เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2 TASTES PLUS SOME STORIESbturkphiphek
AFTER TASTE - จาก







  • ผมพบว่าภายในร้านกาแฟแห่งนี้มีคนมากมายพากันให้คำนิยามกับมัน

    บางคนบอกมันช่างดูอึมครึมเสียจริง

    บ้างต่างยิ้มแย้มเดินเข้ามาพร้อมบอกที่แห่งนี้ช่างปลอดโปร่งแสนสบาย

    หลายคนบอกมันช่างร้อนอบอ้าว กลับกันก็มีบางพวกบอกมันช่างเหน็บหนาว

    มันต่างแล้วแต่ใครนิยาม





    เพราะสุดท้ายร้านกาแฟ ยังคงเป็นร้านกาแฟ






    วันนี้ผมสั่งกาแฟเย็น

    กาแฟเย็นนั้นดูเหมือนจะหวานกว่ากาแฟปกติ

    ผมคิดว่าคงเพราะมันกำลังรอน้ำแข็งละลาย

    และผมเองก็กำลังรอเวลานั้นมาถึงเช่นกัน







    ผมนั่งโซนโต๊ะแบบบาร์ยาวก่อนจะมองไปรอบๆตัวร้าน

    ในความคิดผม

    ทุกสิ่งมันช่างเหมือนกระดาษสีขาว

    รอการแต่งแต้ม

    รอการนิยาม

    จนบางครั้งเราไม่สามารถมองเห็นสีขาวของตัวกระดาษได้เลยด้วยซ้ำ



    ผมจึงคิดว่าทุกคนเป็นจิตรกร



    เราล้วนมีกระดาษและถือสีสันนานาแต่งแต้มสิ่งรอบตัวตามใจคิด

    พ่อแม่กำลังทาสีขาวลงบนกระดาษสีเทาของเด็กหนุ่ม

    หญิงสาวกำลังเคอะเขินกับสีชมพูที่ชายหนุ่มระบายให้กับกระดาษแสนจะยับยู่ยี่ของเธอ

    หรือจะเป็น

    มนุษย์เงินเดือนที่พยายามแต่งแต้มผสมสีหลากสีเพื่อขีดเขียนหน้ายิ้มให้ตนเอง

    และผม

    คนที่นั่งรอสีสันใหม่ๆพร้อมกับกาแฟเย็นรสหวานในมือ







    ปกติผมไม่ค่อยดื่มกาแฟเย็น

    แต่เธอดื่ม

    ผมจึงดื่ม

    จริงๆผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชอบดื่มอะไร

    ผมเพียงคาดคิดไว้ มันเป็นเพียงการอุปโลกขึ้นเอง

    จากคนที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างผม

    ผมรู้ว่าตัวเองนั้นซึมซับความเป็นเธอผ่านสีสันที่เธอแต่งแต้มให้โดยไม่รู้ตัว

    มันเป็นเรื่องปกติเวลาเราพบเจอใครสักคนหน่ะ








    ผมเขย่ากาแฟในมือ น้ำแข็งทำให้รสหวานจืดจางลงบ้าง

    แต่มันยังคงหวานหนืดคอไปสำหรับผม

    เช่นนั้นผมคงต้องรอต่อไป

    ทั้งรอกาแฟจืดลง

    และรอการกลับมาของเธอ






    จู่ๆที่นั่งข้างๆผมก็ถูกเติมเต็ม

    ผมไม่มั่นใจว่านั่นใช่เธอ

    แต่เศษเสี้ยวหนึ่งในตัวผมกลับตะโกนก้องว่าใช่

    หรือผมเพียงอยู่กับความอ้างว้างนานเกินไปจนต้องการเพียงใครสักคนมาเติมเต็มที่ว่างที่นี้

    คนตรงหน้าเริ่มแสดงกระดาษของตนเองให้ผมเห็น

    เพียงเล็กน้อย

    พลางจุ่มสีในถาดของเขาและปาดป้ายลงบนตัวผม








    กาแฟแก้วนั้นเริ่มเย็นขึ้นแล้ว

    แถมยังเหลือเพียงก้นแก้วแล้วเสียด้วย

    ช่างน่าเสียดาย

    เธอยังไม่กลับมา







    คงทิ้งไว้เพียงกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นยามเราพบกันครั้งแรกในความทรงจำของผม

    เพียงผมคนเดียวเท่านั้น






    ผมแกว่งพู่กันในมือก่อนก้มลงมองกระดาษของตัวเอง

    คนตรงหน้าผมยังคงบรรจงระบายสีสันลงบนตัวผม

    แต่ช่างน่าเสียดาย

    ไม่ว่าใครจะแต้มสีสันเพียงไหน

    ไม่ว่าใครจะขีดเขียนกระดาษใบนี้สักเท่าไหร่

    กระดาษของผมกลับเต็มไปด้วยสีๆหนึ่งซะแล้ว

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    สีที่เธอนั้นเป็นผู้ระบาย








Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in