เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
- Let's Review -Nicky Diewwanit
The Irishman | ไม่มีมิตรเเท้เเละศัตรูถาวร
  • The Irishman เป็นภาพยนตร์แนวชีวประวัติ-อาชญากรรม-ดราม่าที่ Netflix เพิ่งจะคว้าสิทธิ์ในการสร้างและฉายไปเมื่อเร็วๆนี้ด้วยเม็ดเงินสูงถึง 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ!

    เเละภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นผู้กำกับท่านใดไปไม่ได้นอกเสียจาก "มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese)" ใช่ค่ะทุกคน ลุงมาร์ตี้คนนี้เเหละค่ะที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งใครที่อายุต่ำกว่า 30 ลงมาที่อ่านรีวิวนี้อยู่ต้องร้องอ๋อ เพราะลุงเขากำกับหนังสายมาร์เวลใช่ไหมหล่ะคะ 

    ช้าก่อนค่ะทุกคน!! ลุงมาร์ตี้เป็นผู้กำกับหนังสายมาเฟียจัดหนักมาก่อนนะ เช่น The King of Comedy (1982) หนังดราม่าประวัติบุคคลสำคัญทั้ง นักมวย (Raging Bull, 1980) ดาไลลามะ (Kundun, 1997) มหาเศรษฐี (The Aviator, 2004) พ่อมดตลาดหุ้น (The Wolf of Wallstreet,2013) โดยหนังของลุงมาร์ตี้จะเด่นเรื่องความรุนแรงเป็นหลัก และหนังแนวหนึ่งที่ลุงมาร์ตี้ทำเป็นประจำได้แก่หนังมาร์เฟีย ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็น  Goodfellas (1990) #ไปหาดูกันเอาเองนะ เเฮร่!!! 

    เส้นเรื่องจะย้อนไปไกลราวๆยุค 70-80 ยุคที่ตอนนั้นผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย (ขออนุญาตใช้ประโยคนี้ เพราะไม่สามารถจะนิยามได้ด้วยประโยคเเบบอื่นๆได้อีกค่ะ) 

    เเละโดยเล่าเรื่องแนวกึ่งชีวประวัติของ แฟรงก์ ‘เดอะ ไอริชแมน’ ชีแรน (โรเบิร์ต เดอ นีโร) อดีตทหารผ่านศึกที่พอจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ฉากหน้าเขาเป็นคนรับจ้างขับรถบรรทุก แต่มีรายได้เสริมจากการเป็นมือปืนรับจ้างฝีมือดีที่ทำงานให้กับบุคคล และองค์กรที่อันตรายที่สุดในเงามืดของอเมริกา 

     

    จนกระทั่งมีงานครั้งใหญ่ที่ทำให้เขาต้องปฏิบัติภารกิจที่กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของอเมริกา ที่มี รัสเซล บัฟฟาลีโน (โจ เปสซี) หัวหน้าแก๊งบัฟฟาลีโนผู้ทรงอิทธิพลในยุค 70-80 และ จิมมี่ ฮอฟฟา (อัล ปาชิโน) ผู้นำสหภาพแรงงานและเพื่อนรักของแฟรงก์ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ  


    ซึ่งตัวภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาวถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง ที่เรียกว่าเป็น Netflix Original Movie ที่ยาวที่สุดเเล้วละค่ะ (ยาวจนทางเราต้องเเบ่งครึ่งดูกันเลยค่ะ =0=) ในเเง่ความเห็นเรา ถ้าไม่ชอบดูอะไรยาวๆนี่พูดเลยว่าข้ามเรื่องนี้ไปค่ะ เเต่เรื่องนี้ยังมีความดีตรงที่การเล่าเรื่องไม่น่าเบื่อเท่าไหร่ เราพอรับได้นะ เเละเอาตรงๆ เรื่องนี้ออกไปทางวินเทจจัด สำเนียงภาษาเป็นเเบบอเมริกันสไตล์ไอริช ตัวละครพูดไม่ช้า ไม่เร็วเกินไป (สายอ่านซับจะถูกใจสิ่งนี้ เพราะพวกคุณจะอ่านซับเรื่องนี้ทันค่ะ) 


    เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องเเรกจาก Netflix ที่ได้ฉายเเบบจำกัดโรงในสหรัฐแถมกวาดรายได้ไปไม่น้อยทีเดียว ถามเรานะ ดูได้ไหม ดูได้เรื่อยๆไม่น่าเบื่อ มีจังหวะชวนง่วงบ้าง เเต่ไม่มากค่ะ 


    Rating : C+ 

    Now on Netflix 

    #RookieWriter 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in