ประเทศญี่ปุ่นกับผมน่าจะดวงสมพงษ์กันอยู่ไม่ใช้น้อย
เพราะจากการไปญี่ปุ่นมาทั้งสิ้น 4 ครั้ง ยังไม่เคยมีทริปไหนที่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนสักที
ครั้งแรก...นอนบ้านเพื่อน ไม่ต้องจ่ายค่าที่พัก
(จริงๆ คือจ่ายด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้งที่แบกจากไทยไปให้มันราวๆ เกือบ 50 ห่อได้)
ครั้งที่สองและสาม…ไป Outing กับบริษัท สองครั้งซ้อนในรอบสามเดือน
(คือมันคนละบริษัทกันน่ะ จังหวะมันได้พอดี)
และ ครั้งที่สี่ ครั้งล่าสุด...ไปฟรี เพราะชนะการประกวด ตอบคำถามที่ว่า “ทำไมถึงอยากไปเรียนภาษาญี่ปุ่น” (เหตุผลที่ตอบไปตอนนั้นคือ ตัวเองทำงานโฆษณา ชอบงานโฆษณาจากประเทศญี่ปุ่นมาก และอยากจะรู้จริงๆ ว่า ในโฆษณานั้นมันคุยอะไรกัน มันคิดออกมาได้ยังไง)
รางวัลที่ได้คือ การไปนอนโฮมสเตย์ 14 วัน พร้อมคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นเป็นเวลาสองอาทิตย์ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จาก สถาบัน Jeducation!
. . .
ใจนึงก็รู้สึกดีใจมากๆ อีกใจนึงก็รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ
เพราะทริปนี้ แตกต่างจากการไปญี่ปุ่นครั้งก่อนๆ หน้าอย่างสิ้นเชิง
ไปคนเดียว / ไปนอนโฮมสเตย์ / ไปเรียนภาษาญี่ปุ่น / ไปญี่ปุ่นช่วงฤดูหนาว / ฯลฯ
สารพัดสิ่งที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน
แต่ที่ต้องลุ้นที่สุด คือ ลาแบบไหนให้คุ้มค่าที่สุด (รางวัลที่ได้มาสามารถเลือกช่วงที่จะไปได้)
โชคดี ที่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2016 ตอนนั้น มีวันหยุดที่สามารถลาคร่อมไปคร่อมมาแล้วไม่เกินที่ออฟฟิศกำหนดแบบไม่ต้องเสียเงินค่า Leave without pay แบบพอดิบพอดี
ก็อย่างที่บอก ดวงมันสมพงษ์กับประเทศนี้จริงๆ!
. . .
ได้วันที่จะไปแล้ว ลางานเรียบร้อยแล้ว
คำถามถัดมาคือ อยู่นู่น 14 วันจะไปทำอะไรบ้าง?
ข้อดีที่สุดของการไปเที่ยวเมืองนอกคนเดียวคือ ไปที่ไหนก็ได้ที่อยากไปโดยไม่ต้องมานั่งกังวลเกรงใจเพื่อนร่วมทริปคนอื่นๆ
ดังนั้น เป้าหมายในทริปนี้ของตัวเองจึงมีหน้าตาดังนี้
• ไปดูนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะแวะไปได้
• ไปร้านขายหนังสือภาพ Photobook และ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพให้มากที่สุดเท่าที่จะแวะไปได้
• ไปร้าน Bookoff (ร้านขายหนังสือมือสอง) ทุกร้านที่อยู่ในละแวกที่ผ่าน
• ไปตลาดปลา Tsukiji
• ถ่ายรูป!
สนองนี้ดตัวเองด้านการถ่ายภาพอย่างสมบูรณ์แบบมากๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องด้วยที่ซุกหัวนอนในครั้งนี้เป็นการไปพักแบบโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตร่วมกับโฮสต์ชาวญี่ปุ่น เลยเผื่อวันว่างๆ ทิ้งไว้ในตารางให้เป็นวันฟรีเดย์ เพราะไม่รู้ว่าโฮสต์จะพาเราไปเที่ยวไหน หรือ พาไปทำกิจกรรมอะไรหรือเปล่า เพราะส่วนตัว ก็ไม่อยากจะพลาดประสบการณ์การไปเที่ยวญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นแบบนี้ เพราะมันอาจจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่จะได้นอนโฮมสเตย์ก็เป็นได้ (ไม่ใช่อะไร คือ ราคามันไม่ถูกน่ะ)
. . .
จริงๆ นี่ก็ผ่านมาเกือบ 1 ปีเต็มแล้ว กว่าจะได้มีโอกาสเหมาะๆ มาเขียนถึงการเดินทางในครั้งนั้น
นอกจากจะเขียนเพื่อแบ่งปันเรื่องราวให้กับคนอื่นๆ แล้ว การได้มาย้อนรำลึกเรื่องราวการเดินทางอันสุดแสนประทับใจและครบรสชาติแบบนั้นอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่น้อย
3 - 16 ธันวาคม 2016
เรื่องราวของคนเนิร์ดญี่ปุ่นคนนึง กับการไปโฮมสเตย์ เรียนภาษาญี่ปุ่น และ ตะลุยโตเกียวครั้งแรกของเขา
จะเป็นแบบไหนกันนะ
よろしくお願いしま
(ขอขอบคุณสปอนเซอร์ใจดี โค้ชเจ๊เอ๊ด Jeducation สำหรับของรางวัลชิ้นโตชิ้นนี้ สามารถเข้าไปอ่านเวอร์ชั่นสรุปรวบยอดได้ที่นี่ “ญี่ปุ่นในมุมใหม่” … 2 สัปดาห์กับการโฮมสเตย์และเรียนภาษา ... - Jeducation )
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in