2 พฤศจิกายน 1932 รัฐบาลออสเตรเลียได้เริ่มต้นโครงการที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ เพราะมันจะทำให้ชาวออสซี่ถูกจดจำและถูกอำไปชั่วลูกชั่วหลาน โทษฐานที่ไปทำสงครามกับ 'นกอีมู'





สงครามอีมู (Emu War) เป็นการสู้กันของตัวแทนรัฐบาลออสเตรเลียกับฝูงนกอีมูนับหมื่นตัว เริ่มแรกเดิมทีนกอีมูนั้นอาศัยในถิ่นทุรกันดารทางภาคกลางและตะวันตกของออสเตรเลียมาแต่ไหนแต่ไร โดยแทบไม่มีมนุษย์เข้าไปรบกวน กระทั่งหลังเสร็จสงครามโลกครั้งที 1 (1914-1918) ทหารผ่านศึกออสเตรเลียที่กลับจากการสู้รบในยุโรป พบว่าตนเองตกงาน บางคนบาดเจ็บ พิการจนทำงานหนักๆ อีกไม่ไหว รัฐบาลจึงให้ทหารเหล่านี้ไปตั้งถิ่นฐานทางภาคตะวันตกของประเทศ คอยทำไร่ข้าวสาลีเพื่อส่งมาขายเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอต่อการบริโภคของประเทศ ทหารใช้เวลาอยุ่นานกว่าที่ผลผลิตจะเริ่มมีเห็นผล และเมื่อพวกเขาจะเก็บเกี่ยวผลผลิต ฝูงนกอีมูที่เพิ่งผ่านฤดูผสมพันธ์ก็อพยพผ่านมายังจุดตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ผู้เพิ่งเข้ามาใหม่

เจ้าถิ่นบุกเข้าทำลายทุ่งข้าวสาลีเสียพินาศสิ้น ทำให้เอาทหารผ่านศึกในร่างเกษตรกรหัวร้อน จึงต้องส่งตัวแทนไปคุยกับรัฐบาลกลาง จนได้รับอนุญาตให้จัดการกับฝูงนกอีมู โดยมีเงื่อนไขว่า ผู้ใช้อาวุธต้องเป็นทหารเท่านั้น รัฐบาลของรัฐออสเตรเลียตะวันตกจะสนับสนุนการขนส่งทหาร เกษตรกรจะจัดหาอาหาร จัดหาที่พักให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ ต้องจะออกค่าใช้จ่าย ค่ากระสุนที่จะใช้