เคยตื่นก่อนเก้าโมงด้วยสิ" =-=
"เอ่อ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าคนเมื่อกี้ใช่แฟนคุณรึเปล่า" ไม่นานพนักงานชายก็เดินเขามาถามด้วยสายตาที่วิชรินทร์เองก็บอกไม่ได้ว่ามันคือสายตาด้วยความรู้สึกอะไร
"เอ่อ เปล่าเพื่อนผมสมัยมหาลัยน่ะครับ"
"งั้นผมขอช่องทางติดต่อเพื่อนคุณหน่อยได้ไหม"
เอ๊ะ อย่าบอกนะว่าที่มองแบบนั้น วิชรินทร์แต่คิดในใจ ว่าเรด้าเขาน่าจะพังไปเรียบร้อยแล้ว ทำได้เพียงรับโทรศัพท์ของพนักงานมาพร้อมกรอกชื่อติดต่อของเมธไป และพนักงานสาวที่ยืนขำเบา ๆ อยู่หลังเคาเตอร์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in