ตลอดการเดินทางตั้งแต่ กทม. จนมาถึงปีนัง
ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียว ที่มีความรู้สึกนี้แว่บเข้ามาในหัว ความรู้สึกที่ว่า อยากมีใครสักคนอยู่ด้วย
ภาพบาดตาตรงหน้าทำให้หัวใจที่คิดไปเองว่า "เฮ้ย เราโอเค" แต่จริงๆ ข้างในมันไม่โอเคเลย
... ใช่ครับ โมเมนต์นั้น มันเป็นโมเมนต์พิฆาตนักเดินทางตัวคนเดียวแบบผมจริงๆ
ไม่.. ไม่ใช่ลมหนาวเศร้าสร้อยจนอยากจับมือใครมากุมให้หายหนาว
แต่เป็นเพราะว่า...
"ของกินตรงหน้า มันน่าแxกไปหมดเลยเฮ้ย มาคนเดียวจะกินได้ไงหมดว้าาาาาา"ต่อหน้าผมในขณะนี้ คือซุ้มอาหารจีนที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คน
กะด้วยสายตาไม่น่าจะต่ำกว่า 20-30 ร้าน ดิสเพลย์อาหารแต่ละอันทำเอาผมแฉะไปหมด
(หมายถึงน้ำลายสอในปาก อย่าคิดไกล)
และเมื่อเดินทะลุไปอีกฝั่ง ซุ้มอาหารอิสลามก็รอต้อนรับผมอยู่อีกเพียบ
ศูนย์อาหารย่อมๆ อันนี้ทำให้ผมอยากจะแปลงร่างเป็นชูชก ไล่กินทุกร้านทุกเมนูให้รู้แล้วรู้รอดมากๆ
ถ้ามีคนมาช่วยกิน ช่วยชิมหลายๆ อย่างก็คงดี
ถ้าพูดภาษามาเลย์ได้คงทำไปแล้ว #เนียน
หลังจากเดินวนไปวนมาหลายรอบ เพราะผมเป็นคนเรื่องมาก + งก + กระเพาะมีจำกัด
ผู้ชนะที่ได้มาแบ่งปันพื้นที่ในพุงของผม มีรายชื่อดังต่อไปนี้
1. บะหมี่น้ำสไตล์ปีนัง เป็นบะหมี่ใส่พริกเผา เปรี้ยวๆ เผ็ดๆ มีพวกกุ้ง ไข่ต้ม หมู อะไรทำนองน้ั้น ตอนสั่งเขาถามว่าอยากเพิ่มหมูสามชั้นมั้ย นี่ก็คิดว่า เหมือนเมืองไทยมั้ง + 10 บาท งี้ บรึ้ม จาก 40 บาทเด้งไปเป็น 80 บาทเฉย ฮือ เจ็บใจ แต่ที่เจ็บใจกว่าคือ รสชาติมันก็ธรรมดาๆ นี่หว่า ฮือออออออ
2. Lok Lok ในภาพจะเห็นสารพัดทุกสิ่งอันเสียบไม้อยู่ลิบๆ ตา พร้อมเห็นว่ามีเตาส่วนตัวประหนึ่งไปกินชาบูชิอยู่ตรงด้านซ้ายมือ นั่นแหล่ะครับ ทุกคนคงเดาได้โดยสัญชาตญาณ ง่ายๆ เลย หยิบไอ้ของเสียบไม้ ซึ่งครอบจักรวาลทุกประเภทของกินที่เราเห็นใน MK แล้วเอามาลวกในหม้อ เอาน้ำจิ้มราด กินเท่าไร จ่ายเท่านั้น สนนราคาไม้ละ 10 บาท คนมาพากันมุงจุ่มจิ้มเยอะมาก
ที่ผมลองคือ หมึกกรอบ หอยแครง แมงกระพรุน เด็ดดวงมาก กรุบกรอบแถมแซ่บ คิดถึงลูกชิ้นปิ้งโง่ๆ ที่ กทม. เลย
3. Char Koay Teow ก๋วยเตี๋ยวผัด ที่เลือกกินจานนี้ ไม่มีอะไรมากเลยครับ เพราะคนต่อแถวเยอะมากกกกกก ในใจคิดว่า เฮ้ย มันต้องแหล่มแน่ โลคอลยังชอบกินอ่ะ ร้านอื่นขายเมนูนี้ เขาไม่มาต่อกัน ร้านนี้ต้องพีคแน่นอน ป้าบ รอไปครับ 15 นาที
เอาเข้าปากปุ๊บ โอ้โฮ... ร้อน (มุกแบบนี้ควรเลิกเล่นแล้วสินะครับ) เป็นเส้นใหญ่ผัดกะถั่วงอก พร้อม กุ้งสามตัว ราคา 50 บาท รสชาติแน่นๆ เข้าเนื้อ พริกไทยมาเต็ม อร่อยสมกับที่ต้องไปยืนรอ เด็ดดวงมาก
4. น้ำเต้าหู้เย็น 12 บาท งั้นๆ อ่ะ ไม่มีไรพิเศษ จบ.
เห็นกินเยอะขนาดนี้ มันยังมีอาหารอีกจานที่ผมพลาดครับ
สิ่งที่ผมอยากกินมากที่สุด แต่ไม่สามารถทำได้... นั่นคือ
หมึกกรอบผัดพริกเผากับผักบุ้งครับ
เหตุผลคือ เขาขายทั้งตัวครับ 120 บาท ถึงผมจะชอบหมึกกรอบมากๆๆๆๆๆ แต่กินคนเดียวหมดจานนี่น่าจะเกินไป เห็นทุกโต๊ะที่มาเป็นครอบครัวต่างสั่งมากินกันถ้วนหน้า เสียดายมากๆ
คิดซะว่าเก็บไว้เป็นข้ออ้างให้กลับมาเยือนปีนังอีกรอบก็น่าจะเวิร์ค
"เธอๆ ไปนั่งกินหมึกกรอบผัดพริกเผาริมทะเลกับเรามั้ย"
นี่แหน่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in