Song Title : Bandito
Artist : Twenty One Pilots
Album : Trench
Talk :
สวัสดีค่า มาตามบัญชาค่ะ ครั้งก่อนแปล
Neon Gravestones แล้วมีคอมเมนต์รีเควส Bandito ด้วย ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์มากเลยนะคะ เพลงนี้เราก็ชอบมากๆค่ะ จัดไปเลยยย
สำหรับเพลงนี้ ไทเลอร์เคยบอกว่าเป็นเพลงที่ใช้เวลานานที่สุด และเป็นเพลงสุดท้ายในอัลบั้ม Trench ที่เขียนเนื้อเสร็จเลยค่ะ ส่วนเนื้อหาของเพลง อย่างที่เคยเกริ่นไปในเพลงก่อนหน้านะคะว่าคอนเซปต์ของอัลบั้มนี้มันเกี่ยวข้องกับการเดินทาง ซึ่งไทเลอร์ จอช รวมถึงบรรดาแฟนคลับอย่างเราๆ จะได้รับบทบาทเป็น Bandito ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏที่ต่อต้าน Dema และหลบหนีการจับกุมของเหล่า Bishops โดยสิ่งต่างๆที่กล่าวมาก็จะแทนถึงความรู้สึกไม่มั่นคง และความคิดลบๆในหลายๆด้านค่ะ
นอกจากนี้ อัลบั้มดังกล่าวก็ยังมีตัวละครอย่าง Clancy ที่เราได้เริ่มทำความรู้จักกันตั้งแต่ตอนที่อัลบั้มยังไม่ปล่อย ผ่านไดอารี่ของเขาในเว็บไซต์ Dema ที่มีเนื้อหาซับซ้อนและรูปภาพชวนงง จนทำให้เกิดแฮชแท็ก #demaupdate ที่แฟนๆสร้างขึ้นมาเพื่อติดตามและแบ่งปันทฤษฎีกันอย่างต่อเนื่อง จนเมื่ออัลบั้มเต็มปล่อยมา ก็จะพบว่าหลายๆเพลงนั้นถูกถ่ายทอดออกมาผ่านมุมมองของแคลนซี่ค่ะ (หนึ่งในทฤษฎีที่น่าสนใจที่เราเจอมาก็คือ แคลนซี่เนี่ยก็เป็น Defense Mechanism หรือที่เรียกว่ากลไกป้องกันตนเอง ของไทเลอร์นั่นเองค่ะ)
ซึ่งแน่นอนว่าเพลงที่เป็นแกนสำคัญของอัลบั้มขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มี MV ปล่อยออกมา แต่ก็ต้องพิเศษกันหน่อยค่ะ ตอนนี้มีสิ่งที่เรียกว่า
Bandito Immersive Experience ที่เป็นเกมให้เราเข้าไปหาสัญลักษณ์ต่างๆเพื่อสะสมให้ครบก่อนจบเพลง แล้วเราก็จะได้อ่านความหมายของสัญลักษณ์เหล่านั้นค่ะ นอกจากนี้เราก็จะได้รับรหัสประจำตัวเสมือนว่าเราเป็น Bandito ด้วย (ได้รหัสเฉพาะผู้ที่ใช้บริการ Spotify นะคะ แต่ตัวเว็บไซต์สามารถเข้าไปเล่นกันได้ทุกคนเลยค่า)
**เว็บไซต์นี้มีระยะเวลาในการเข้าถึงจำกัดนะคะ วันนึงมันจะหายไป ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเล่นได้แล้วค่ะ
ถ้าสนใจก็เข้าไปเล่นกันได้
ที่นี่ นะคะ
ส่วนข้อมูลแบบละเอียดที่อยู่ในเว็บ Dema ก็สามารถเข้าไปดูที่มีคนรวบรวมไว้ได้
ที่นี่ ค่ะ
ปล. เราแปลความหมายของสัญลักษณ์ทั้ง 5 ไว้ด้วยนะคะ เลื่อนลงไปดูข้างล่างสุดได้เลยย ♡
------------------------------------------------------------------
* ไม่อนุญาตให้นำการแปลของเราไปใช้ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ เราตั้งใจแปลมากๆเลยน้า *
I could take the high road
But I know that I'm goin' low
I'm a ban—I'm a bandito
I could take the high road
But I know that I'm goin' low
I'm a ban—I'm a bandito
I could take the high road
But I know that I'm goin' low
I'm a ban—I'm a bandito
ผมจะเลือกไปทางถนนหลักก็ได้นะ
แต่ผมรู้ว่าเลือกไปทางรองดีกว่า
ผมคือ Bandito
ผมจะเลือกไปทางถนนหลักก็ได้นะ
แต่ผมรู้ว่าเลือกไปทางรองดีกว่า
ผมคือ Bandito
คำว่า Bandito นี่ความหมายเดิมของมันคือพวกนอกกฎหมายค่ะ ซึ่งไทเลอร์เลือกคำนี้มาใช้แทนกลุ่มกบฏ ส่วน high road จริงๆสามารถแปลว่าเส้นทางที่ถูกต้อง ถูกหลักศีลธรรมก็ได้ค่ะ หรือถ้าความหมายเดียวกับที่เราแปลไว้ในเพลง Lane boy ท่อนนี้ก็อาจหมายถึงสิ่งเดียวกันคือ ไทเลอร์สามารถเลือกที่จะทำในสิ่งที่ใครๆแนะนำให้ทำกันก็ได้ แต่กลับเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการมากกว่า หรือถ้าแปลแบบตรงตัวไปเลย คือแทนที่จะเลือกเดินทางไปบนทางหลวง เรามาเลือกลงข้างล่างกันดีกว่า นั่นก็คือการหลบหนีออกจาก Dema ด้วยการลงอุโมงค์แบบที่เราเห็นใน MV เพลง Nico And The Niners นั่นเองค่ะ
This is the sound we make
When in between two places
Where we used to bleed
And where our blood needs to be
นี่คือเสียงที่พวกเราสร้าง
เมื่ออยู่ระหว่างสถานที่ทั้งสอง
ที่ที่เราเคยหลั่งเลือด
ที่ที่โลหิตของพวกเราจำเป็นต้องอยู่
'ระหว่างสถานที่ทั้งสอง' ในท่อนนี้ก็คือ Trench นั่นเองค่ะ เพราะ Trench คือสถานที่หลบภัยระหว่าง Dema และโลกภายนอก ที่ที่เหล่า Bandito รวมตัวอยู่ด้วยกัน ส่วนการหลั่งเลือดก็มาจากการต่อสู้เพื่อเอาชนะและหนีออกมา ซึ่งถ้าเทียบกับความเป็นจริงแล้ว Dema ก็คือศูนย์รวมความคิดลบๆหรือ Mental Illness ใช่ไหมคะ ดังนั้นตรงนี้อาจพูดถึงการเอาชนะ Self Harm ก็ได้ค่ะ
I could take the high road
But I know that I'm goin' low
I'm a ban—I'm a bandito
I could take the high road
But I know that I'm goin' low
I'm a ban—I'm a bandito
ผมจะเลือกไปทางถนนหลักก็ได้นะ
แต่ผมรู้ว่าเลือกไปทางรองดีกว่า
ผมคือ Bandito
ผมจะเลือกไปทางถนนหลักก็ได้นะ
แต่ผมรู้ว่าเลือกไปทางรองดีกว่า
ผมคือ Bandito
In City, I feel my spirit is contained
Like neon inside the glass, they form my brain
But I recently discovered it's a heatless fire
Like nicknames they give themselves to uninspire
Begin with bullet, now add fire to the proof
But I'm still not sure if fear's a rival or close relative to truth
Either way it helps to hear these words bounce off of you
The softest echo could be enough for me to make it through
ในเมืองนี้ ผมรู้สึกได้ถึงจิตใจที่ถูกจำกัด
ดั่งแสงนีออนที่อยู่ในหลอดแก้ว ที่สร้างหัวคิดของผม
แต่เร็วๆนี้ผมก็ค้นพบว่ามันเป็นเพียงแสงไฟที่ไร้ซึ่งความร้อน
เหมือนชื่อเล่นที่พวกเขาตั้งให้ตนเองเพื่อดับความจุดประกาย
เริ่มต้นด้วยกระสุน จากนั้นก็เติมไฟเพื่อไปต้านทาน
แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าความกลัวนั้นมันคือคู่ปรับหรือเป็นญาติกับความจริงกันแน่
แต่ยังไงก็เถอะ มันช่วยสลัดคำพวกนั้นออกไปจากคุณได้นะ
เพียงเสียงสะท้อนเล็กๆก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้ผมฝ่าฟันไป
ใน Dema หรือในสภาวะเศร้าๆ ความคิดของไทเลอร์ถูกจำกัด ไม่สามารถสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆได้ เหมือนกับแสงนีออนที่ถูกกักขังเอาไว้ในหลอดแก้ว แต่อย่างไรก็ตาม แสงนีออนนั้นก็เป็นเพียงแสงไฟที่ไร้ซึ่งความร้อน ดังนั้นมันจึงไม่มีอิทธิพลเหนือเราค่ะ ไม่เหมือนกับแสงจากดวงอาทิตย์ที่สามารถแทนถึงพลัง ความหวัง และการเริ่มต้นใหม่ อย่างที่วงนี้เคยกล่าวถึงในหลายๆเพลง ส่วนชื่อเล่นที่ดับความจุดประกาย สำหรับเราเราคิดว่าหมายถึง เวลาที่เรามีความคิดลบๆ เรามักจะต่อว่าตัวเองใช่ไหมคะ เช่น เรียกตัวเองว่าไอ้ขี้แพ้ ไอ้ห่วย อะไรแบบนี้ ซึ่งมันเป็นการตัดกำลังของตัวเองค่ะ ส่วนท่อนถัดมาเชื่อมโยงกับเพลง Fairly Local และต่อมาที่พูดถึงความกลัว ตรงนี้เราอ่านจากในจีเนียสเขาวิเคราะห์กันว่าน่าจะหมายถึงความตายค่ะ ดังนั้นบางทีความกลัวก็อาจเป็นสิ่งที่ดีในบางโอกาส และสุดท้าย เสียงเบาๆเหล่านั้นก็อาจหมายถึงเสียงของเหล่าแฟนคลับที่คอยสนับสนุน หรืออาจหมายถึงเสียงของพระเจ้าอย่างที่เราแปลไว้ในเพลง Holding On To You ก็ได้ค่ะ
Folina, Sahlo Folina
Sahlo Folina, Sahlo Folina
I created this world to feel some control
Destroy it if I want
So I sing Sahlo Folina, Sahlo Folina, Sahlo
โฟลีน่า…. ซาโลห์….
ผมสร้างโลกใบนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะได้รู้สึกถึงการควบคุม
จะทำลายลงก็ได้หากต้องการ
ดังนั้นผมจึงร้อง โฟลีน่า…. ซาโลห์….
Folina, Sahlo นี่ทางวงเคยได้ตอบคำถามไว้ในเว็บไซต์ Reddit ค่ะ ว่า Sahlo มันหมายถึง "สามารถ" ในภาษาโซมาลี (ภาษาที่พูดในประเทศโซมาเลียค่ะ) ส่วน Folina เป็นชื่อที่หมายถึงความสร้างสรรค์ ดังนั้น Folina Sahlo จึงเป็นการเปล่งเสียงเพื่อแสดงออกถึงการสร้างสรรค์ ทำให้สอดคล้องกับท่อนต่อมาที่บอกว่าไทเลอร์สร้างโลกใบนี้ขึ้นมา (โลกของ Dema) ซึ่งเราจำได้ว่าไทเลอร์เคยเล่าไว้ในสัมภาษณ์ นี้ (ตรงนาทีที่ 3) ว่า บางครั้งการที่จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นภายในหัวของตัวเอง เราสามารถทำได้โดยการเหมือนสร้างแผนที่ขึ้นมา แล้วรู้ว่าเรามาจากตรงไหน ตรงไหนที่ไม่ควรไปอีก และตรงไหนที่ควรมุ่งหน้าไป ดังนั้นเมื่อเราปฏิบัติต่อสมองของเราเหมือนมีอำนาจในการควบคุมมัน แบบนี้มันช่วยให้ไทเลอร์จัดการกับความคิดของตัวเองได้มากขึ้นค่ะ *หรือมีอีกทฤษฎีนึงก็บอกว่า คำว่า Folina Sahlo เมื่อจัดวางตัวอักษรใหม่จะกลายเป็น All Ohio fans คือแฟนๆจากบ้านเกิดของทั้งจอชและไทเลอร์ แฟนๆกลุ่มเล็กๆที่ช่วยกันทำให้วงนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของวงที่ไทเลอร์ระลึกถึงค่ะ) *เพิ่มเติมค่ะ มีอีกทฤษฎีคือ Sahlo Folina นี่ยังเป็นการ asking for help without actually saying "help me" ก็คือเป็นการร้องขอความช่วยเหลือ โดยไม่ได้พูดออกมาตรงๆว่า "ช่วยด้วย" สำหรับเหล่า Banditos ค่ะ
I could take the high road
But I know that I'm goin' low (Sahlo)
I'm a ban—I'm a bandito
I could take the high road
But I know that I'm goin' low
I'm a ban—I'm a bandito (Sahlo)
I could take the high road
But I know that I'm goin' low (Sahlo)
I'm a ban—I'm a bandito
ผมจะเลือกไปทางถนนหลักก็ได้นะ
แต่ผมรู้ว่าเลือกไปทางรองดีกว่า (Sahlo)
ผมคือ Bandito
ผมจะเลือกไปทางถนนหลักก็ได้นะ
แต่ผมรู้ว่าเลือกไปทางรองดีกว่า
ผมคือ Bandito (Sahlo)
ผมจะเลือกไปทางถนนหลักก็ได้นะ
แต่ผมรู้ว่าเลือกไปทางรองดีกว่า (Sahlo)
ผมคือ Bandito
I created this world to feel some control
Destroy it if I want
So I sing Sahlo Folina, Sahlo Folina
ผมสร้างโลกใบนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะได้รู้สึกควบคุม
จะทำลายลงก็ได้หากต้องการ
ดังนั้นผมจึงร้อง โฟลีน่า…. ซาโลห์….
------------------------------------------------------------------
แปลความหมายของสัญลักษณ์ทั้ง 5
JUMPSUIT MEDALLION
เหรียญ Jumpsuit
มุมมองจากด้านบนเมื่อมองลงไปยัง Trench แผนที่นี้ช่วยให้พวกเราหาหนทางในการเผชิญหน้ากับการเดินทางนี้ด้วยตัวคนเดียวได้ ท่ามกลางความอ้างว้างเหล่านั้น เหรียญทรงกลมนี้จะกลายเป็นตัวช่วยในการนำทางและเพื่อนร่วมทางของเรา
COMPASS E PITCHFORK
เข็มทิศสามง่าม (E = East is up)
สัญลักษณ์แห่งความตรงกันข้ามของทิศทางลวงหลอกภายใน Dema ที่เหล่า Bandito ใต้ดินตระหนักถึงตัว E กลับด้าน ประหนึ่งเครื่องหมายแห่งความจริงที่ถูกเปิดเผย เราใช้การกล่าวว่า "East is up" เพื่อเป็นข้อความแห่งความเป็นเอกภาพ สัจธรรม และขบถต่อการกดขี่ของ Dema
DOUBLE BARS LOGO
โลโก้รั้วสองชั้น
ยึดมั่นในการกบฏของเราต่อคำสอนของลัทธิ Vialism (ลัทธิที่พวก Bishops สร้างขึ้นมาภายใน Dema) เราเปลี่ยนหลักคำสอนเท็จเหล่านั้นให้ตรงข้ามกับที่เคยเป็น ได้รับการคุ้มครองมากกว่าเดิม รั้วสองชั้นนี้หมายถึงชีวิตและความหวัง
VULTURE
นกแร้ง
พวกเราคือนกแร้ง แร้งนั้นสามารถมองเห็นทั้ง 2 โลก กลืนกินความตาย เป็นสัญลักษณ์แห่งภาระในการรับผิดชอบของเราต่อการเปลี่ยนความตายให้กลายเป็นชีวิต ขอให้เราได้เรียนรู้จากสิ่งที่สูญเสียไป และกระทำเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อ
FPE BADGE
เหรียญตรา FPE
ผู้คนเหล่านั้นที่มองเห็นการกระทำชั่วภายใต้การโกหกของ Dema รู้สึกได้ถึงพันธกิจที่จะออกไป และได้พยายามที่จะหลบหนี เขาเหล่านั้นคือผู้คนที่ควรได้รับการนับถือ พวกเขาหลายคนต้องโทษด้วยเหรียญตราแห่งการหลบหนีที่ล้มเหลว แต่ก็สวมใส่มันอย่างองอาจ นี่คือสัญลักษณ์ของพวกเขา สัญลักษณ์แห่ง Bandito ใต้ดิน ผู้คนกลุ่มน้อย ผู้คนอันภาคภูมิใจ และผู้คนซึ่งมีอารมณ์อ่อนไหว
THE FEW, THE PROUD, AND THE EMOTIONAL
เป็นเพลงที่แปลสนุกมากค่ะ เราได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆเยอะเลย รู้สึกยังไงมาเม้ามอยกันได้น้า _(:3JL)_
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in