อิโนะอุเอะ เรียวมะ กล่าวถึงเหตุผลที่ตั้งชื่อเพลง Letter ว่า "เป็นเพลงที่หมายถึงการส่งจดหมายถึงตัวเอง "ให้จดจำสิ่งต่างๆ เอาไว้จะดีกว่า" และมีจุดที่พูดคุยกับตัวเองถึงเรื่องราวที่คล้ายกับเนื้อเพลง จึงอยากทำเพลงที่พอร้องแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านจดหมายอยู่"
Okaeri mō hitori no boku
ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ ตัวผมอีกคน*
上手くやれたかい
umaku yareta kai
เป็นไงบ้าง ชีวิตราบรื่นดีไหม
un, sore nari ni
อืม ก็พอใจในระดับหนึ่ง
omoi wa te banashi tashi
gaman suru no datte narete kita
ปล่อยวางจากอารมณ์ความรู้สึก
และชินชากับการอดทนอดกลั้นไปเสียแล้ว
kore de īi hazu wa nai
kedo nami kaze wa mō tate takunai
เป็นแบบนี้ใช่ว่าจะดี
แต่ก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องราวที่สงบแล้ว
ให้วุ่นวายขึ้นมาอีก
yogoreta kagami ni toi kakete
kodoku ni futa o kakeru
ถามไถ่ความจริงจากกระจกที่แปดเปื้อน⦿
กักขังความโดดเดี่ยวเอาไว้●
大人になっていくことが
僕を狂わせてるんじゃないかって
思ったりもしたけど
otona ni natte iku koto ga
boku o kuruwase terun janai katte
omottari mo shita kedo
บางครั้งก็คิดว่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น
ทำให้ผมบ้าคลั่งเสียสติไปหรือเปล่านะ
僕らは大切な人から順番に
傷つけてしまっては
後悔を重ねていく
bokura wa taisetsu na hito kara junban ni
kizu tsukete shimatte wa
kōkai o kasa nete iku
พวกเรามักจะเผลอทำร้ายความรู้สึก
คนที่สำคัญที่สุดก่อน
แล้วมานึกเสียใจภายหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
sore demo aishi tari
aisa retai to negatte iru
ถึงอย่างนั้นก็เฝ้าวิงวอน
อยากรักใครสักคน
อยากเป็นคนที่ถูกรัก
anata o mamoreru hodo no
yasashi-sa o saga shite iru
เฝ้าตามหาความอ่อนโยนมากพอ
ที่จะทำให้ปกป้องเธอเอาไว้ได้
dō ka sono te de mō
jibun o semete tsubusa naide
ได้โปรดอย่าใช้มือนั้นทำร้ายตัวเอง
อย่าโทษตัวเองอีกเลย
tsumi totta hana bira wa
tada karete kaze ni fukarete iku
กลีบดอกไม้ที่ถูกเด็ดดอมจะแห้งเหี่ยวลง
และถูกสายลมพัดพลิ้วไป**
大人になっていくことが
君を惑わせてるんじゃないかって
思ったりもしたけど
otona ni natte iku koto ga
kimi o mado wase terun janai katte
omottari mo shita kedo
บางครั้งก็คิดว่าการเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น
ทำให้เธอสับสนว้าวุ่นใจหรือเปล่านะ
僕らは信じたい人から順番に
疑ってしまっては
自分を嫌っていく
bokura wa shinjitai hito kara junban ni
uta gatte shimatte wa
jibun o kiratte iku
พวกเรามักจะเผลอสงสัย
คนที่เราอยากเชื่อใจที่สุดก่อน
แล้วก็รู้สึกเกลียดตัวเองขึ้นเรื่อยๆ
sore demo fureta kute
kokoro no oku e ayumi yoru
ถึงอย่างนั้นก็เลือกดำดิ่งเข้าไปในส่วนลึกสุดใจ
เพราะอยากจะรู้สึกถึงมัน
anata wo ōi kakusu hodo no
setsuna-sa o shirita kute
อยากรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานใจ
ที่มีมากพอให้ซ่อนเร้นเธอเอาไว้
探している 知りたくて
探している
saga shite iru shirita kute
saga shite iru
เพราะอยากรู้ จึงเฝ้าตามหา
ยังคงตามหาต่อไป
知りたくて 探している
知りたくて 探している
shirita kute saga shite iru
shirita kute saga shite iru
เพราะอยากรู้
จึงเฝ้าตามหาต่อไปเรื่อยๆ
僕らは大切な人から順番に
傷つけてしまっては
後悔を重ねていく
bokura wa taisetsu na hito kara junban ni
kizu tsukete shimatte wa
kōkai o kasanete iku
พวกเรามักจะเผลอทำร้ายความรู้สึก
คนที่สำคัญที่สุดก่อนเสมอ
แล้วมานึกเสียใจภายหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
sore demo tachi komeru
kiri no michi o susunde iku
ถึงอย่างนั้นก็ยังมุ่งหน้าต่อไป
ยังเส้นทางที่มีแต่หมอกหนาปกคลุม
anata o tera seru hodo no
yasashi-sa o saga shite iru
เฝ้าตามหาความอ่อนโยนมากพอ
ที่จะทำให้เธอส่องประกายเฉิดฉาย★
探している 知りたくて
探している
saga shite iru shirita kute
saga shite iru
เพราะอยากรู้ จึงเฝ้าตามหา
ยังคงตามหาต่อไป
----------------------------------------
*もう1人の僕 (mou hitori no boku)
ท่อนนี้ตีความได้ 2 ทางคือ
- "ตัวผมอีกคน" กรณีนี้จะหมายความว่า ตัวเรามี 2 ร่าง ร่างแรกคือร่างที่อยู่ในบ้าน(ร่างจริง) ร่างสองคือร่างที่ออกไปนอกบ้าน(ร่างที่ใส่หน้ากาก) พอกลับถึงบ้านร่างที่อยู่บ้านก็พูด "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" กับร่างที่ออกไปข้างนอก
- "ตัวผมที่เหลืออยู่ตัวคนเดียวแล้ว" กรณีนี้จะหมายถึง ก่อนหน้านี้เราเคยมีคนรัก แต่เลิกรากันไปแล้ว ตอนนี้เลยเหลือแค่ตัวเองอยู่คนเดียวในบ้าน พอกลับมาถึง ก็ทำได้เพียงพูดกับตัวเองคนเดียว
⦿汚れた鏡に問いかけて
yogoreta kagami ni toi kakete
ถามไถ่ความจริงจากกระจกที่แปดเปื้อน
- ท่อนนี้คิดว่าเป็นการพูดคุยกับตัวเองหน้ากระจก ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังสนทนาอยู่กับใครอีกคน (ทำไปเพื่อกลบเกลื่อนความเหงาหรือเปล่านะ)
- กระจกที่แปดเปื้อน สื่อถึงร่องรอยการใช้ชีวิตของตัวละครในเพลง บนกระจกอาจจะมีทั้งฝุ่น คราบสกปรก รอยเปื้อนเครื่องสำอางต่างๆ ของคู่รักที่เลิกรากันไปแล้วก็เป็นได้
●孤独に蓋を掛ける
kodoku ni futa o kakeru
กักขังความโดดเดี่ยวเอาไว้
- ท่อนนี้จริงๆ แปลตรงตัวจะได้ว่า เอาฝาปิดครอบความโดดเดี่ยวเอาไว้ ถ้าแปลแบบตีความอาจจะหมายถึง การพยายามทำตัวร่าเริง เพื่อซ่อนเร้นความโดดเดี่ยวที่มี เก็บซ่อนความเดียวดายเอาไว้ในใจเพียงลำพัง
**摘みとった花びらはただ枯れて風に吹かれていく
tsumi totta hana bira wa tada karete kaze ni fukarete iku
กลีบดอกไม้ที่ถูกเด็ดดอมจะแห้งเหี่ยวลง และถูกสายลมพัดพลิ้วไป
- ท่อนนี้น่าจะสื่อสารว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะต้องจบลงในสักวันหนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องร้ายหรือดีก็ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นสัจธรรมของชีวิต
★あなたを照らせるほどの優しさを探している
anata o tera seru hodo no yasashi-sa o saga shite iru
เฝ้าตามหาความอ่อนโยนมากพอที่จะทำให้เธอส่องประกายเฉิดฉาย
- ท่อนนี้คิดว่า คนเรามีทั้งตัวตนที่อยากลืมกับตัวตนที่อยากจำ เพลงอาจจะอยากสื่อสารว่า ตัวเขาอยากจะตามหาความอ่อนโยน (ในที่นี้อาจจะหมายถึงความรู้สึกให้อภัยตัวเองหรือเปล่านะ) ที่ทำให้เขายอมรับตัวตนของตัวเองที่อยากลืมให้ได้ในสักวันหนึ่ง เพราะที่ผ่านมา เขาเอาแต่ซ่อนเร้นตัวตนที่อยากลืมเอาไว้ พยายามทำเป็นลืม ไม่อยากขุดคุ้ยรื้อฟื้นเรื่องราวในอดีต เหมือนตัวละครในเพลงค่อยๆ เข้าใจว่า การลืมไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะสิ่งที่เคยลืมถ้าถูกอะไรบางอย่างสะกิดหรือกระตุ้น ความทรงจำนั้นก็จะหวนกลับมาอีกครั้งอยู่ดี เขาจึงพยายามค้นเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจ เพ่งพินิจดูทั้งความทรงจำดีๆ และความทรงจำร้ายๆ ทำความเข้าใจมันไปทีละนิด และพยายามที่จะอยู่ร่วมและยอมรับให้ได้ทั้งส่วนที่สวยงามและแตกร้าวของตัวเอง เหมือนที่เรียวมะผู้แต่งเพลงนี้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "ให้จดจำทุกเรื่องราวเอาไว้จะดีกว่า"
- "เธอ" ในท่อนนี้จึงน่าจะหมายถึง "ตัวตนในอดีตของเขาเอง หรือใครสักคนที่เขาอยากลืม"
// พอคิดว่าเรียวมะแต่งเพลงนี้เพราะอยากให้ความรู้สึกเหมือนเราอ่านจดหมายที่เขียงส่งถึงตัวเอง เลยคิดว่า 僕;boku (ผม) 君;kimi (เธอ) あなた;anata (คุณ) ในเพลงอาจจะหมายถึงตัวเรา(ผู้ฟัง)หมดเลยก็ได้ เนื้อเพลงบางท่อนก็ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองในปัจจุบันพูดคุยกับตัวเองในอดีต
เพลงนี้น่าสนใจในแง่ที่ว่า ถ้าตีความตามเนื้อเพลงจะได้แบบหนึ่ง ถ้าตีความตามMV จะได้อีกแบบหนึ่ง และถ้าตีความตามประสบการณ์ในชีวิตของผู้ฟังแต่ละคน ก็จะได้มุมมองที่หลากหลายต่างกันไปอีกหลายๆ แบบ
ล่าสุดทางวงSHE'S ได้ปล่อยเพลงนี้ในเวอชั่นLive Movie ให้แฟนๆ ได้รับชมและรับฟังด้วยค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in