"ผมไม่คิดว่า "healing" หมายความว่า มันจะทำให้เรารู้สึกสดใสขึ้นมาซะเฉยๆ คุณรู้ไหม คุณสามารถทนทุกข์กับความเศร้าและความหดหู่ได้ หากมันมีความหมาย การปราศจากความหมายต่างหากคือความทรมานที่แท้จริง และการค้นพบความหมายของชีวิตอันแสนไร้ซึ่งความหมายนั่นเอง คือสิ่งที่ดนตรีเยียวยารักษาผม" Jongwan Kim 2007
นี่คือสิ่งที่อัลบั้ม
Healing Process (2006) รวมไปถึงในทุกอัลบั้มของ Nell ทำงานกับคนฟัง และส่วนตัวคิดว่าหากชีวิตคุณกำลังย่ำแย่แบบสุดๆ ขอให้ข้ามอัลบั้มนี้ไปก่อน ถ้าเราจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ไม่สามารถใช้ชีวิตกับความโศกได้เป็นปกติเหมือน
คิมจงวาน (นักร้องนำและผู้แต่งเพลงทั้งหมดของ Nell) แล้ว อัลบั้มนี้โคตรจะกระหน่ำซ้ำเติม พาดิ่งมากๆ แต่มันก็จะสะใจมากเช่นกัน สำหรับคนที่เจอเรื่องเศร้าๆ แล้วชอบราดตัวเองด้วยเพลงเศร้า อัลบั้มนี้ก็จะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างดี มีเสียงร้องไปฟืน มีดนตรีเป็นลม ช่วยพัดโหมกองไฟแห่งความเศร้า ความหดหู่หม่นหมองให้ลุกโชน
อัลบั้ม
Healing Process เป็นสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 (ไม่นับรวมอัลบั้มอินดี้) ออกมาเมื่อปี 2006 เป็นอัลบั้มแรกที่ปล่อยออกมาหลังจากที่ย้ายสังกัดมาอยู่ Woollim Entertainment ในระหว่างการทำอัลบั้มเป็นช่วงเวลา
คิมจงวาน เต็มไปด้วยความเศร้าจากหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยแม้กระทั่งเซ็กซ์ ดนตรีเป็นสิ่งเดียวที่เขาอยากจะทำ เพลงในอัลบั้มนี้จึงเต็มไปด้วยสิ่งเหล่านั้น ทั้งความรัก ความปราถนา การจากลา ความโศกเศร้า จิตตก หดหู่ และความตาย เป็นอัลบั้มที่เขาจมปลักอยู่กับเนื้อเพลงมากๆ มันจึงถูกถ่ายทอดออกมาอย่างพรั่งพรูทั้งหมด 18 เพลง (2 CD)
CD1
VIDEO
CD2
VIDEO
(เมื่อไร spotify จะลงเพลง Nell ครบทุกอัลบั้มสักที /บ่น) เพลงในชุดนี้จะมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่วงกำลังทดลองสิ่งใหม่ๆที่เพลงของ Nell ในอัลบั้มก่อนๆไม่มี มีสเกลของดนตรีที่ใหญ่ขึ้น มีเครื่องสายและซาวด์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเข้ามา มีเพลงเด่นๆเช่น 현실의 현실 (Reality of Reality), 섬 (Island), Good night, 마음을 잃다(Loosin g Hea rt), Counting Pulses, Beautiful Day, Cure, 안녕히 계세요 (Farewell), A.S, 한계 (Limit), 51 minutes ago, movie (ไล่ไปไล่มาจะครบอัลบั้มแล้ว)
ซึ่งหากจะมาไล่เรียงทุกเพลงในบทนี้คงจะยาวสุดๆ จึงจะขอแนะนำก่อนหนึ่งเพลง ว่าการไร้ซึ่งความหมายในมุมมองของ
คิม จงวาน นั้นเป็นอย่างไร นั่นก็คือเพลงแทร็คที่ 2 (CD2) ชื่อเพลง "
Meaningless" VIDEO
ความรักก็เป็นเช่นนี้
พอคุณคิดว่ามันจะเป็นรักครั้งสุดท้ายตลอดไป
มันก็จะจบลงโดยทันที
คุณคิดว่าคุณไม่อยากรู้
แต่อย่าได้กังวลไปเลย
หลักการทำงานของความทรงจำคนเราน่ะ
ค่อนข้างจะสะดวกทีเดียว
มันจะลบทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
ช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกินหรือโหดร้ายเกินไป
"ในครั้งนี้มันจะเป็นเรื่องจริง"
"ฉันรักคุณ"
หากคุณเปิดมันด้วยความยากลำบาก
มันจะปิดลงอีกครั้ง
มันช่างมอบให้และรับจากกันได้โดยง่าย
แต่ยากเหลือเกินที่จะรักษา
แต่อย่าได้กังวลไปเลย
มนุษย์เราน่ะ
กล้าหาญกว่าที่คุณคิด
พวกเขาจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย
ช่างน่าทึ่งเหลือเกินหรือโง่เง่าเกินไป
"ใน ครั้งนี้มันจะเป็นเรื่องจริง "
"ฉันรักคุณ"
ในท้ายที่สุดพวกเราทั้งหมดล้วนอ่อนแอ
ผู้ที่ต้องดิ้นรนอย่างไม่จบไม่สิ้นเพื่อไม่ให้โดดเดี่ยว
ในท้ายที่สุดพวกเราทั้งหมดล้วนขี้ขลาด
ผู้ที่ต้องหลอกลวงกันและกันไม่จบไม่สิ้นเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งไว้ลำพัง
ตอนแรกกะจะแปลนิดเดียว แต่พอได้เขียนบรรทัดสองบรรทัดแล้วยาวเลย ตัดออกไม่ได้
สำคัญทุกท่อน ผิดถูกยังไงท้วงติงได้นะคะ
เราขอยกให้เนื้อของเพลงนี้เป็นเดอะเบสออฟเดอะเบส โคตรทัช พูดถึงความโง่งมซ้ำซากเรื่องความรักของมนุษย์ ดูปล่อยวางเข้าใจโลก (โลกด้านมืดไปหน่อย) เหมือนบทกวี คมคาย แถมประชดเก่ง เนื้อเพลงเหมือนจะให้ความหวัง แต่สุดท้ายก็หักมุมเหยียบซ้ำ
Healing Process (2006) Album Artwork by Iwan (아이완) ระหว่างการบันทึกเสียงในช่วงแรกนั้น กี่ครั้งต่อกี่ครั้งทางวงก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่ได้ตามที่ต้องการสักที
คิม จงวาน จึงใช้แอลกอฮอล์เข้าช่วย และเขาก็อัดเสียงอีกครั้งระหว่างที่กำลังเมาเล็กน้อย พบผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ ได้อารมณ์เพลงอย่างที่วงต้องการ (เยี่ยมมาก! ให้มันได้อย่างนี้!) ซึ่ง
คิมจงวาน ได้กลั่นความร้าวราน เจ็บปวด ออกมาเป็นเพลงที่เราได้ฟังอยู่นี้เอง ส่วนของพาร์ทดนตรียิ่งเด่นมากๆ ทั้งเสียงกีตาร์และเครื่องสายประโคมเสริมให้ความฟูมฟายช่วงท้ายของเพลงทำงานสอดรับกับเนื้อร้องได้เป็นอย่างดี ฟังแล้วแตกสลาย ย่อยยับ
Meaningless จึงถือเป็นหนึ่งในเป็น epic song ของ Nell เลยก็ว่าได้ (วงมีเพลงโทนนี้อีกจำนวนหนึ่ง)
Healing Process (2006) Album Artwork by Iwan (아이완)
Meaningless เป็นเพลงที่ลี จองฮุน (มือเบส) ชอบมากที่สุดในอัลบั้ม ถือเป็นเพลงแรร์ไอเทมที่วงไม่ค่อยได้เล่นสดเท่าไร แต่ล่าสุดเล่นในคอนเสิร์ต NELL’S ROOM 2015 ปีนั้นถือเป็นปีที่มีเซตลิสต์แรร์ๆ โหดๆเช่นเพลง 부서진 입가에 머물다, 안녕히 계세요 (Farewell), Afterglow และเพลง Meaningless นี้ (สามเพลงหลังนี้ในคอนเดียว คนฟังไม่กระอักเลือดตายหรอ บ้าบอ)
VIDEO
แต่เราก็ต้องมองในมุมนี้ด้วยว่า อัลบั้มออกมาในช่วงเวลาที่สมาชิกวงมีอายุ 20 กว่าๆ มันเลยมีความกร้าว มีอารมณ์ตามวัย ในขณะเดียวกันอัลบั้มก่อนหน้ารวมถึงอัลบั้มอินดี้ก็จะดีดและดิบกว่านี้ เนื้อเพลงมีความเกรี้ยวกราดแบบเด็กวัยรุ่น ถ้าเศร้าก็ชนิดที่ว่าเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลก และในปัจจุบันก็จะรู้สึกได้เลยว่าเพลงของ Nell จะเพิ่มความ calm แบบผู้ใหญ่ จะเป็นโทนเย็นๆ หม่นๆ เทาๆ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความบาดเลือดซิบๆ
เพลงในอัลบั้มนี้ไม่ได้ทำให้หายเศร้า (ออกจะซ้ำเติม) ไม่ได้ฟังแล้วรู้สึก get better ในทันที แต่มันคือการปลอบประโลมให้เราอยู่กับความเศร้านั้น (สำหรับบางคนก็ไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดี) เพลงมีเนื้อหาเจ็บปวด บางทีเป็นการมองโลกในแง่ร้ายมาก บางทีก็มีเนื้อหาปลงๆแบบเข้าใจชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้คือความสวยงามของดนตรีในแบบของ Nell ทั้งยังคงความ gloomy ชนิดตลบอบอวล ฟังแล้วเคลิ้มจนดิ่ง พอดิ่งแล้วเราจะสงบ (ถ้าไม่สงบก็เป็นบ้า /จบ)
Healing Process (2006) Album Artwork by Iwan (아이완) ส่วนตัวเรายกให้อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มที่ชอบที่สุดของ Nell (ความจริงก็ชอบหมดทุกอัลบั้มนะแหละ) ถ้ามีใครมาถามว่าถ้าจะฟังวงนี้ ต้องเริ่มต้นจากตรงไหน เราก็จะแนะนำอัลบั้มนี้ก่อน (หรือถ้าเอาโทนกลางๆ ก็ Separation Anxiety ก็ได้) ทำใจให้สบายแล้วฟังเรียงเพลงไปเลยตั้งแต่ต้นจนจบ มันทำให้เข้าใจภาพรวม อารมณ์ และเอกลักษณ์ของวงแบบชัดเจน ถึงแม้ว่าผลงานในช่วงหลังๆ ซาวด์ดนตรีจะเปลี่ยนไป (หมายความในแง่บวก) แต่ใจความหลักของความเป็น Nell มันยังอยู่ และเราก็คิดว่าอัลบั้มนี้เป็นตัวแทนที่ชัดเจนที่สุด ถ้าชอบ คือคุณได้ไปต่อ แล้วหากคุณได้ไปต่อ
จากนี้ไป เราจะไต่ระดับความเศร้า ความหม่นหมองไปพร้อมๆกัน
.
ดีใจที่ชอบค่าาา