DAY 12 : Disney land
เช้าวันอาทิตย์ที่ฝนตกปรอยๆมาตั้งแต่เมื่อคืน บวกกับอุณหภูมิเลขตัวเดียวในตอนเช้า อาจทำให้ใครหลายคนยังคงซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาๆอุ่นๆสักผืน ซึ่งแตกต่างกับเราที่ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อพาตัวเองเดินย่ำท่ามกลางสายฝนในเมืองโตเกียวไปยังดิสนีย์แลนด์...ดินแดนแห่งความสนุก
ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปที่ดิสนีย์แลนด์ เพราะเนื่องจากไม่ได้เอากล้องไป กลัวเปียกฝนแล้วมันจะพังเอาน่ะ
Day 13 : ก่อนจากกัน
วันนี้เป็นวันก่อนสุดท้ายที่จะกลับไทยกันล่ะ ตอนเช้าพวกเราทุกคนเลยต้องเตรียมตัวทำสไลด์เพื่อนำเสนอทางญี่ปุ่นว่า13วันระหว่างที่เราอยู่ที่นี้ พวกเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ส่วนช่วงบ่ายก็เตรียมตัวนำเสนอกัน บอกได้แค่ว่า เครียดมากกกกกกกกกกกกกกกกก
ตกเย็นก็จะเป็นงานเลี้ยงอำลา
ไม่อยากให้ถึงวันนี้เลย
ยอมรับว่า 14 วันที่อยู่ที่นี้ เราสนุกมากเลย มีความสุขมาก ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งต่างๆมากมายที่ไม่เคยเห็น ทั้งผู้คน วัฒนธรรม อากาศ ธรรมชาติ แผ่นดินไหว(ที่ได้ประสบพบเจอด้วยตัวเองก่อนวันกลับ) ภาษา อาหาร และความคิดต่างๆของผู้คนที่นี้ มันทำให้เราหลงรักญี่ปุ่นอย่างหัวปักหัวปำเลย
การแสดงของเพื่อนญี่ปุ่นในคืนเลี้ยงอำลา อาหารที่หนีไม่พ้นชูซิ เพื่อนๆญี่ปุ่นมาเลี้ยงส่งกันด้วย
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เป็นธรรมดาที่ความสุขจะจบลงเช่นกัน คงเหลือไว้แต่ความทรงจำที่คงทำงานต่อไป ขอบคุณทุกคนที่ทำให้วันที่ 13 ของเราจบลงอย่างมีความสุขนะ :)
DAY 14 : แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่
วันสุดท้ายของการอยู่ญี่ปุ่นแล้ว เอาจริงๆยังไม่อยากกลับเลยย ขออยู่ต่อเลยไหมมมม คงไม่ได้สินะ ฮ่าๆ
วันสุดท้ายมักจะทำให้คิดถึงวันแรกกันจริงไหม?
ตอบเลยว่าจริง วันแรกๆเรายังเก้งๆกังๆทำอะไรก็ไม่ถูก ตื่นเต้นไปหมดกับทุกอย่าง สภาพแวดล้อมใหม่ๆทำให้เราดูลนลานไปหมด แต่มันสนุกมากเลยนะ เราชอบความรู้สึกนี้จัง ความรู้สึกตื่นตัวเวลาเจอคนแปลกหน้า ความกังวลเวลาอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นชิน และความสนุกที่ได้พูดคุยกับคนต่างภาษา การเเลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดกันนี้เป็นอะไรที่โคตรเจ๋งไปเลย
เออเราลืมเล่าไปเรื่องนึง เป็นเรื่องที่เปิดโลกเรามากกกกกกกกก
คือว่าตรงหน้ามหาลัยอ่ะมันจะมีร้านเช่าซีดีเปิดบริการอยู่ใช่ปะ เเล้วนี่เป็นคนอยู่นิ่งๆไม่เป็นไง ชอบไปอยากรู้อยากเห็นไปเรื่อย นี่ก๋็เลยชวนเพื่อนไปดูร้านเช่าซีดีกัน
เข้าไปในร้านก็ปกตินะ เป็นร้านเช่าซีดีธรรมดาทั่วไป มีทั้งเพลง หนัง การ์ตูน และเกม
แต่ตรงมุมหลังสุดของร้านมีประตูทะลุไปอีกห้องหนึ่ง (ประตูทะลุโดเรม่อนแน่เลย!!)
ด้วยความสงสัยก็เลยเดินเข้าไปดู ตรงประตูมีป้ายเขียนไว้ว่า "For Only Adult" แล้วมีผ้าม่านเล็กๆให้เราลอดเข้าไป
บรรยายมาถึงตรงนี้ทุกคนคงรู้แล้วใช่ไหมว่าภายในห้องนั่นมันคืออะไร
ใช่ค่ะคุณคิดถูก มันคือ หนังโป๊ !!! OMG!!
OMG มากกกกกกก หนังโป๊วางขายเป็นแผงเหมือนขายปลาทูเข่งเลยค่ะผู้อ่าน
แล้วมีแบ่งแยกเป็นโซนด้วยนะ โซนนี้เป็นแผงสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ เพิ่งแสดงเรื่องนี้เรื่องแรก
เพิ่งโปรดิวซ์สดๆร้อนๆ ถัดไปอีกโซนจะเป็นแผงติดอันดับขายดี หนังแสดงยอดฮิตไรพวกนี้อ่ะ โอ้แม่เจ้ามากก เปิดโลกใหม่สำหรับเรามากกก เดินดูไปหน้าเเดงไปอ่ะบอกเลย55555
แล้วตอนที่พีกก็คือ ระหว่างที่เดินศึกษาธุรกิจหนังโป๊ของญี่ปุ่นอยู่นั่น ก็บังเอิญเจอคุณลุงกำลังเลือกซื้ออยู่ 2-3 แผ่น นี่แบบตกใจหนักมากจนร้องเสียงหลงแล้วคุณลุงก็หันมามอง แล้วแบบเขินอ่ะ เข้าใจคนไทยที่อยู่เมืองไทยแล้วเรื่องแบบนี้มันไม่ได้เปิดกว้างปะ เออน่ั่นแหละ นี่เขินคุณลุงจนเราต้องวิ่งออกจากร้านไปอ่ะ จนเพื่อนบอกว่า มึงจะเขินทำไม คนญี่ปุ่นเขาไม่ได้อะไรกับเรื่องพวกนี้ซะหน่อย
เออคนญี่ปุ่นไม่อะไร แต่กุเขินเว่ย วิ่งออกแม่ง
และนี้แหละประสบการณ์เปิดโลกสุดในญี่ปุ่น คิดไปก็ฮาดี55555 (เสียดายตอนนั้นเขินอยู่จนลืมถ่ายรูปมาให้ดูกัน 555)
ระหว่างทางกลับไปสนามบิน
สะพาน Akashi Kaikyo ที่โคนันชอบมายืนดู ก่อนกลับพวกเราเลยมาแวะที่วัดนาริตะกันก่อน วัดนี้ข้าวหน้าปลาไหลอร่อยมาก
และได้เจอพี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ กับน้องชูใจ ที่วัดนี้ด้วย
ทางเข้าวัดโคตรสวย
มันไหมค้าบบบ มันร้อนๆสดๆจากเตาค้าบ
เป็นวัดที่เจอคนไทยเยอะมากเช่นกัน ฮ่าๆ
แกแอบถ่ายรูปชั้นเรอะยัยคนไทย!
โดยส่วนตัวแล้วเราชอบภาพนี้มากเลย
ขอให้เราได้มาเยือนญี่ปุ่นอีกเถอะนะ
แล้ววันที่ 14 ของเราจึงจบด้วยการกลับเมืองไทยที่เหลือเงินเยนในกระเป๋าไม่ถึง 50 เยน
ยอมรับเลยว่าเงินหมดงบบานค่ะ
กลับไทยเป็นแบบจนๆ ต้องขนความสุขมาเต็มเปี่ยมเด้ออ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะ
ขอบคุณมากจริงๆที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อีพีแรกจนถึงอีพีสุดท้าย
น้องไม่มีอะไรจะให้นอกจากคำว่า "อาริกาโตะ"
แล้วพบกันใหม่ :)
ศิริรัตน์
29 ตุลาคม 2562
ณ ห้อง 210
ในวันที่มีงานกองเต็มอยู่บนโต๊ะ แต่ศิริรัตน์เลือกปั่นบล็อกแทนปั่นงาน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in