เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#174 อริยสงฆ์ ๑

  • “บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ทางธรรม ย่อมหมายถึง

    เป็นผู้หลุดพ้นจากทุกข์ (นิพพาน) ทั้งปวง”


    หนังสือการ์ตูนเล่มนี้เป็นหนังสือ

    ที่ทรงคุณค่าอย่างแท้จริง

    เมื่อบุคคลธรรมดาทั่วไป 

    สามารถนำชีวประวัติท่านเหล่านี้

    ไปใช้ปรับในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี


         เรื่องราวในหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ มีประวัติของท่านผู้ยิ่งใหญ่ ๓ ท่าน ได้แก่ พุทธทาส หลวงปู่ทวด และ หลวงปู่มั่น โดยที่ทั้งสามท่านนี้ มีชื่อเสียงทั้งด้านการปฏิบัติธรรมและคนเคารพนับถืออย่างยิ่ง


    -1-

    พุทธทาส


         ก่อนท่านจะถือเกิด พระทุ่มฝันว่า มีช้างมาทำลายตู้พระไตรปิฏก ดังนั้น ท่านตรวจสอบความฝัน และพบว่า คนที่เกิดในช่วงนี้ จะเป็นคนแตกฉานในทางธรรม

         สมัยตอนท่านดำรงความเป็นฆราวาส ท่านมีนามว่า เงื่อม เนื่องจากมารดาของท่านสนใจในพระพุทธศาสนาอย่างมาก ทำให้ท่านมีความสนใจศึกษาธรรมะอย่างเช่นกัน

         พออายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ท่านตัดสินใจบวช และท่านคิดว่าจะบวชไม่สึก ดังนั้น พี่ชายที่สอบได้เข้าหมอที่จุฬา ลาออกมาช่วยงานที่บ้าน ซึ่งท่านรู้สึกสบายใจ 

    หลังจากนั้น ท่านได้มาศึกษาธรรมที่กรุงเทพมหานคร และสอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค 



         และท่านแน่วแน่กลับอำเภอไชยา เพื่อไปเผยแพร่ธรรมะต่อไป ซึ่งธรรมะของท่านเน้นธรรมชาติและเข้าถึงง่าย ใครได้ฟังต้องรู้สึกลึกซึ้งในรสพระธรรม และสามารถปรับใช้กับชีวิตประจำวันของบุคลลทั่วไป รวมถึงพระสงฆ์ได้ด้วยเช่นเดียวกัน


    “เข้าใจผิดว่า ดีกับใคร คนนั้นต้องดีตอบ

    ที่ถูกคือ เรามีหน้าที่ดี ใครจะดีกับเรา ไม่ดีกับเรา 

    ไม่ใช่เรื่องของเรา”

    พุทธทาส


         ในระหว่างนั้น ท่านพบพื้นที่ร้างและท่านคิดว่าเหมาะจะทำสวนโมกข์ และท่านซื้อที่ดินจากชาวบ้านทำวัดธารน้ำไหลอีกแห่งหนึ่ง เมื่อท่านได้ปฏิบัติธรรมจนพบความหลุดพ้นแห่งจิต ท่านเขียนหนังสือ ตามรอยพระอรหันต์ และบอกกับคนไทยทุกคนว่า สามาถบรรลุพระอรหันต์ในชาตินี้ โดยไม่ต้องรอถึงชาติหน้า เพราะมีการเข้าใจผิดในหมู่คนไทย

         ท่านได้ตั้งใจทำงานจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต และท่านได้ละสังขารท่านในวัย ๘๗ ปี นับว่า ท่านมีคุณากรและคุณาประโยชน์ เหมาะสมเป็นบุคคลที่สมควรเคารพยิ่งในสังคมไทยและสังคมโลก


    “เข้าใจผิดว่า ทำดีต้องได้ดี ทำบุญต้องได้บุญ

    ที่ถูกคือ ทำดีไม่ได้อะไรเลย ได้แค่ละกิเลส

    ทำบุญ ได้แค่ความสบายใจ”

    พุทธทาส


    -2-

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


         เดิมท่านชื่อมั่น แก่นแก้ว เกิดที่จังหวัดอุบลราชธานี ยายของท่านอยากให้ท่านบวชให้ เพราะว่า เนื่องจากสมัยเด็กเลี้ยงดูท่านยาก ดังนั้น เมื่อถึงยามที่ท่านได้ออกบวช เลยตัดสินใจบวชไม่สึก

         ท่านได้บวชกับพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล และท่านได้ออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร จนได้ไปพบกับพระที่ชื่อเดียวกัน และทั้งสองท่านได้ออกธุดงค์พร้อมกัน 

         จนกระทั่งถึงวันที่ต้องแยกกัน โดยพระรูปนั้นต้องไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร

    หลวงปู่มั่นท่านได้ตั้งใจปฏิบัติธรรม จนเห็นนิมิตถึงสุนัขและพบว่า ตัวเองเคยติดในภพชาติสุนัขนี้ยาวนาน และท่านพบว่า ที่ท่านยังไม่รู้เเจ้งเห็นธรรม เพราะเคยถวายสัจจะอธิษฐานจิตเป็นพระพุทธเจ้า เมื่อท่านถอน ท่านสามารถรู้แจ้งได้

         ท่านเห็นนิมิตอีกหลายอย่างจนสามารถพบทางแห่งการบรรลุนิพพานได้ ซึ่งท่านกล่าวกับลูกศิษย์ว่า นิมิตรทั้งหลายเหล่านั้น คือ วิปัสนูปกิเลส อย่าได้ไปหลงยึดติด

         เมื่อท่านบรรลุตามทางหลุดพ้นของพระพุทธเจ้า ท่านได้มีการบอกกล่าวหลวงปู่เสาร์ ว่า ท่านได้ถือสัจจะอธิษฐานเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า พอเมื่อหลวงปู่เสาร์ได้ถอน ท่านก็บรรลุมรรคผลนิพพานเช่นกัน



          สำหรับเราถือว่า ท่านเป็นศิษย์ที่ดีมากและหลวงปู่เสาร์เป็นอาจารย์ที่ดี เพราะทั้งสองท่านเปรียบดั่งกัลยาณมิตรธรรมกันอย่างแท้จริง และไม่เพียงเท่านั้น หลวงปู่มั่นท่านได้สร้างพระอรหันต์อีกมากมายในประเทศไทยอีกด้วย

         หลังจากนั้นท่านเริ่มอาพาธหนัก ท่านประชุมศิษย์และกล่าวกับศิษย์ว่า ท่านจะกลับไปวัดสุทธาวาส เพื่อไม่ให้ประชาชนฆ่าสัตว์มากมายเพื่อท่าน ท่านเมตตาต่อสัตว์เหล่านั้น ไม่อยากให้มาตายเพราะท่าน และเมื่อท่านกลับถึงวัดสุทธาวาส ท่านมรณภาพช่วงอายุขัย ๘๐ ปี


    “ได้ใจแล้ว คือ ได้ธรรม

    เห็นใจแล้ว คือ เห็นธรรม

    รู้ใจแล้ว คือ รู้ธรรมทั้งมวล

    ถึงใจตนแล้ว คือ ถึงพระนิพพาน”

    หลวงปู่มั่น


          ทั้งท่านพุทธทาสและหลวงปู่มั่นถูกยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นบุคคลสำคัญยิ่งระดับโลก และตอนไปศึกษาอยู่ที่อังกฤษนั้น มีหลายมหาวิทยาลัยบรรจุคำสอนของท่านทั้งสองเข้ามหาลัย และหลายคนศึกษาเรียนรู้ธรรมะคำสั่งสอนของท่านอย่างแท้จริง 

    -3-

    หลวงปู่ทวด


         ท่านถือกำเนิดมาในครอบครัวยากจน แต่ตอนท่านยังเด็ก ขณะที่พ่อแม่ท่านทำงาน ได้มีงูมาพันรอบเปลท่านและเมื่องูเลื้อยออกไป ปรากฏว่า มีดวงแก้ว 

         เศรษฐีขี้งกขอซื้อลูกแก้วแลกกับที่ดิน ครั้งแรก พ่อแม่ท่านไม่ให้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอม และเศรษฐีคนนั้น เมื่อได้ลูกแก้วไป ก็พบเจอแต่เรื่องไม่ดี เลยเอามาคืน

         ท่านได้ออกบวช และวันหนึ่งพระอาจารย์ของท่านบอกว่าให้ไปศึกษาที่อยุธยา ในขณะโดยสารเรือ เกิดพายุและขาดแคลนน้ำ ทุกคนลงความเห็นว่า เพราะพระ เลยบอกให้ท่านออกไป และคนที่ชื่อจันอาสาขับเรือมาส่งท่าน ท่านเห็นว่า จันหน้าโรยมากและบอกหิวน้ำ 

         ท่านเลยเหยียบน้ำทะเล แล้วกลายเป็นน้ำจืดทานได้ ดังนั้น นายจันเลยพาท่านมาส่งที่เรือ และทุกคนดื่มน้ำถ้วนหน้า ทุกคนก่อนกล่าวขอโทษด้วยความรู้สึกผิดและส่งท่านพร้อมนายจันถึงอยุธยา



          ท่านปฏิบัติธรรมอยู่ที่สงบ และมีวันหนึ่ง ศรีธนชัยขอให้ท่านไปช่วยพระเจ้าแผ่นดินที่อยุธยา เพราะไขคำไม่สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จ ต้องเสียกรุงให้ลังกา เมื่อท่านมาถึง ท่านก็พบว่า มีการซ่อนคำในมวยผมในพราหมณ์ ๗ คน และท่านพูดถูก ซึ่งทำให้พระเจ้าแผ่นดิน อวยยศให้ แต่ท่านไม่รับ และกลับมาที่บ้านเกิดท่าน

         วันหนึ่งมีเณรนำดอกไม้มณฑาสวรรค์มาตามหาพระโพธิสัตว์และพอมาถึงหลวงปู่ทวด ท่านก็เข้าใจนัยกัน ก่อนท่านจะหายไป และมีพระในปัจจุบันฝันถึงท่าน บอกให้สร้างพระของท่าน แล้วจะสามารถสร้างวัดได้ เพราะใครได้บูชาท่านจะดียิ่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่ประจักษ์แด่ทุกคนที่เคารพท่าน


    “คนเรานั้น ถ้าเป็นคนดี ต้องมีความเมตตาเป็นหลัก

    มีความกรุณาเป็นสรณะ มีความอภัยเป็นจิตใจ

    เพราะอารมณ์แห่งความเมตตาของจิตนั้น ทำให้เราเกิดปิติตลอดเวลา”

    หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด


    5 เหตุผลที่เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้


    1. การเอาชนะความกลัว

         ทุกคนในโลกนี้มีความกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลัวตาย ซึ่งท่านเหล่านี้สามารถเอาชนะความกลัวมาได้ด้วยธรรมของพระพุทธเจ้า 


    “ความตายไม่น่ากลัวเท่าใจที่คิดจะตายไปก่อนแล้ว”



    2. การเอาชนะอุปสรรค

         หากดูชีวประวัติของท่านทั้งสามจะพบว่า ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลายเลย แถมกว่าได้มาซึ่งทางนิพพาน ก็ลำบากยากยิ่งกว่าอะไร เพราะล้วนสู้กับอารมณ์และกิเลสทั้งนั้น

          เราเคยได้ยิน คนบอกว่า ง่ายจะตาย แค่นั่งหลับตา แล้วพอคนๆนั้นมาทำจริง ก็รู้ว่ามันยาก เพราะใจมีแต่คิดตามอารมณ์อย่างเดียว จนสุดท้ายก็เลิกไม่ทำอีก เราถึงมั่นใจว่า การที่ท่านทั้งสามทำสำเร็จ ผ่านอุปสรรคมามากมายแค่ไหน

    “อย่ามัวมองคนอื่นเลย เอาชนะอุปสรรคในใจตัวเอง”


    3. ความกล้าตัดสินใจ

         การที่ท่านทั้งสามมุ่งมั่นในการตัดสินใจออกบวชไม่สึก ซึ่งเป็นการตัดสินใจเพื่อตัวเองอย่างโดยแท้ และเมื่อท่านทำสำเร็จ ท่านได้มาสอนสั่งให้คนหลายคนบรรลุมรรคผลนิพพานด้วยเช่นกัน


    “กล้าตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกย่อมถูก”


    4. ความตั้งมั่น

          หากท่านทั้งสามไม่มีความตั้งมั่นในการดำรงไว้ซึ่งคุณงามความดีและดำเนินรอยตามพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ฉันใด ท่านทั้งสามคงไม่พบกับทางที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้อย่างแท้จริง ฉันนั้น เพราะเมื่อท่านทั้งสามมีความตั้งมั่นถูก ดำเนินรอยตามสัมมาทิฏฐิ ทำให้ท่านทั้งสามบรรลุมรรคผลนิพพานและนำพาคนหลายคนข้ามพ้นทุกข์ทั้งปวง


    “ความตั้งมั่นในการละกิเลส ย่อมนำสู่ทางหลุดพ้นอย่างแท้จริง”


    5. การประกอบคุณงามความดี

         คุณความดี คนดีทำง่าย คนชั่วทำยาก เราคิดว่า คำพูดนี้ มันเป็นความจริง เพราะหลายต่อหลายครั้ง เราเห็นคนดีอยู่หลายคนที่ทำดีจนเป็นเรื่องธรรมดา ดุจดั่งท่านทั้งสามที่ประกอบคุณงามความดีจนชาวโลกยังตระหนักถึงคุณงามความดีเหล่านั้น


    “อย่าทำความชั่วเลยจะดีกว่า 

    ที่แล้วมาก็ทุกข์มากโขอยู่

    เพราะความชั่วจะเป็นเงาตามตัว

    สุดท้ายรู้ไม่ทันก็สายไป”


    เรื่องราวในเล่มนี้เต็มไปด้วยประสบการณ์ของบุคคลธรรมดาทั้งสามท่านที่สามารถนำพาตัวเองหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง

    “ทุกคนสามารถพ้นทุกข์ พบนิพพานได้ทุกท่าน

    ถ้าดำเนินเดินตามรอยของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง” 



    คุณงามความดีที่ทำ

    ปฏิบัติสม่ำเสมอได้ดี

    ทุกข์พาทุกอย่างล่วงชีวี

    ทำใจดีคลายทุกข์กังวลเอย

    ชีวิตเดินตามความจริง

    ทุกๆสิ่งล้วนทำตามธรรมนั้น

    ใจทนกระแสกิเลสพลัน

    ทนได้นั้นก็พ้นทุกข์เอย


    “ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องเล่านี้จนจบค่ะ เรามาเรียนรู้บุคคลสำคัญที่ทำให้เราหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง”

    Look a Breathe

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in