ตั้งแต่ร้องไห้เบ้าตาแหกจาก Past Lives (2023) ข้าพเจ้าก็ปวารณาตนเป็นเอฟซีคุณ Celine Song — โอ้โห ไอ้เราก็สุดแสนจะชอบแท้ ไอ้รักที่ปิ้ม ๆ ว่าจะสมหวังแต่ก็ไม่ รักที่ระอุอวลไปด้วยเทนชั่นและความเว้าวอน อินยอนบาปบุญชะตาฟ้าดินเอยใดอะไรเนี่ย แล้วก็มีความคาดหวังอะไรไม่รู้ตามประสาคนไม่ได้ดูเทรลเลอร์ (เพราะ บอกแล้วว่าศรัทธาผู้กำกับ) ว่าเดี๋ยวก็ได้มีทรง ๆ นั้นในหนังเรื่องนี้แหละน่า แล้วก็โดนตบหน้า (คือตูข้าฯ ควรโดนตบหน้าตั้งแต่ชื่อหนังแล้วแหละ) ว่าบ่จ้ายจ้าาาาา ชะตาฟ้าดินหรือจะสู้กลิ่นเงิน อย่ามาความฝงความฝันกลิ่นโคลนสาบควาย มันนี่มันนี่ and how you รูดบัตร so swiftly ตะหากคือคำตอบของจาย
ซึ่งจากประสบการณ์ความรัก (N<5 และ CI กว้างเท่าโยชน์) ก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ เงินอาจจะซื้อความรักไม่ได้ แต่เงินก็ซื้อความโรแมนติกได้ และไม่ว่าสาวสุขนิยมอย่างข้าพเจ้าจะใฝ่หารักบริสุทธิ์แค่ไหน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความโรแมนติกก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ข้าพเจ้าเห็นว่า “จำเป็น” กับความรัก จริงอยู่ทีเดียว เงินทำให้ใครรักกันไม่ได้ แต่บางที แค่การ “มีเงิน” ก็ทำให้เราไม่ต้องทะเลาะกันต่อหน้าสาธารณชนคนถนนแห่งนิวยอร์กซิตี ไม่ได้ทำให้เราต้องคิดมากตอนเดต
เปโดร ปาสคาลในบทแฮร์รี่ หล่อมาก หล่อสาส หล่อตะโกน หล่อจนอยากเขย่าคอคนข้าง ๆ คนอะไร๊ ขนาดย่อตัวลงเหลือกระจึ๋งนึง (ที่จริง ๆ ก็ไม่กระจึ๋งตามมาตรฐานชายไทย) ก็ยังโคตรรรรรรหล่อ!! แฮร์รี่นี่เป็นตัวละครที่เขียนมาได้แสบจัดมาก พี่กะมองทุกอย่างเป็นดีลธุรกิจเลยสิ จะทั้งความสูงหรือความรักก็ profit-driven เหลือเกิน ซึ่งจริง ๆ ชอบมากเลยแหละ ข้าพเจ้าเองก็คงมองความรักไว้คล้าย ๆ กับพี่แก คือเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง ทั้งด้วยแรงเงิน แรงกาย แรงใจ ชอบเหลือเกินที่มองความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ต้องทำงานให้ ฮ่าฮ่าฮ่า เสียดายตรงอยู่ ๆ มาบอกว่า incapable of love like noooooo why มันดู deus ex machina ซะเหลือเกิน จนสงสัยว่าอีคนก่อน ๆ ที่พี่แกจีบนี่มันยังไง อีก็เป็นลงทุนเหมือนกันเรอะ แล้วอีก็พากันเจ๊งระเบิดดีลแตกเหมือนกันเรอะ อะไรฟะ งง บทจะหาย (pun-intended) ก็หายเสียดื้อ ๆ เลยเทียวน้อ
ความสัมพันธ์อาจจะลงทุนมากกว่านั้นด้วย อย่างที่เรื่องนี้บอก เพราะสำหรับผู้หญิง บางทีมันอาจจะเป็นชีวิต ว้าว ตาดีได้แต่งงาน (แล้วก็ไปลุ้นอีกทีว่าอยู่ดี ๆ มันจะเกิดประสาทไล่ตีลูกเมียไหม) ตาร้ายก็โดนทารุณตั้งกะตอนแรกเดตกันนั่นแล ไม่มีอะไรจะพูด เวิ่นไว้เฉย ๆ ว่า ‘ทับใจ
นึกออกแล้ว ส่วนที่ข้าพเจ้าชอบที่สุดก็คือ: สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่าคุณค่า และนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราลงทุนในความสัมพันธ์
แต่คุณค่านั้นวัดด้วยอะไร? ด้วยผลกำไรที่คุณกอบโกย ด้วยแรงใจหรือไฟฝันที่แผดเผาตัวคุณและคนรอบข้าง ต้องมากมายสักเพียงไหน ต้องประสบความสำเร็จสักเพียงไหนกัน หรือด้วยความพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกแม้ 1 วันก็มากพอ
ด้วยความรักที่รู้สึก ด้วยการกระทำที่ใส่ใจ ด้วยส่วนสูง ด้วยความริษยาจากพี่น้อง ด้วยสายตาของครอบครัวและสังคม ด้วยคุณค่าของความเป็นหญิง ด้วยลูก ๆ ในอนาคต ด้วยชีวิตยามแก่เฒ่า
ด้วยช่อกุหลาบ ด้วยแหวนดอกเดซี
หรือจริง ๆ มนุษย์ไม่ได้วัดกันด้วยอะไรเลย
ข้าพเจ้านึกถึงบทสนทนาในทวิตแลนด์แดนสนธยาของนักปรัชญายามเย็น และนักสังคมวิทยา self-taught ว่าสุดท้ายแล้วมนุษย์เราจำเป็นต้องรวยก่อนถึงจะตกหลุมรัก ว่าความรักเป็นสิ่งที่ต้อง earn ผ่านสถานะทางเศรษฐกินและสังคมของคนชนชั้นกลางตอนบนที่ได้เรียนเปียโนวันเสาร์อาทิตย์ และมีพ่อแม่ที่ไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก หรือว่าความรักเป็นสิ่งที่แม้แต่คนจน ๆ ที่เติบโตมาแบบหัก ๆ พัง ๆ ในครอบครัวที่จวนจะหย่าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันก็มีได้ ข้าพเจ้าไม่รู้คำตอบหรอก ในเมื่อโลกนี้ก็เป่าหูอยู่ตลอดว่าข้อผิดพลาดจะถูกทำซ้ำร่ำไป เด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่สร้างบาดแผลก็ย่อมสร้างบาดแผลให้ลูกตัวเองต่อ หรืออะไรเทือก ๆ นั้น แต่สุดท้ายมนุษย์เรานั้นวัดกันด้วยคุณค่าที่อะไรหรือ แล้วมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกเลยหรือ มนุษย์คู่แรกที่ตกหลุมรัก รักกันด้วยผลประโยชน์อันใดกันนะ
ความรักมีที่ยืน ณ ตำแหน่งแห่งใดกันหนอ ใน late stage capitalism อย่างนี้
ถึงอย่างนั้นข้าพเจ้าก็ตอบตัวเองได้อยู่ 1 อย่าง คือมนุษย์นั้นสมควรได้รักและได้รับความรักเสมอไป ไม่ว่าคุณจะล้มเหลวในระบบทุนนิยมหรือใช้ชีวิตได้ห่วยแตกแค่ไหน คุณก็ยังมีค่า — ข้าพเจ้าอยากจะบอกกับคุณแบบนั้น อย่างที่ทุกคนพยายามบอกลูซี และไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ขอให้คุณเชื่ออย่างที่เจ้าหล่อนพูด ว่าคุณจะได้พบกับรักแห่งชีิวิตของคุณ
คุณไม่ต้องเชื่อก็ได้ แต่ฉันเชื่อ
กรุงเทพฯ, กันยายน 2568
ปล. ร้องไห้เป็นผีบ้าอยู่ดี ไม่รู้ร้องอะไรแต่ร้องหนักมาก กระแทกใจปั้ก ๆๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in