ถือว่าเป็นข่าวโคตรดีส่งท้ายปีสำหรับชาวไทยที่เป็นแฟนเพลงของวงดนตรีบริทป็อบระดับตำนานอย่าง Oasisที่จะได้มีโอกาสชมคอนเสิร์ตของ (น้า) 'เลียม กัลลาเกอร์' อดีตฟร้อนท์แมนตัวแสบที่เคยเคียงคู่กับพี่ชาย 'โนล กัลลาเกอร์' แห่งวง Oasis เจ้าของเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Supersonic, Live Forever, Wonderwall, Stand by me ฯลฯ แม้ว่าปัจจุบันนี้เลียมและโนลจะแยกกันทำงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่ทั้งคู่ก็ขยันมีกระแสข่าวไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะเรื่องกัดแซะกันไปมาตามประสาคนเคยรัก (และยังรักอยู่ แต่ไม่แสดงออก ไม่ต้องการบอก ไม่ให้รู้หรอก)
โนล กัลลาเกอร์
หลังจากที่พี่โนลไปได้ดิบได้ดีกับโซโลเดี่ยว Noel Gallagher's High Flying Birds ก็ถึงเวลาของน้องเลียมที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ร็อกแอนด์โรลอีกครั้งในรอบหลายปี เพราะหลังจากที่ Oasis วงแตก ก็ไปตั้งวงใหม่ในนาม Beady Eye แต่ก็ยุบวงไปอีกครั้ง แถมเจอมรสุมชีวิตครอบครัว (ที่ก่อขึ้นเอง) ทำให้หายหน้าหายตาจากงานเพลงไปพักใหญ่ๆ จนกระทั่งปี 2017 เลียมกลับมาขอคืนฟอร์มด้านดนตรีอีกครั้งในฐานะศิลปินเดี่ยว โดยได้ปล่อยซิงเกิ้ลเพลง Wall of Glass ออกมาให้ฟังกัน ก่อนจะตามมาด้วย Chinatown และ For What It's Worth จุดกระแสให้แฟนเพลงหวนคิดถึงกลิ่นอายของ Oasis วงดนตรีที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานบริทป๊อบแห่งยุค 90s อีกครั้ง
สำหรับอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกของเลียมมีชื่อเก๋ๆว่า As You Were ปล่อยให้ฟังแบบเต็มๆเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างปรากฎการณ์ As You Were ไปทั่วเกาะอังกฤษมาแล้ว ตอนนี้เลียมก็กำลังอยู่ในช่วงทัวร์คอนเสิร์ต และหนึ่งในจุดหมายปลายทางของเฮียแกก็คือ Bangkok จ้า เชื่อว่าตอนนี้สาวกหลายคนคงกำลังยิ้มกันปากฉีกถึงหูแน่นอน เพราะจะได้เตรียมตัวไปดูคอนเสิร์ตของร็อกไอคอนในวันที่ 12 มกราคม 2561 ตำนานมาเยือนถิ่นไทยแลนด์ทั้งที ก็ขอมีส่วนร่วมสักหน่อยโดยการแนะนำเพลงจากอัลบั้ม As You Were พร้อมกับเผย 5 เหตุผลว่าทำไมเราควรไปดูคอนเสิร์ตของเลียม กัลลาเกอร์ ในครั้งนี้ !
2. อัลบั้ม As You Were ยอดขายทะลุแสนก๊อปปี้ภายใน 1 สัปดาห์
เลียม คนขี้อวด
สมัยนี้ไม่ค่อยจะมีใครซื้อแผ่นซีดีเพลงกันแล้ว เพราะสามารถฟังผ่านสตรีมมิ่งได้ แต่หลังจากที่อัลบั้ม As You Were วางจำหน่าย กลับสร้างปรากฎการณ์ขึ้นอีกครั้งด้วยการจำหน่ายแผ่นไวนิลได้มากถึง 16,000 แผ่นในสัปดาห์แรก นับว่าเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 20 ปี ทำให้อัลบั้มของเลียมขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในอังกฤษนอกจากนี้ยอดจำหน่ายรวมของอัลบั้ม As You Were ยังขายได้ 103,000 ก๊อปปี้ ภายในสัปดาห์แรก โดยแบ่งเป็นแผ่นซีดีร้อยละ 91 และดิจิทัลดาวน์โหลดอีกร้อยละ 9 แถมอัลบั้มยังทะยานขึ้นอันดับ 1 ใน iTune Chart ของหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย !
ไอ้เจ้าตัวเลข 103,000 ก๊อปปี้นับว่าสนใจมาก เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีคนซื้ออัลบั้มเพลงกันจริงๆแหละ ส่วนใหญ่ก็ฟังผ่านยูทูป สตรีมมิ่งฟังฟรีๆ หรือไม่ก็ดาวน์โหลดเฉพาะเพลงบางเพลงที่ชอบจริงๆ แต่อัลบั้ม As You Were ของเลียมกลับทำยอดขายได้แสนกว่าก็อปปี้เลยนะ ส่วนหนึ่งเชื่อว่าแฟนเพลง Oasis คิดถึงเลียมกันด้วยแหละ แถมแนวเพลงชุดนี้ก็ให้บ่งบอกถึงความเป็นเลียมจริงๆ และเลียมยังลงมือแต่งเพลงเองร่วมกับโปรดิวเซอร์ด้วย เลียมเคยให้คะแนนอัลบั้ม As You Were ของตัวเอง 11 เต็ม 10 อ่ะ คิดดู คนบ้า 555
(รู้หรือไม่สมัยที่ Oasis ออกอัลบั้มชุดที่ 3 Be Here Now ในปี 1997 สามารถขายได้มากถึง 424,000 ก็อปปี้ ภายในวันเดียว ! นี่คือเฉพาะในอังกฤษนะ โอ้โหบ้าไปแล้ว วันแรกที่อัลบั้มวางแผง มีคน 400,000 กว่าคนมาซื้ออัลบั้มงั้นเหรอ ไม่ดังจริงทำไม่ได้นะเนี่ย ลองดูคลิปข้างล่างนี้แฟนเพลงมารอซื้ออัลบั้มกันตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด แถมมีสื่อมารอทำข่าวด้วย จะว่าไปยุคสตรีมมิ่งในปัจจุบันมันก็ทำให้เสน่ห์บางอย่างหายไปเหมือนกันเนอะ)
แฟนเพลง Oasis จำนวนมากอาจจะบ่นอุบว่า ไม่ได้ฟังเพลงในอัลบั้มเดี่ยวเลียมเลยว่ะ ร้องเป็นอยู่ไมกี่เพลงแต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเลียมออกมาบอกแล้วว่า จะนำเพลงเก่าๆของ Oasis ที่ตัวเองร้องมาเล่นในคอนเสิร์ตให้มากขึ้น ทำให้ set list เพลงของเฮียแกนอกจากจะมีเพลงจากอัลบั้มใหม่แล้ว ยังมีเพลงเก่าๆของ Oasis ที่ทุกคนคิดถึงอีกด้วย เช่น Wonderwall , Live Forever , Rock n Roll Star , Slide Away ถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ฟังเพลงดังระดับโลกสุดคลาสสิกจากลูกคอของ เลียม กัลลาเกอร์ ด้วยหูของตัวเองสักครั้ง (ในชีวิต)
แต่ที่สร้างเซอร์ไพรส์สุดๆคือเฮียแกประกาศว่าตั้งแต่ พ.ย. เป็นต้นไปจะเริ่มเอาเพลงอื่นๆของ Oasis ที่ไม่ค่อยได้ร้องมาใส่ไว้ใน set list ให้มากขึ้น (เอาดีๆ ร้องเพลงเก่ามากกว่าเพลงใหม่แล้วนะ 555) ตอนนี้เลียมก็เริ่มเอาเพลง Be Here Now , Some Might Say, Cigarette and Alcohol, I'm Outta Time และ Rockin' Chair มาร้องด้วยแหละ (ดีใจมากที่อาจจะได้ฟัง Rockin' Chair ในคอนเสิร์ตแบบสดๆ)
ทั้งนี้ เพลงในอัลบั้ม As You Were ก็ดีงามทั้งนั้น เลียมลงมือแต่งเพลงเองร่วมกับโปรดิวเซอร์ด้วย และมีการเพิ่มเพลงพิเศษให้ฟังกันด้วย สำหรับเราชอบเพลงในอัลบั้มนี้หลายเพลงมาก For What It's Worth, Paper Crown, Universal Gleam, Come Back To Me, Bold, When I'm In Need, I've Never Wanna Be Like You เอ่อเกือบครบทั้งอัลบั้มแล้วป่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in