เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หนูหนีการบ้านมาเจอฝึกงานNuttha Chayapalkun
EP.0 เริ่มต้นออกเดินทางกันเถอะ
  •        กรี๊ดดดดดดดดดด ในที่สุดก็ปิดเทอมแล้ว แต่ว่ายังไม่จบแค่นั้น เพราะสถานีต่อไป คือ การฝึกงานนั่นเอง มาแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อ พลอย เป็นนักศึกษาปีที่ 3 ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของเรา ทว่าเรายังไม่ได้พักง่ายๆ ค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน เราต้องไปฝึกงานเป็นเวลาสองเดือนเศษๆ และใช่ค่ะ เราหนีการบ้านมาเจอฝึกงาน (หนีเสือปะจระเข้ชัดๆ เลย) ซึ่งสถานที่ที่ฐาเลือกฝึกงาน คือ โรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทองนั่นเอง แต่กว่าจะหาที่ฝึกงานได้เล่นเอาเราหัวหมุนเลยค่ะ เพราะว่าเรามัวแต่เอื่อยเฉื่อยเองแหละ ทั้งติดต่อโรงเรียน ทั้งยื่นเอกสาร ทั้งรอเอกสาร ทั้งยังเป็นช่วงที่ต้องปั่นงานส่งครูก่อนปิดเทอมอีก ทำเรากับเพื่อนๆ อดหลับอดนอน สภาพเหมือนกับผีดิบกันเลยทีเดียว สุดท้ายเราก็รอดมาด้วยดี (ดีที่ไม่ตาย) ค่ะ ในตอนนี้ฐาจะขอพูดถึงขั้นตอนการหาสถานที่ฝึกงานนะคะ 


           เริ่มแรกเลยเราหาโรงเรียนเด็กอนุบาลแถวบ้านก่อนค่ะ โดยค้นหาจากกูเกิ้ลนี่แหละ แต่ว่าที่เจอแถวบ้านจะเป็นเนอสเซอรี่ซะส่วนใหญ่ เราปัดตกค่ะ เพราะว่ามีเด็กเล็กด้วย ความหลังกับการดูแลเด็กเล็กของเราไม่ค่อยน่าภูมิใจสักเท่าไหร่เพราะหลานสาวคนโต จำได้ว่าตอนนั้นหลานยังเป็นทารกอยู่คอยังไม่แข็งเลย แล้วเราอยากอาบน้ำให้หลาน ตื่นเต้นสุดๆ แต่ว่าตอนที่ถูสบู่เราเผลอทำหลานหลุดมือลงอ่างน้ำค่ะ หลานสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดงเลย หลังจากนั้นมาเราเลยไม่อุ้มเด็กที่คอยังไม่แข็งค่ะ จำไปจนตายเลย พอหาแถวบ้านไม่ได้เราเลยขยายการค้นหา จากบางจากไปอ่อนนุช พระโขนง จนมาได้ที่เอกมัยมีโรงเรียนที่เราสนใจอยู่ 2 แห่ง ตอนแรกติดต่ออีกที่หนึ่งไปก่อน แต่ว่าไร้วี่แววการตอบกลับ เราเลยเบี่ยงเข็มมาที่โรงเรียนอนุบาลวัดธาตุทองค่ะ เราหาช่องทางการติดต่อในอินเทอร์เน็ตและโทรไปหาทางโรงเรียนเลยค่ะ ก่อนที่จะโทรไปเราลองไปหารายละเอียดเกี่ยวกับโรงเรียนมา และพบว่าโรงเรียนนี้ให้ความสำคัญกับอาหารการกินของเด็กนักเรียนอย่างมาก ได้เข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้อำนวยการหลังจากที่มีข่าวภาพของเด็กนักเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งต้องรับประทานขนมจีนคลุกน้ำปลาเป็นอาหารกลางวัน ฐาคิดว่าทุกคนน่าจะคุ้นๆ กับข่าวนี้นะคะ นั่นแหละค่ะหลังจากที่อ่านบทความของโรงเรียนนี้แล้วเลยรู้สึกประทับใจค่ะ (ส่วนตัวเราคิดว่าอาหารการกินเป็นสิ่งสำคัญอีกด้วย) พอโทรไปแล้วคนที่รับสายและคุยกับเราดันเป็นผู้อำนวยการเลยค่ะ เราเริ่มกังวลเพราะว่าท่านเสียงดังมาก คิดในใจว่าท่านต้องเป็นคนที่ดุแน่ๆ พอคุยรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ท่านก็นัดวันให้เราเข้าไปคุยและพบท่านที่โรงเรียน วันที่เข้าไปพบผู้อำนวยการ จำได้ว่ามือเย็บเฉียบเลย กังวลมากว่าจะพูดไม่รู้เรื่อง ตอนเจอท่านครั้งแรกเราขุดมารยาททุกอย่างที่มีในตัวออกมาเลย ลนลานมาก เตะขาโต๊ะประชุมไปหนึ่งที แถมยังเถียงกับตัวเองในหัวด้วยว่าเวลาไหว้ผู้ใหญ่ต้องเอานิ้วหัวแม่มือไว้ที่ปลายจมูกใช่ไหมนะ ก่อนที่จะต้องพูดคุยจริงๆ เราก็รวบรวมสติ หายใจเข้าหายใจออกแป๊บหนึ่ง และค่อยๆ แนะนำตัวและอธิบายแผนงานของตัวเองไปจนได้ค่ะ เราคิดว่าเรามั่นใจในทักษะการพูดของตัวเองในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีมากก็ตามหลังจากที่ได้ชมโรงเรียน สิ่งที่ประทับใจเราที่สุดในโรงเรียน คือ สนามเด็กเล่นค่ะ เป็นสนามเด็กเล่นที่สะดุดตาและสร้างสรรค์มาก (ไว้เราจะถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ) ที่โรงเรียนจะสอนว่ายน้ำให้กับนักเรียนด้วย และคุณครูนัดให้เรามาพูดคุยเรื่องแผนการฝึกงานอีกครั้งหนึ่ง


           ในครั้งที่สอง เราทำแผนการฝึกงานไปเพื่อพูดคุยกับหัวหน้าระดับแต่ละชั้น ว่าจะจัดรูปแบบการฝึกยังไง สุดท้ายได้ข้อสรุปว่าเราจะฝึกงานโดยเริ่มที่เด็กอนุบาลสามก่อนแล้วไล่ไปอนุบาลสองและหนึ่งตามลำดับ เพราะคุณครูหัวหน้าระดับอนุบาลหนึ่งบอกว่าช่วงแรกเด็กอนุบาลหนึ่งจะงอแงมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องห่างผู้ปกครอง เด็กยังไม่ชินกับโรงเรียน เลยตกลงว่าจะไล่จากอนุบาลสามและอนุบาลสองก่อน รูปแบบการฝึกงานของเรา คือ จะไล่ไปห้องละหนึ่งวัน เช่น วันแรกอยู่ห้อง อ.3/1 วันถัดมาก็ไล่ไป อ.3/2 ตามลำดับเลยค่ะ จริงๆ ในตอนที่ไปพูดคุยรอบที่สองมีเรื่องน่าอายอยู่หนึ่งเรื่องค่ะ ตอนที่เราพูดคุยกับผู้อำนวยการครั้งแรก ท่านบอกเราว่าทั้งระดับชั้นมีทั้งหมด 12 ห้อง เราเลยเข้าใจว่าอนุบาลแต่ละชั้นมี 12 ห้อง แต่จริงๆ แล้วตั้งแต่อนุบาล 1 - อนุบาล 3 ทั้งหมดรวมกันมี 12 ห้อง ง่ายๆ เลยคือชั้นละ 4 ห้องนั่นเอง (งงมาก ทบทวนกับตัวเองว่าตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ถึงได้เข้าใจแบบนั้น555555555555555) เมื่อพูดคุยทั้งสองครั้งเสร็จ วันที่เราฝึกงานวันแรก คือ วันจันทร์ ที่ 22 พฤษภาคม 2566 ค่ะ โดยเราจะฝึกงานตั้งแต่ 22 พฤษภาคม – 4 สิงหาคม 2566 ค่ะ ประมาณห้าสิบวัน เนื่องจากว่าเราต้องเก็บชั่วโมงให้ครบ 400 ชั่วโมงด้วย


         ไดอารี่ของเราจะเป็นไดอารี่ที่บันทึกเรื่องราวในช่วงที่ฝึกงานและรีวิวการฝึกงานด้วยค่ะ โดยจะอัปเดตทุกสองอาทิตย์ หากทุกคนพร้อมอ่านเรื่องราวของนักศึกษาฝึกงานตาดำๆ แล้วไปอ่านกันเล๊ย (เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ)

    นี่เป็นรูปภาพสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา สระน้ำ และบ่อทรายค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in