เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
LOOK A BREATHE (Series 3)nimon
#627 เรายังยิ้มได้ ดอกไม้ยังแย้มบาน


  •       เรากว่าจะหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านก็ใช้เวลานานอยู่พอสมควร และเมื่อได้อ่าน เราถึงกลับรู้สึกว่า นักเขียนเขียนออกมาได้ดีมากกับสิบเอ็ดเรื่องสั้นที่ทำให้เราทุกคนอยู่ได้ เพราะมีกำลังใจ หลายครั้งที่เราคิดว่า ‘เรากำลังทุกข์กว่าคนอื่น แต่ความเป็นจริงแล้ว คนหลายคนกำลังทุกข์กว่าเราอยู่ก็เป็นไปได้’ ดังนั้น วันนี้เราตั้งใจจะมาเล่าเรื่องทั้งหมด ๑๑ เรื่องให้ทุกคนอ่านกัน


    “สิบเอ็ดเรื่องแห่งความจริงนี้

    คือสิ่งที่ใครๆเผชิญได้

    ไม่มีใครหนีพ้นความเป็นไป

    ที่เป็นได้ในละครชีวิตจริง”


    ไอศครีมถ้วยเดียว


          ผมกับภรรยาทะเลาะกันอยู่หลายครั้ง และทุกครั้ง ผมต้องไปง้อภรรยาเสมอ แต่ครั้งนี้ ผมคิดยังไง ผมจะไม่ไปง้ออีกแล้ว เพราะผมคิดว่า ผมไม่ผิด วันหนึ่ง ผมเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนร่วมงานของผมฟัง เพื่อนร่วมงานบอกให้ผมไปง้อภรรยา แต่ผมยังถือทิฏฐิอยู่ ผมจึงไม่ไป ขณะผมกับเพื่อนกำลังคุยกันอยู่ที่คาเฟ่อยู่นั้น ผมเห็นคนแก่คู่หนึ่งเดินเข้ามาสั่งไอศครีมแค่ถ้วยเดียว และทั้งสองทานด้วยกัน ทำให้ผมรู้ว่า “รักคือการเอาใจใส่ และการเข้าใจกัน” ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจไปง้อภรรยาทันที


    “ไอศครีมเพียงถ้วยเดียวนั้นเปลี่ยนใจ

    เปลี่ยนให้ไปง้อภรรยานั้น

    เพราะภรรยาคือคู่ชีวิตพลัน

    และทุกวันอยากอยู่ตลอดไป”


    หลังเที่ยงคืน


          ฉันอาศัยอยู่กับแม่ และฉันได้เสียแม่ไป ตั้งแต่นั้น ฉันพูดคนเดียวกับแม่ เเละทำราวกับว่า “แม่ยังมีชีวิตอยู่” วันหนึ่ง เพื่อนบ้านใหม่ย้ายเข้ามา และเขาซักเสื้อผ้าหลังเที่ยงคืนประจำ ทำให้ฉันรู้สึกโกรธ เพราะนอนไม่หลับ และวันหนึ่ง เพื่อนบ้านคนนั้นก็มาบอกความจริงว่า “เธอดูแลแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง และเธอทำงานเลิกดึก เธอจึงต้องซักผ้าหลังเที่ยงคืน” เมื่อฉันฟังเสร็จ ฉันเลิกคุยคนเดียวและเลิกรำคาญเสียงเครื่องซักผ้าอีกเลย


    “ทุกคนมีความทุกข์ที่ต่างกัน

    ต่างทุกข์มากนั้นหรือทุกข์น้อยไฉน

    ต่างมีการเรียนรู้ทุกข์แตกต่างไป

    และต่างใจต่างทุกข์เพราะไม่รู้เอย”


    ขาของยาย


          น้อยอยู่กับคุณยาย เพราะพ่อแม่ทิ้งไป และคุณปู่ติดเหล้า คุณยายบ่นปวดขาอยู่หลายครั้ง แต่คุณยายไม่มีเงินไปรักษาขา วันหนึ่ง น้อยตัดสินใจเอาเงินเก็บของตัวเองจากสหกรณ์มาให้ยายไปใช้รักษาขาที่เจ็บที่กรุงเทพมหานคร


    “ปวดขานั้นไม่เท่ากับยินดี

    ที่เห็นหลานนี่เป็นคนดี

    หลานตั้งใจเก็บเงินเท่าที่มี

    เพื่อรักษาที่ขาของยายเอย”


    ประเทศป่วยไข้


          ในตอนนั้นเอง ตอนที่โควิดระบาด และหลายคนได้ตัดสินใจซื้อหน้ากากอนามัยกักตุนเอาไว้มาก จนราคาหน้ากากอนามัยที่ราคาไม่เเพงก็กลับกลายเป็นแพงแสนแพง เพราะหลายคนนั้นเห็นแก่ตัว แทนที่จะเเจกจ่ายเหมือนกับผู้หญิงในเรื่องนี้


    “การแบ่งปันหน้ากากเพียงสิ่งนี้

    นั้นล่ะดีทำให้คนรอบข้างนั้น

    หายเจ็บปวดไม่เป็นโรคอย่างเร็ววัน

    ทุกคนนั้นร่างกายแข็งแรงดี”


    ปั่นแปะ


          ผมได้เล่นพนันกับเพื่อนคนหนึ่งที่มีปัญหาด้านสมอง และเขาก็พนันกับผมว่า “จะช่วยไถนาตลอดไป” ถ้าผมชนะการพนันในครั้งนี้ โดยที่ผมชนะเขาหลายรอบ และเขาช่วยผมไถนาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ ผมกลับไม่อยากชนะเขาจริงๆ เพราะผมกลัวว่า “เขาจะต้องมาช่วยผมไถนาตลอดไป”


    “ผีพนันหากแม้นได้สิงใคร

    นั้นเปลี่ยนใจคนให้มัวหมอง

    เปลี่ยนความจริงไม่เป็นตามครรลอง

    เปลี่ยนใจสองให้หมดซึ่งทุกสิ่ง”


    ขอทานบาทเดียว


          ผมเกลียดขอทานมาก แต่วันหนึ่ง ผมกับภรรยาเจอขอทานคนหนึ่งที่ขอเงินเพียงแค่บาทเดียว ถ้าคนให้มากกว่านี้ ก็ไม่ยอมรับ และวันหนึ่ง ขอทานคนนั้นมาขอเงินคนเพิ่งรวย และคนนั้นที่ชอบดูถูกคนนำเงินหนึ่งพันบาทให้ ซึ่งขอทานคนนั้นรับ และนำเงินทอน ๙๙๙ บาทมาให้


    “อย่าดูถูกเงินเพียงบาทนี้

    เป็นเงินที่ดีกว่าที่ใครคิด

    เพราะนั้นดีต่อกับชีวิต

    สุดจะคิดได้มากกว่าแค่บาทเดียว”


    คนพิการบนรถไฟสายชานเมือง


         คนพิการเดินเข้ามาในรถไฟสายชานเมือง และเด็กนักศึกษาชายไม่ยอมลุกให้ แถมยังเถียงว่า “นี่เป็นสิทธิ์ของผม ทำไมผมต้องลุก” แล้วผมก็ทนไม่ไหว ผมจึงต่อว่าเด็ก รวมถึงคนอื่นก็ต่อว่าด้วยสายตา จนเด็กนักศึกษาคนนั้นยอมลุกให้คนพิการนั่ง และนักศึกษาคนนั้นตัดสินใจเหยียบไปยังขาเทียมของผม


    “หากแม้นเป็นคนพิการใจ

    ชีวิตได้เปลี่ยนแปลงไปไฉน

    และคนที่พิการเพียงแค่กาย

    เรียนรู้ได้ว่าไม่พิการใจ”


    สถานีสูญวัฒนธรรม


    “สถานีต่อไป คือ สถานีสูญวัฒนธรรม”


          ผมเดินทางขึ้นรถไฟและผมพบลูกชายตัวเองที่กำลังจูบอยู่กับผู้หญิง แถมลูกชายยังไม่แคร์สายตาใครในรถไฟอีก จนกระทั่งวันนั้น คุณยายได้ต่อว่าลูกชายและแฟนลูกชาย แต่ทั้งสองยังไม่สน และสุดท้าย ทั้งสองค่อยเลิกทำ และวันนั้นเอง ฝรั่งกลุ่มหนึ่งเข้ามาที่รถไฟ และฝรั่งวัยรุ่นคู่หนึ่งจูบกันอยู่ และฝรั่งที่เป็นผู้ใหญ่ต่อว่า “อยู่ไทยทำแบบนี้ไม่ได้” ฝรั่งวัยรุ่นเลิกทำ และลูกชายกับแฟนสาวก็รู้สึกหน้าชา ดังนั้น เมื่อผมกลับบ้าน ผมเรียกให้ภรรยาสอนลูกชายบ้าง 


    “วัฒนธรรมที่ดีของไทย

    เปลี่ยนแปลงไปจนหมดสิ้น

    ไม่มีอะไรเหลือไว้และสุดดิ้น

    เพราะหมดสิ้นซึ่งทุกอย่าง”


    ในอีกสิบปีต่อมา


          ผมได้ไปคบเพื่อนเกเร และพวกผมชอบไปตีคนเป็นประจำ วันหนึ่ง เพื่อนสนิทของผมมีแฟนสาวสวย และแฟนมาฟ้องว่า ผู้ชายคนหนึ่งชอบเธอ ดังนั้น เพื่อนผมจึงพาพวกไปตี และวันหนึ่ง ขณะที่พวกกลุ่มผมเมาเหล้าจนประสบอุบัติเหตุ และครั้งนั้น เพื่อนสนิทผทตาย ส่วนผมพิการ และผู้ชายคนนั้นชีวิตดีขึ้น


    “อีกสิบปีต่อมาถึงคิดได้

    ชีวิตเปลี่ยนไปเพราะใคร

    หากไม่ใช่เพราะตัวการใด

    นั้นคือใครคือตัวเราเอง”


    โมงยามแห่งความนิ่งงัน


          ความจริงที่ผมต้องตัดสินใจอยู่เคียงข้างลูกสาวและปลอบลูกสาวตลอด เพราะวันนั้นนั้นเอง วันที่โจรเข้ามาที่บ้าน และทำให้ลูกสาวของผมเสียขวัญ ตั้งแต่นั้น ผมมั่นใจว่า “ผมจะอยู่เคียงข้างลูกสาวผมตลอดไป”


    “ชีวิตของผมเปลี่ยนไป

    เมื่อภรรยาได้เปลี่ยนไป

    เหลือแค่ผมกับลูกสาวไฉน

    ชีวิตให้พ่อเลี้ยงเดี่ยวตลอดไป”


    แมวไม่รู้ที่มา


          วันหนึ่งผมเผลอไล่เจ้าแมวจรตัวที่เข้ามาอยู่ที่บ้านของผมโดยบังเอิญ จนแมวตัวนั้นได้หายไป แล้วมันก็ไม่กลับมาอีกเลย โดยตอนแรกที่มันมาอยู่ มันก็ไล่เจ้าหนูออกไปจากบ้านได้หมด แต่เมื่อมันจากไป ปัญหาหนูก็กลับมาแบบเดิม


    “แมวจ้าแมวหนูหายไปไหน

    หนูบอกได้ไม่ว่าหนูหายไปไหน

    พวกเราทุกคนรอสักวันที่ได้

    แมวจากไปและกลับมาอีกครั้งหนึ่ง”


          เรื่องสั้นทั้งหมดสิบเอ็ดเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นที่ชวนจริงมากค่ะ เพราะเรื่องสั้นทั้งหมดเป็นเรื่องสั้นที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทยสมัยนี้ ไม่ว่า คนไทยไม่แบ่งปันที่นั่ง คนไทยชอบจูบกันในที่สาธารณะ เป็นต้น 

          เราขอพูดจากใจนะ เราไปเรียนอังกฤษมา เราพบว่า “ทำไม อังกฤษถึงเจริญกว่าเรา” เพราะ “คนอังกฤษรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของตนเองให้ชนรุ่นหลัง”ค่ะ เราบอกได้เลยว่า เราอยู่อังกฤษมานาน เราเห็นแต่คนเอเชียจูบกันในที่สาธารณะ 

          และคนอังกฤษมีวินัยในตัวเอง ไม่ว่า ตรงต่อเวลา พูดคุยเป็นมิตร แบ่งปันที่นั่ง ช่วยเราถือของ เป็นต้น และเรานำเรื่องดีๆของเขามากมายที่เราเรียนรู้จากที่นั้นมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราในทุกๆวัน 

         เพราะเราคิดเสมอว่า “เรื่องไม่ดีของเขา เราก็ควรทิ้งก่อนกลับไทย ส่วนถ้าเรากลับมาไทยแล้ว เรานำเรื่องดีกลับมาปรับใช้ นั้นล่ะเรียกว่าเจริญ ไม่ใช่เสื่อม”


    “หากใจของคนเราเจริญแล้ว

    คนๆนั้นก็นำพาความเจริญเข้าสู่ตัว

    แต่หากใจของคนนั้นเสื่อมแล้ว

    คนๆนั้นก็มักเลือกแต่ของเน่าเข้าสู่ตัวตลอด”


          เราขอบอกกับเพื่อนๆทุกคนว่า “หนังสือเล่มนี้ดีกว่าที่คิดมากค่ะ เพราะนักเขียนรังสรรค์หนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเพื่อเตือนใจ และเพื่อเพิ่มกำลังใจด้านบวกให้กับคนอ่านทุกท่านค่ะ” ดังนั้น เราตั้งใจที่จะทำย่อเรื่องราวทั้งหมดมาให้เพื่อนๆอ่านค่ะ และวันนี้ เราขอจบรีวิวเล่มนี้เพียงเท่านี้ค่ะ




    LOOK A BREATHE

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in