เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SomewhereonlyPknowparnjazmyn
เจนไน...ยังไงก็ได้!!! (Chennai, South India)

  • นี่คือ1st time minimore maker ของนุ้ง ซึ่งใครที่หลุดเข้ามาอ่านจะบอกว่าคุณพลาดแล้ว..  เพราะมันจะไม่ใช่การรีวิวที่เที่ยวที่ชิค คูล ฮิปสเตอร์ เรียบเรียงภาษาเก๋ๆ โดดเดี่ยวเดียวดายสายหมอก อารมณ์เหงา แต่มันคือรีวิวของคนบ้า ที่ไปสะบัดผ้าส่าหรีที่อินเดีย ทริปแสวงบาปชัดๆ มีบาปมากกว่านี่ที่คงไม่ได้เล่า เพราะถ้าเล่าจะโดนแม่ด่า ...  ( แม่ปล่อยให้ไปได้ไงวะเนี่ย )


    เกริ่นก่อนว่าเมืองที่ไปชื่อเมืองChennai  (อ่านว่าเชนไนหรือเจนไนก็ได้)พอคนถามไปไหนหรอ พอพูดว่าไปเชนไน ฟังดูญี่ปุ่นเนอะ แต่เปล่าค่ะ "อินเดี๊ยยย" 555555555 

    Chennai อยู่ในรัฐทมิฬนาฑูจ้า (เป็นรัฐที่เน็ตดีครอบคลุม รู้สึกดีที่ซื้อAIS2flyไปใช้แล้วแรงกว่าวายฟายที่เกสต์เฮาส์) Chennai เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของอินเดีย ติดทะเล แต่คนไม่ค่อยกินอาหารทะเลเพราะคนฮินดูเค้าเป็นVegetarianกัน แต่ใช่ว่าไปเราจะกินมัง เพราะทั้งทริปก็หาแต่ร้าน Non veg จ่ะ555(บอกแล้วว่าไม่ใช่ทริปบุญ) 
    ถือเป็นทริปฉลองก่อนอายุ20ให้ตัวเอง ทำงานpart timeเก็บหอมรอมริด เพื่อไปสะบัดส่าหรีเต้นดี๋กะลาต๋า แบบ Everywhere is my runway โดยเฉพาะ อยู่นั่นแต่งตัวจัดจ้านมาก และคิดสภาพ นี่เป็นชะนีอ้วนหัวทองผิวเหลืองแต่งตัวเต็ม ถือเป็นแรร์ไอเทมของดงบังมาก เดินผ่านนั่งรถผ่านเค้าก็จะมองเราเหมือนเราเป็นเอเลี่ยนนั่นแหละ ด้วยความที่ไม่ชอบไปที่แมสๆเหมือนชาวบ้าน Chennai นี่แหละตอบโจทย์ความไม่แมสอย่างมาก เพราะที่ไปมีforeignerแค่กลุ่มเรากลุ่มเดียว ที่เหลือคือกลับบ้านเค้ากันหมด ขึ้นเครื่องบินไปตกใจเลยค่ะมึง 555555 


    {เกร็ดความรู้ ที่อินเดียจะช้ากว่าไทย1ชม.ครึ่งจ้า)


    ทางใต้ของอินเดียคนที่นี่ลักษณะเด่นคือผิวเค้าจะค่อนข้างคล้ำ เรียกว่าคนทมิฬ คนที่นี่เค้าก็จะพูดแต่ภาษาทมิฬไม่ได้พูดฮินดีกัน แต่พีคคือคนที่นี่ nice มากเว่อ ตอนแรกคิดว่าคนอินเดียต้องน่ากลัวแน่ๆ กูต้องโดนขโมยพาสปอร์ตไม่ก็ตังแน่ๆ แต่ที่เจอมาคือ เราต้องการอะไรอยากได้อะไร บอกเค้า คนที่นี่เค้ากลับช่วยเราแบบไม่บ่น ที่สังเกตมาหรือคิดไปเองก็ไม่รู้ คือ คนที่นี่เค้าไม่ค่อยหงุดหงิดขี้เหวี่ยงเหมือนคนไทยด้วย อย่างวันแรกที่ไป มีมอไซค์ชนกะท้ายรถคันที่เรานั่งอยู่ คนขับลงจากรถไปคุยมองท้ายรถแล้วก็พยักหน้าให้คู่กรณีหนึ่งที ละก็กลับมานั่งเหมือนเดิม(ถ้าเป็นประเทศไทย โทรเรียกประกันเคลียยาวๆจ่ะ555) นี่เลยสงสัยว่าคนที่นี่เค้าไม่ค่อยโกรธกันหรอวะ ขนาดสั่งอาหารแล้วพนักงานเสริฟผิดใช้ให้ไปเปลี่ยน ก็ไม่มีการเหวี่ยงหงุดหงิด แถมยังยิ้มแย้มเอากลับไปเปลี่ยนให้ใหม่ (หรือถุยน้ำลายลงไปในจานรึเปล่าก็ไม่รู้55555) พนักงานตามร้านส่าหรีก็ดีอะ บริการดี หาไซส์ไม่เจอก็ช่วยเราจริงๆ

    ทำเฮนน่าในราคา150รูปี ( 75บาทจ้า ถ้าเป็นแถวตลาดนัดรถไฟบ้านเราล่ะก็ .. 5555) รูปขวาส่าหรี600กว่ารูปี(สามร้อยกว่าบาทไทย)


    เพื่ออรรถรสต้องดูคลิปด้วย แชร์ต่อได้บุญ 
    *กราบขออภัย กล้องสั่นเพราะวิ่งๆเดินๆแบบadventureมาก stabilization ก็เอาไม่อยู่จ้าา
    แลกไป10,000รูปี (และแลกUs dollarเผื่อไปด้วย อีก60ดอล แต่ไม่ได้แตะเลยจ้าา เหลือกลับไทยมาอี๊กก)

    ทดลองถ่ายรูปแบบ #อ้ายมีเหตุผล ฮ่าๆๆ

    และแล้วเราก็มาถึง Guest house ซึ่งเป็นที่สิงสถิตตลอดสามคืน ย่าน Anna nagar สุดชิค ห้องน้ำก็ดีถึงจะผีเข้าผีออกเดี๋ยวน้ำร้อนเดี๋ยวน้ำเย็นไปบ้างบางครั้งคราว แต่อยู่นี่แฮ้ปปี้เหมือนอยู่บ้าน กิจกรรมยามว่างของทุกคนคือเล่นวายฟาย ผู้ชายที่ทำงานที่นี่ก็น่ารัก ชื่อ น้องนาริ ใช้อะไรบริการให้อย่างดีจ้าา

    หน้าตาmanager guest house ก็จะประมาณนี้ (คนนี้ไม่ใช่นาริ ชื่ออะไรไม่รู้ ลืมม)

    นางไปหากับข้าวมาให้ตอนเที่ยงคืนจ้า ต้องชมด้วยนะว่าอร่อย ไม่ชม ไม่ยอมออกจากห้อง 555

      และนี่คือมื้อเช้าที่เวรี่ เอคคลูซีพ ซึ่งเป็นเมนูที่เรียกว่าอะไรไม่รู้ รู้แค่มันเหมือนโจ๊กแบบก้นถ้วยแล้วเค้ากินแบบโรยด้วยน้ำตาล กินไปกินมาก็รู้สึกว่าเหมือนบะจ่าง น้อง งง ไปหมด
     
    หน้าตาของGuest house ที่อยู่จ้าา
    {เกร็ดความรู้ แป้งที่เห็นอยู่ในรูปเรียกว่าแป้งโกลัม ซึ่งจะมีอยู่เกือบทุกลานหน้าบ้านเลยในChennai เค้าเชื่อว่าวาดแล้วจะนำสิ่งดีดีเข้ามาสู่บ้านของตน ถือเป็นหน้าที่ที่ผญต้องตื่นมาทำทุกเช้าเลยแหละ เอาเป็นว่าตื่นเช้า อาบน้ำ แต่งตัว แต่งหน้า สะบัดส่าหรี เสร็จ ก็ต้องมาวาดโกลัมหน้าบ้านก่อนไปทำงานนะจ๊ะ}


    นี่คือย่านAnna Nagarที่ไปพักอยู่ มีความสาทร สุขุมวิทอยู่นะเอ๊อออ ท่าทางจะเป็นย่านคนรวย รถเบนซ์ BMWก็มีเข้าออกไม่ขาดสาย บางบ้านอย่างรูปซ้ายก็ใหญ่โตอย่างกะสถานทูตเลยจ้า

    ร้านรีดเสื้อก็จะมีให้เห็นอยู่บ้าง ชอบความวินเทจของเตารีดที่ยังใช้เตารีดโบราณอยู่

    ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ การนั่งตุ๊กๆอินเดียนี่แหละ คือมันสนุกมากถึงง่วงก็ไม่สามารถหลับได้ ช่วงแรกๆรู้สึกเหมือนเสี่ยงตายตลอดเวลา แล้วการจราจรที่นี่แม่งโคตรindependent และ เวรี่แอดเวนเจอร์มาก ไม่ได้พูดเว่อร์แต่ต้องมาลอง อยู่นี่เหมือนเค้าบีบแตรกันแก้เครียด และเหมือนเป็นประเทศที่ทิ้งกฎทุกอย่างไว้ก่อน ขับรถกันประหนึ่งว่าไม่มีไฟจราจรใดๆ 
    ตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่นั่งรถจริงๆ

    ร้านชายามเช้าจ้า ต่อไปนี้เป็นรูปที่ตามถ่ายstreet และคนที่นี่มั่ง

    อันนี้เดินผ่านตอนแรกขำกร๊าก มันคือคลินิกรักษาหู เห็นแล้วแบบเออเชื่อเลยว่าต้องมี ก็ดูที่นี่เค้าบีบแตรกันสิ (ไปดูได้จากในคลิป) พีคกว่าคือ คลินิกรักษาหู เค้ามีอยู่ทั่วเมือง นั่งรถผ่านก็เจอ555555

    Street food จ้า

    #girlstalk นักเรียนเลิกเรียนกันแล้วว หัวมันเชียว 

    แม่บ้านก็จะมาเลือกซื้อผลไม้ตั่งต่างงง

    มาอินเดียต้องระวังตรงจะถ่ายรูปใครต้องขอเค้าก่อน 
    และอีกอย่างคือ ระวังถ่ายเสร็จ เค้าจะเดินตามมาขอเงินจ้า

    ตัวไรเอ่ย?
    แฮร่ ..

    วัวที่นี่จะมีเกลื่อนพอๆกะหมามาก แต่จะไม่มีใครไปยุ่งอะไร ใครที่เคยอ่านพวกความเชื่อมาก็อย่างที่รู้กันคือ วัวเป็นพาหนะสำคัญของพระศิวะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเค้าจะนับถือวัวเป็นพระเจ้าเลย เคยเจอเรื่องพีคๆเกี่ยวกะวัวครั้งนึง คือ หมาจะไปกัดวัวแล้วคนเอาเก้าอี้ทุ่มหมานี่แหละ โหดสึสส

    แม้แต่โปสเตอร์ก็ยังดูcolorful ชอบตรงนี้

    มาอินเดียต้องดื่มชาไม่งั้นมาไม่ถึงจริงๆ แก้วละ20รูปี (10บาทเท่านั้น บางร้านขายแค่7บาทก็มี)
    ซาโมซ่า & บาเยียร์ 
    ชาเค้าจะกินคู่กับขนมหน้าตาประมาณนี้ ซึ่งกินยังไงก็รู้สึกว่ามันคือกะหรี่ปั๊บชัดๆ แต่อร่อยว่ะ เห้ย
    อยู่นี่ดื่มชาเกือบจะทุกวัน มันรู้สึกโล่งมากมากก เพราะมีกลิ่นสมุนไพรอยู่ในชาด้วย ดื่มแล้วรู้สึกเฟรชช เลยซื้อที่เป็นแพคเกจในsupermarketกลับมาไทย ติดใจเว่อ

    เรียกรถมาถึงวัด kapaleeswarar จ้า วัดสุดแสนจะขึ้นชื่อของเจนไน มาถึงหน้าวัดก็ต้องซื้อดอกไม้ แต่ไม่ได้ซื้อไปทำบุญ //ซื้อไปเป็นพร้อพถ่ายรูปเฉยๆ 55555
    วัดที่นี่เปิดกันตั้งแต6โมงเช้าแต่จะปิดกันประมาณเที่ยง และจะเปิดอีกทีตอน 4 โมงเย็น เค้าถือว่าช่วงบ่ายเป็นเวลาพักผ่อนขององค์เทพ ห้ามรบกวน!
    ก่อนจะเข้าก็ต้องเสียค่าฝากรองเท้าด้วยจ้าา ถ้าจะถ่ายรูปแบบใช้Dslr รู้สึกเหมือนจะเสียค่ากล้องด้วย
    อันนี้แฟชั่นเซ็ท ซึ่งไม่มีสาระอะไรแค่จะโชว์ความมั่นของตัวเองเฉย ผ่านไปได้ 55555 
    ( เหมือนแพรี่พายปะ )
    Marina beach with a bitch lol เป็นบีชชที่แบบโคตรของความกว้างงง 
    คนอินเดียเค้าก็จะมานั่งชมวิวยามเย็นกัน ชิลล์ดี 
    มีกิจกรรมให้เล่นแบบฟิลล์งานวัดบ้านเฮา แต่ไม่รู้ว่าปาได้แล้วจะได้ของรางวัลรึเปล่านะ 555
    อะร้านน้ำปั่นชิคชิคริมหาด ถ่ายพวกร้านผลไม้ในอินเดียรู้สึกรูปมันสวยอะ หรือคิดไปเองคนเดียวก็ไม่รู้

    พราวทูพรีเซ้นน Rooftop In Chennai จ้าา ไม่ได้พิเศษอะไรมาก เป็นดาดฟ้าและมีโต๊ะ กะไฟกะพริบกะพริบตรงบันไดทางขึ้นแค่นั้น แต่ความชิลล์ระดับสิบ ลมดี มีวิวMetroผ่าน เบียร์ที่อินเดียรู้สึกเหมือนจะผิดกฎหมายบ้านเค้า555ราคาเลยแพงกว่ากับข้าวที่กิน และนางก็จะมีsetข้าวพองมาให้แบบนี้ กินเพลินมาก และถึงแม้จะไม่มีเพลงในร้าน แต่โต๊ะข้างหลังก็เปิดเพลงในมือถือบิ๊วกันเอง แฮ้ปปี้

    ก่อนมาอินเดีย ทุกคนที่มาด้วยคือเตรียมยาแก้ท้องเสียมากันแต่สรุปคือขายไม่ออกอะโทษที อาหารที่นี่ทำอะไรชั้นไม่ได้!! เพราะชั้นผ่านการเทรนจากร้านพาหุรัดมาแล้ว 555 เลยรู้สึกว่าอาหารอินเดียมันอร่อย เกี่ยวหรอ (จริงๆก็เลือกกินกันด้วยแหละใช่ว่าจะกินstreet food สุ่มสี่สุ่มห้า)จุดเด่นของอินเดียก็นั่นแหละเค้ายังใช้มือกินกันอยู่ อาหารขึ้นชื่อของเค้าที่ต้องกินทุกมื้อคือข้าวผัด คนอินเดียใต้เค้าจะกินข้าวผัดกัน ตอนแรกคิดว่าจะมีแต่แป้งนานซะอีก ถ้าใครคิดว่ามาอินเดียจะผอมกินข้าวไม่ได้กินอะไรก็แพนิค เปลี่ยนความคิดค่ะ เพราะนี่เจอแต่ร้านอร่อยมากก แล้วแป้งนานแผ่นเดียวก็ตั้งกี่ร้อยแคล ถถถ ชอบสุดคือเนื้อแกะ ที่ถึงแม้บ้านเค้าจะเป็นVegeterian ก็สรรหากินกันให้จนได้ ในส่วนของแกงก็เหมือนๆบ้านเราแต่จะกลิ่นแรงกว่า มื้อนึงกินกันสี่คนตกประมาณสองสามร้อยบาทเอง แล้วคนอินเดียเค้าจะกินกันเยอะมากก จานก็จะใหญ่มาก ข้าวผัดชามนึงที่ไปกินกันสี่คน อันนั้นคือสำหรับคนอินเดียกินคนเดียวเลย เท่าที่สังเกตมา 
    // ปล. เป็นรูปที่บรรยายเยอะสุดเพราะประทับใจกับแต่ละมื้อมาก 

    ปล. 2 รูปสองอยากถ่ายแบบฮิปสเตอร์ แต่อินเนอร์โคตรจัณฑาล เห้อม 
    นี่คือโฉมหน้าภายในmetroที่Chennaiจ้าา มีควัมฮรัยโซวว ที่ไทยเทียบไม่ติดอะบอกเลย คลีนมากก สะดวกสะบายนั่งไปได้รอบเมือง นั่งไปairportก็ยังได้ ที่สำคัญรถไฟที่นี่คือเร็วมากจริงๆ 

    ปล. นี่เค้าก็ไม่ให้ถ่าย แต่แอบถ่ายมา เพื่อลบภาพความเป็นอินเดียที่ทุกคนคิดว่าล้าหลัง

    รูปนี้คือวันแห่งการช้อปปิ้งที่ Pondy Bazaar เพื่อตามล่าหาส่าหรีเบาซ์จ้าา ดีใจมากเพราะคิดว่าจะไม่มีเสื้อ blouse ข้างในที่เป็นไซส์ตัวเอง แต่พนักงานก็หามาให้ชั้นจนได้ ฮืออ

    เกือบลืมเล่าตามร้านค้าใหญ่ๆหรือซุปเปอร์มาเก้ตที่นี่มีความน่าลำไยอย่างนึงคือ ระบบการคิดเงิน ใส่ถุง คือ คิดเงินคนนึง ทอนคนนึง ปั๊มคนนึง ใส่ถุงคนนึง คือต้องเดินครบรอบแบบจงกลมจ้ากว่าจะเสร็จ แล้วสิ่งที่ งง สุดคือ นางจะเอาตัวล้อกมาล้อกถุง เพราะกันเราขโมยของใส่เข้าไปในถุงอีก
     (คือถ้ากุจะขโมยกูใส่กระเป๋าตัวเองก็ได้ ... )

    รูปนี้เหมือนเป็นทูตวัฒนธรรม555555555555555 ที่เห็นคือคนที่มาช้อปปิ้งเหมือนกัน เค้าก็มาช่วยเราใส่ส่าหรีนี่แหละ ชอบความniceของคนอินเดียตรงนี้
    จะมีประเทศไหนในโลกที่เห็นเราใส่ชุดประจำชาติเค้าผิด หรือ ใส่แล้วจีบไม่สวย ก็จะมาถอดช่วยใส่ให้ใหม่ แต่ต้องดูคนที่มาช่วยดีๆนะ นี่เจอเรื่องหงุดหงิดมาแล้ว คือมียายมาช่วยใส่ให้ใหม่ ทำให้เสร็จ ก็ขอตังจ้า!! โถ่ นึกว่าจะมาช่วยแบบเต็มใจ   -__- สุดท้ายก็ให้ไปตามระเบียบ
     หลังๆต้องสกรีนว่าคนที่มาช่วยเราเป็นผู้ดีมีตัง หรือเป็นคนที่จะมาทำบุญเข้าวัดรึเปล่า 
     ถ้าเป็นผู้ดีนี่เค้าจะจับจีบส่าหรีให้เราแบบดูแพงมาก งานละเอียดมาก
     ประมาณว่าถ้าไม่เป๊ะป้าไม่ให้ไป ต้องสวยก่อนนะลูก...

    ตอนทำเฮนน่าจ้า มีความเม้มปากก // นี่กลับไทยมาเป็นอาทิตย์ละเฮนน่ายังไม่หลุดเล๋ย

    @Sriparthasarathy temple ซึ่งเกริ่นแล้วว่าไม่ใช่สายบุญ แต่มาเพื่อถ่ายรูปและกลับ 5555
     ก็จะได้ฟิลล์รูปถ่ายแบบหนังจักรๆวงศ์ๆมา
    คนขับตุ๊กๆนางพานำเที่ยว และก็มาจอดที่นี่จ้า Vivekananda house เป็นเหมือนมิวเซียมที่มีประวัติบุคคลท่านหนึ่งให้อ่าน ให้เดินไล่อ่านตามหมายเลข ข้ามหมายเลขไหนไป พนักงานก็ยังอุตส่าห์เรียกกลับมาให้อ่านอีก 555 ( ประมาณว่ามึงต้องอ่านให้รู้ให้ได้นะ) ซึ่งเดินมาถึงหมายเลขจุดสุดท้าย ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นมิวเซียมเกี่ยวกะอะไร คนขับตุ๊กๆนางคงเป็นFCล่ะมั้งเลยพามา

    มื้อเช้าวัดสุดท้ายก่อนกลับอันนี้ตลก555555เคยลงรูปนี้ไปละครั้งนึง เป็นมื้ออาหารที่ไม่รู้จะสั่งอะไรก็สั่งกันไปมั่วๆเละๆเทะๆ คือสั่งเมนูที่มีชื่อว่าDosaมาคนละอย่าง มันก็จะมีความหมวกแม่มด ฟิลลิ่งงานปาร์ตี้ และสั่ง Dora family set เพิ่มอีก พนักงานนี่ก็มองหน้าว่าจะเอาจริงๆหรอ พอนางเปิดประตูออกมาเสิร์ฟเท่านั้นแหละ อห กุนึกว่าบั้งไฟพญานาค555555555 สุดท้ายก็กินไม่หมดไปตามระเบียบ
    ใครอยากได้ฟิลล์เป็นซุปตาร์ก็มาที่อินเดียได้ เพราะคุณจะถูกรุมขอเซลฟี่ประหนึ่งเป็นเอมม่า วัตสัน ทุกคนจะชื่นชอบมาก และขอจับมือ ใครที่อยู่ไทยแล้วไม่ป๊อบ มาอยู่นี่คุณคือดาวเจิดจรัส และจะเจอดงบังมารุมอย่างแท้ทรู  

    ปล.คนที่นี่เค้าบ้ากล้องมากด้วยบอกเลยย เอออะให้ถ่ายๆตล๊อดด

    ชอบความTraditionalตรงที่ ไม่ใช่แค่ผญที่ยังใส่ชุดประจำชาติ แต่บาร์บี้นางก็ใส่อะ คิ้วท์ๆ

    โย่วๆ ทูรูปี
    สุดท้ายแล้วอยากจะบอกว่า ถ้ามีโอกาสก็คงกลับไปอีกแต่คงไปทางเหนือ หรือ ไม่ก็ถ่ายรูปทัชมาฮาลแบบแมสๆดูบ้าง ถ้าถึงเวลามีตังอะนะ

    .
    .
    อินเดียในมุมเรานี่ขนาดไปแค่4วันเอาจริง เล่าสิบปีก็ไม่จบ ตึกราบ้านช่องของเค้าแทบจะไม่ต่างจากไทยเลยด้วยซ้ำ แต่แค่จับยัดคนอินเดียเข้าไป มันเลยทำให้ดูมีสเน่ห์เป็นของตัวเอง จะมีประเทศไหนที่ยังใส่ชุดประจำชาติของตัวเองอยู่ (บางทีก็แอบคิด ถ้าคนไทยห่มสไบไปเดินสยามจะเป็นไงวะ) 

    เวลาคนถามว่าอินเดียเป็นยังไง จะบอกเลยว่าตลกก คือเราว่าอินเดียมีแต่เรื่องตลกคนก็ตลก จะตดก็ตด เรอก็เรอเลย ส่ายหัวนิดนึงก็ฮา สิ่งของยังเล่นตลกเลย น้ำในห้องน้ำเดี๋ยวอุ่นเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน บางculture shockที่เจอ พอเห็นก็เออมันฮาดีว่ะ 

    ภาพที่คิดไว้คือต้องเจอขอทานตาม แต่นั่นแหละก็เจอจริงๆมันเป็นปกติเลยมั้งที่อินเดีย แต่แค่เราทำหน้าจริงจังเค้าก็จะไม่ขอต่อ 
    ห้องน้ำที่คิดว่าจะเน่ามากก แต่เลือกตามห้าง ตามร้านอาหาร มันก็ไม่ได้แย่ 

    อยากให้เปลี่ยนความคิดว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด ต้องมาลองจริงๆ แล้วจะรู้เลยว่า
     "Incredible India" มันเป็นแบบนี้ มันเป็นโลกแห่งความจริง เคยมีคนบอกว่า
     "อินเดียถ้าไม่รักมาก ก็เกลียดไปเลย " แต่นี่รู้สึกว่า รักเลยอะ

















Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
callmejay (@thnnwu)
เข้ามาอ่านแล้วแอบคุ้นๆมุมบางมุมที่เห็นเพื่อนถ่ายลงเฟซ
แล้วก็เห็นรูปฟรอย เอ้า ใช่จริงด้วย(ใช่มั๊ย 55555)
สนุกมากค่ะ อ่านแล้วอยากไปบ้างเลย ><
parnjazmyn (@fb1388620267839)
@thnnwu ใช่ค่าน้องไปกะพี่ฟรอย555ตายล้าว พี่ฟรอยอุตส่าแอบไป โป๊ะเล๋ยย
callmejay (@thnnwu)
@fb1388620267839 ชอบชุดส่าหรีที่ใส่กันมากเลย สวยมาก สีจี๊ดมาก อยากไปบ้างเพราะอยากใส่ส่าหรีนี่แหละ >< 555555
Strichar (@Strichar)
เขียนสนุกมากเลยครับ :)
parnjazmyn (@fb1388620267839)
@Strichar วี๊ดดcommentแรกเลย ขอบคุณค่ะ ><