"ช่วยพูดอะไรสักอย่างได้ไหม ผมเหนื่อยเต็มทนกับความเงียบของคุณ"
"ขอโทษนะที่ทำให้เหนื่อยมาตลอด" เธอเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปนาน "ขอบคุณนะ อุตส่าห์ฝืนมาตั้งนาน ไม่ต้องเหนื่อยแล้วนะต่อไปนี้"
หลังจากวันนั้นผมก็ไม่เจอเธออีก รอยยิ้มของเธอยังติดอยู่ในหัวผม เธอยิ้มให้กับทุกอย่างแต่วันนั้นเธอยิ้มทั้งน้ำตา ผมไม่เข้าใจ ถ้าเศร้าขนาดนั้นแล้วยังจะยิ้มทำไม
น่ารำคาญ
ตลอดเวลาเกือบสองปีที่อยู่ด้วยกันมา ทุกอย่างช่างราบเรียบ อาจเพราะเธอเป็นคนที่สงบ ใจเย็นกับทุกเรื่องและยิ้มให้กับทุกอย่าง แม้แต่ตอนที่ผมใช้อารมณ์กับเธอ เธอก็ยังยิ้มให้ผม
"ไม่เป็นไร ก็คุณอารมณ์ไม่ดีอยู่นี่นา" ผมมักได้ยินคำพูดนี้เสมอหลังจากที่ผมใจเย็นลงและไปขอโทษเธอ
วันที่ 60 ของการไม่มีเธอ วันที่ 730 ที่เรารู้จักกัน ... ชีวิตของผมเงียบสงบและราบเรียบเช่นเดิม
แต่ในความเงียบสงบนั้นเหมือนมีรูกลวงๆ อยู่ข้างในตัวผม ผมตัดสินใจเสิร์ชหาเฟสบุ๊กของเธอ แต่ไม่พบ.. หรือเธอบล็อกผม ลองให้เพื่อนหาชื่อเฟสเธอ ก็ไม่เจอ
เธอคงไม่เล่นโซเชียลแล้ว..
รู้ตัวอีกที ผมก็มายืนอยู่หน้าบ้านเธอ ไฟทุกดวงปิดสนิท ไม่มีร่องรอยว่ามีคนอยู่บ้าน...
ผมตระเวนไปทุกที่ที่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นั่น ไม่เจอ...
เธอหายไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะไปตามหาเธอจากที่ไหน
ร่องรอยของเธอในโลกอินเตอร์เน็คถูกลบหายไปเหมือนเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ผมเดินอย่างไร้จุดหมาย ในหัวโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น ดวงตาของผมเต็มไปด้วยน้ำใส เหมือนกล้องที่หลุดโฟกัส
หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าผม เราต่างก็ยืนนิ่งกันอยู่เช่นนั้น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา
เธอก้าวเข้ามายืนใกล้ผม
"แม่บอกว่าคุณไปยืนหน้าบ้านเรา" เสียงของเธอยังนุ่มนวลและอ่อนโยนเหมือนเคย เหมือนทุกครั้งที่ผมได้ยิน "เป็นอะไรหรือเปล่า"
ผมไม่ตอบ ไม่มีแรงแม้แต่จะตอบ น้ำตาที่เพิ่งไหลออกไป ถูกร่างกายสร้างขึ้นมาอีกครั้งจนล้นและไหลลงมาจากดวงตา
"คิดถึง" ผมตอบเธอด้วยเสียงแผ่วเบา
เธอยิ้มให้ผม ยิ้มดังเช่นทุกครั้งที่เธอยิ้ม
ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากเธอ
ท่ามกลางความจอแจของสังคมเมืองกรุง เธอจับมือผมไม่มีถ้อยคำปลอบโยน ไม่มีเสียงใด แต่ผมกลับรู้สึกอุ่นใจกับความเงียบของเธอมากกว่าทุกครั้ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in