(หมายเหตุ : ข้อมูลที่เขียนนี้ได้จากข่าวและบทความที่มาจากการสืบค้น เราไม่ได้เรียนจบหรือทำงาน
ในสายงานกฎหมายหรือรัฐศาสตร์โดยตรง ดังนั้นหากมีส่วนไหนผิดพลาด ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วย
สามารถคอมเมนท์หรือติเพื่อแก้ไขข้อมูล เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องได้เลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ)
แน่นอนที่ไม่ว่าจะในประเทศไหนๆ การคอรัปชั่นในระบบราชการนั้นก็ัยังคงมีอยู่เสมอ
ในเกาหลีใต้ก็เช่นกัน จากอำนาจของอัยการซึ่งมีอิทธิพลต่อนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศ รวมไปถึงข่าวการคอรัปชั่นของอดีตปธน.ปาร์ค กึน เฮ ทำให้รัฐบาลปัจจุบันภายใต้
การบริหารของปธน.มุน แจอิน ที่มีนโยบายเน้นความโปร่งใสและการปราบปรามคอรัปชั่น
ซึ่งใน Key Policy Tasks ได้ระบุเรื่องการแก้ไขอำนาจหน้าที่ของระบบงานอัยการไว้ด้วย
- การตั้งองค์กรอิสระสำหรับการดำเนินคดีทุจริตของข้าราชการระดับสูงโดยเฉพาะ
- การถ่ายโอนอำนาจการสืบสวนคดีจากพนักงานอัยการไปที่ตำรวจให้มากขึ้น
- การเพิ่มความเป็นกลางและความเป็นอิสระในการแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆในสำนักงานอัยการ
โดยใช้อำนาจจากคณะกรรมการอิสระ
- เพิ่มระบบตรวจสอบความโปร่งใสจากภายนอก
- ป้องกันการใช้อำนาจตรวจสอบของอัยการที่ไม่เป็นธรรม
นอกจากนี้ในปธน.มุน ยังมีการวางตำแหน่งสำคัญที่แสดงถึงความพยายามในการปฏิรูปอีก เช่น
- การแต่งตั้งตำแหน่งหัวหน้าอัยการเขต Seoul Central ซึ่งตามข่าวบอกว่าเป็นตำแหน่งสำหรับ
รอการขึ้นเป็นอัยการสูงสุดในอนาคต โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายนี้ (Yoon Seok-youl) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นหัวหน้าทีมสืบสวน*คดีทุจริตของ อดีตปธน. ปาร์ค กึนเฮ จากที่เคยถูกย้ายตำแหน่งไปอยู่ต่างจังหวัดหลายครั้งในสมัยรัฐบาลอดีตปธน. เนื่องจากการทำหน้าที่ตรวจสอบคดีทุจริต
ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งปธน.
( * ทีมสืบสวนดำเนินการโดยทีมสืบสวนอิสระที่ตั้งขึ้นใหม่ หลังจากดำเนินการโดยสำนักงานอัยการเขต Seoul Central มาก่อน )
การแต่งตั้งตำแหน่งเลขาธิการอาวุโสของประธานาธิบดีด้านกิจการพลเรือน (Senior Secretary for Civil Affairs) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแลสำนักงานอัยการ โดยที่ผ่านมาตำแหน่งนี้มักถูกวางให้กับคนที่เคยมีตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับระบบงานอัยการหรือแม้แต่
อดีตอัยการระดับสูงเอง ดังนั้นในรัฐบาลชุดนี้จึงแต่งตั้งตำแหน่งนี้ให้กับอาจารย์กฎหมาย
จากม.โซลแทน นอกเหนือจากคุณสมบัติในความรู้ทางกฎหมายและความสนใจในการปฏิรูประบบอัยการแล้ว การแต่งตั้งคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนในสายงานอัยการโดยตรงนั้นอาจจช่วยให้เกิดผลดีต่อการปฏิรูป
(หมายเหตุ : ตำแหน่ง Senior Presidential Secretary ของทำเนียบประธานาธิบกีเกาหลีใต้ มีหน้าที่หลักในการดำเนินนโยบายสำคัญต่างๆของรัฐบาลและทำงานใกล้ชิดประธานาธิบดี ตำแหน่งสามารถปรับเพิ่มลดจำนวนได้ตามการให้ความสำคัญของนโยบาย
ของแต่รัฐบาลและแบ่งแยกส่วนงานรับผิดชอบตามแต่ประธานาธิบดีกำหนด ดูคล้ายๆกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของไทย)
คดีทุจริตของอดีตปธน.ปาร์ค กึนเฮ
และความเกี่ยวข้องกับอัยการ
Photo: JUNG YEON-JE / AFP
อดีตปธน.ปาร์ค กึนเฮ ขณะดำรงตำแหน่งนั้นมีข่าวฉาวเกิดขึ้นหลายครั้ง เช่น ข้อสงสัยต่อ
การปฏิบัติหน้าที่จากเหตุการณ์เรือเซวอล และะการเข้าไปพัวพันกับการทุจริตของคนสนิท (นางเชว ซุนซิล) โดยในท้ายที่สุดก็ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งจากมติของรัฐสภา
รวมไปถึง คดีสินบนของรองประธานบริษัท Samsung Electronics จากการโอนเงินเข้าองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของนางเชว ซุนซิล จำนวน 46 ล้านวอน (ประมาณ 36.3 ล้าน USD) เพื่อแลกกับการสนับสนุนจากภาครัฐในการควบรวมบริษัท
โดยคดีนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของ Samsung Electronics อย่างมาก หลังจากเป็นข่าว
ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดหุ้น เนื่องจากการเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่ม Chaebol* ซึ่งเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ
(*Chaebol คือ กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ทรงอิทธิพลทางการค้าและการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้
ซึ่งมักบริหารและควบคุมบริษัทแบบการสืบทอดกิจการจากตระกูลผู้ก่อตั้ง)
นอกเรื่องนิดนึง
ด้วยเพราะกลุ่ม Chaebol มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ แต่มีความเสี่ยงจากการทุจริตในการบริหารที่มักเกิดจากการตัดสินใจโดยผู้ถือหุ้นหลัก และวิธีการบริหารแบบการสืบทอดกิจการ ทำให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ต้องการปฏิรูปกลุ่มบริษัท Chaebol ด้วยเช่นกัน
โดยพยายามจะผลักดันการแก้กฎหมายการบริหารบริษัท เพื่อเพิ่มสิทธิในการตัดสินใจและกระจายความเสี่ยงแก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยให้มากขึ้น
Senior Secretary for Civil Affairs ของ ปาร์ค กึนเฮ
ตำแหน่ง Senior Secretary for Civil Affairs ในช่วงการดำรงตำแหน่งของอดีตปธน.
ปาร์ค กึนเฮ นั้นคือ นาย อู บยองอู (Woo Byung woo) อดีตอัยการระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัย
ในความมีอิทธิพลของเขาที่มีต่อการทำงานของอัยการ จากการที่เป็นคนใหญ่คนโตในวงการอัยการ ทำให้หลายคดีที่เกี่ยวข้องกับอดีตปธน.ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่ง เช่น การเอื้อผลประโยชน์แก่คนใกล้ชิด
(สามีเก่า) หรือการปฏิบัติหน้าที่ของปธน.กรณีเหตุการณ์เรือเซวอล ดูเหมือนจะมีอัยการที่เป็นคนของ
นายอู บยองอูคอยช่วยเหลืออยู่
จนในที่สุดเมื่อปาร์ค กึนเฮ ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง นายอู บยองอู กลับถูกดำเนินคดี
เพียงเล็กน้อยในข้อหาละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จึงทำให้สังคมเกิดความสงสัยในความใกล้ชิด
กับคนในสำนักงานอัยการ ซึ่งยังคอยปกป้อง จึงทำให้ตัวเองไม่ถูกสืบสาวถึงความเกี่ยวข้องกับการทุจริตของอดีตปธน.
เมื่อรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ตามด้วยความพยายามในการปฏิรูประบบงานอัยการและการทุจริตในสำนักงานอัยการ ทำให้เริ่มมีการไล่เช็คบิลคนของอู บยองอู โดยเริ่มการสืบสวนความใกล้ชิด
กับอัยการระดับสูงหลายคนที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญๆในสมัยรัฐบาลปาร์ค กึนเฮ ซึ่งนายอู บยองอู
ในตอนนั้นยังคงเป็นเลขาธิการฯในทำเนียบ รวมไปถึงอัยการที่ทำคดีทุจริตของอดีตปธน.ในช่วงแรก
ก่อนที่การสืบสวนจะถูกโอนไปให้ทีมสืบสวนอิสระในภายหลัง เนื่องจากพบความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง เช่น การรับสินบน หรือการพบกันนอกรอบด้วยท่าทีสนิทสนมระหว่างอัยการผู้ทำคดีและ
นายอู บยองอู ทำให้มีคำสั่งโยกย้ายคนของอู บยองอูหลายคนและตามมาด้วยการขอลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งงานนี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นของการเริ่มปฏิรูปวงการอัยการของรัฐบาลชุดนี้ก็ได้
ความพยายามปฏิรูประบบงานอัยการครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก
- ในปี 1992 เกาหลีใต้ได้นายคิม ยองซัม เป็นปธน. ซึ่งถือว่าเป็นปธน.พลเรือนคนแรก หลังจาก
มักจะมีปธน.เป็นทหารและการการเมืองที่ถูกรัฐประหารหลายครั้งหลังจากช่วงจบสงครามเกาหลี ในรัฐบาลของคิม ยองซัม แม้ว่าจะหมดปัญหาเรื่องการใช้อำนาจทางทหารแทรกแซงการเมือง แต่กลายเป็นว่ารัฐบาลชุดนี้ใช้ประโยชน์กับงานอัยการ ในการขุดคุ้ยเรื่องฉาวต่างๆเพื่อทำลาย
คู่ต่อสู้ทางการเมืองแทน ทำให้แม้ว่าการเมืองจะเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยเสียทีแล้ว แต่ดูเหมือนว่า
งานอัยการกลับมีบทบาทต่อการเมืองในประเทศมากขึ้น - ต่อมาในสมัยของปธน. คิม แดจุง (ซึ่งเคยเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับนายคิม ยองซัม) ช่วงปี 1996 ก่อนได้รับเลือกตั้งเป็นปธน. นายคิม แดจุง เคยเสนอการแก้ไขกฎหมายเพื่อแบ่งอำนาจหน้าที่
การสืบสวนสอบสวนระหว่างอัยการและตำรวจ แต่รัฐสภาไม่เห็นชอบ ซึ่งในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
ปธน. ปี 1997 รัฐสภาได้เปิดเผยว่านายคิม แดจุง อาจจะมีความตั้งใจปกปิดเรื่องทรัพย์สิน
แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างนายคิม แดจุง และฝ่ายอัยการได้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นว่าไม่มีการสืบสวนเรื่องนี้ต่อจากฝ่ายอัยการ และนายคิม แดจุง ก็ชนะการเลือกตั้งใน ปี 1997
ราวกับว่าฝ่ายอัยการตั้งใจปกปิดเรื่องราวเพื่อให้นายคิม แดจุง ชนะการเลือกตั้งและอาจเป็นการป้องกันนโยบายการปฏิรูปที่เกี่ยวข้องกับระบบงานอัยการในรัฐบาลต่อไปของฝ่ายอัยการเอง - อย่างไรก็ดีี ในรัฐบาลปธน.คิม แดจุง กลับมีการเสนอการปฏิรูประบบงานอัยการขึ้นมาอีก
จนกระทั่ง มีคดีการติดสินบนของภริยารัฐนมตรีในรัฐบาลหลายคน รวมไปถึงภริยารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเคยเป็นอัยการสูงสุดมาก่อน แต่การสืบสวนคดีนี้ก็จบลงอย่างรวดเร็ว
โดยอาจเพื่อปกป้องความเสียหายของชื่อเสียงปธน.ซึ่งเป็นผู้นำรัฐบาล หรือเพื่อปกป้องนายเก่าอย่างรมต.ยุติธรรมของฝ่ายอัยการ รวมไปถึงการป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะโดนปฏิรูป หากว่าการสืบสวนเรื่องนี้ต่อจะทำให้คนในรัฐบาลเกิดความไม่พอใจ โดยหลังจากการยุติการสืบสวนคดีนี้
ของฝ่ายอัยการ ทำให้แนวคิดการปฏิรูประบบงานอัยการและระบบงานยุติธรรมหายไปจาก
รัฐบาลปธน.คิม แดจุง ซึ่งดูเหมือนว่าฝ่ายอัยการจะทำงานรับใช้รัฐบาลนี้อย่างดี แต่ในช่วงท้ายของการดำรงตำแหน่งของปธน.คิม แดจุง ก็มีเรื่องเสื่อมเสียจากคดีสินบนของลูกชายตัวเอง
แต่ครั้งนี้การทำงานของอัยการไม่ได้เข้าข้างเขาอีกต่อไป จนเขาพ้นจากตำแหน่งในที่สุด - ในปี 2002 ในรัฐบาลของปธน.โร มู ฮยอน ด้วยภาพลักษณ์ของการเป็นนักปฏิรูปและเคยเป็นทนายด้านสิทธิมนุษยชนมาก่อน การใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้อง
ซึ่งส่งผลเสียต่อการเมืองในประเทศและทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในสังคม แนวคิดการปฏิรูประบบงานอัยการจึงกลับมาอีกครั้ง แต่แทบจะทันทีทันใด ฝ่ายอัยการก็เริ่มทำการสืบสวนเกี่ยวกับการใช้เงินทุนที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้งในการหาเสียงเลือกตั้งของปธน. ดังนั้นปธน.โร มู ฮยอน
จึงขอให้ฝ่ายอัยการทำการตรวจสอบการใช้เงินหาเสียงของทั้งฝ่ายตัวเองและฝ่ายค้านไปเลย
เพื่อความโปร่งใส รวมถึงออกมาประกาศว่าหากผลการตรวจสอบออกมาว่าฝ่ายพรรครัฐบาล
ใช้เงินที่ผิดกฎหมายการเลือกตั้งมากกว่าฝ่ายค้าน 1 ใน 10 จะยอมลาออก แม้ผลการตรวจสอบ
จะออกมาพรรครัฐบาลใช้น้อยกว่าพรรคฝ่ายค้าน 7 เท่า แต่ก็เข้าข่ายใช้เงินผิดกฎหมายเลือกตั้งทั้ง 2 พรรค ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ศึกงัดข้อกับฝ่ายอัยการของปธน.ในครั้งนี้ดูท่าทางจะเสียเปรียบตั้งแต่เริ่ม - หลังจากนั้นรัฐสภาได้มีการเสนอวาระถอดถอนปธน.โร มู ฮยอน ออกจากตำแหน่ง รวมไปถึงความขัดแย้งในพรรคเดิม ทำให้ต้องออกมาตั้งพรรคใหม่ แต่สุดท้ายก็กลับมาได้เสียงส่วนมาก
ในสภาอีกครั้ง ทำให้มติถอดถอนเป็นโมฆะ ปธน.โร มู ฮยอนก็กลับมาเสนอ การตั้งองค์กรสืบสวนเฉพาะสำหรับข้าราชการระดับสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ของอัยการอีกครั้ง
แต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนมากนักเพราะคนในพรรคถือว่านโยบายนี้ทำให้พรรคตกเป็นเป้า
ในการตรวจสอบของอัยการ จากการที่ผู้สนับสนุนของพรรคและสนับสนุนนโยบายนี้ถูกอัยการตรวจสอบและได้รับข้อหารับสินบนไป ทางฝ่ายค้านเองก็คัดค้าน โดยยกเหตุผลว่าหากองค์กรนี้
มีขึ้นจริงจะเป็นการให้อำนาจเบ็ดเสร็จแก่ปธน. เนื่องจากกำหนดให้องคกรขึ้นตรงต่อปธน. แม้ว่า-ข้อดีของการมีองค์กรนี้จะสามารถช่วยให้มีการตรวจสอบและคานอำนาจกันระหว่างองค์กรใหม่นี้และอัยการได้ แต่การคัดค้านนี้ก็ดูเป็นประโยชน์ต่อเกมการเมืองของฝ่ายค้านมากกว่า - ในที่สุดเมื่อถึงช่วงท้ายของวาระการดำรงตำแหน่งของปธน.โร มูฮยอน ข่าวฉาวเกี่ยวกับ
การทุจริตของหลานชายของปธน.ซึ่งเป็นคนในพรรคด้วยก็ปรากฏออกมา ทำให้ภาพลักษณ์
นักปฏิรูปเพื่อความโปร่งใสและความเชื่อใจต่อสาธารณชนของปธน.โร มูฮยอน ตกต่ำอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเรื่องการจัดตั้งองค์กรสืบสวนเฉพาะฯ ก็ถูกสภาตีตกไปด้วยเสียงไม่เห็นชอบ
ไปโดยปริยาย และแม้ว่าจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก็ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดปธน.โร มูฮยอน ตามมาอีกหลายคดี ถึงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองโดยตรง แต่ความอับอายนี้ก็ทำให้เขาจบชีวิตตัวเองด้วยการฆ่าตัวตายในปี 2009
ดูเหมือนว่าอำนาจของอัยการในเกาหลีใต้จะมีมากถึงขั้นมีอิทธิพลต่อการเมือง หรือแม้แต่ระดับผู้นำประเทศ รวมทั้งภาพลักษณ์ของอัยการนั้นก็ดูจะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ แต่ความเห็นต่อที่มีต่อ
การปฏิรูประบบงานอัยการก็มี 2 ด้านเช่นกัน ทั้งฝ่ายคัดค้านที่ไม่เห็นด้วยกับการตั้งองค์กรอิสระเฉพาะสำหรับสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับข้าราชระดับสูง ซึ่งอาจไม่ได้รวมถึงสภาชิกรัฐภา หรืออย่างที่เห็นๆกัน
ในบ้านเราว่าองค์กรอิสระก็อาจจะไม่ได้อิสระจริงๆอย่างที่ควรจะเป็น แต่ก็อาจมีข้อดีในการคานอำนาจและตรวจสอบระหว่างหน่วยงานที่มีอำนาจสืบสวน หากบทบาทของอัยการมีมากเกินไปและอาจส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมแบบนี้ ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าความพยายามในการปฏิรูปอีกครั้งของรัฐบาลปัจจุบันจะเป็นไปอย่างไร จะสำเร็จหรือไม่? เพราะการเมืองก็คือการเมือง ไม่มีมิตรแท้เละศัตรูถาวร สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
จริงๆสื่อบันเทิงเกาหลีมีเรื่องเกี่ยวกับอัยการ การทุจริตภายในระบบ
และการเมืองมาซักพักแล้ว
เช่น Inside Men (2015) , The King (2016) ที่หนังที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตภายใน หรือซีรี่ส์ Prosecutor Princess (2010) ที่ดูเหมือนเป็นซีรี่ส์เรื่องแรกๆที่พูดถึงอาชีพอัยการ ซึ่งในช่วงไม่นานนี้อาชีพอัยการในหนังหรือซีรี่ส์เกาหลีดูเป็นเหมือนจะค่อนข้างเป็นที่นิยมนำมาพูดถึง
โดยเฉพาะในปี 2017 ดูเหมือนจะมีซีรี่ส์ที่พูดถึงงานของอาชีพอัยการหลายเรื่องมากๆ ทั้งแนวสืบสวน แนวกฎหมาย บางเรื่องก็ผสมแฟนตาซี หรือเสนอแบบโรแมนติกคอมเมดี้ แต่ทั้งหมดนั้นสามารถ
ช่วยสร้างความสนใจให้กับหลายๆคน ทำให้ได้รู้จักอาชีพนี้มากขึ้น เมื่อคนดูมีความสนใจ แม้ว่าอาจจะดูเพราะแค่นางเอกน่ารักหรืออปป้าหล่อ แต่มันอาจช่วยเป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับเด็กๆหรือหลายๆคน
ในการรู้จักอาชีพนี้ หรืออาจจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจากให้แก่อาชีพนี้ด้วยตัวอย่างในซีรี่ส์ เพื่อทำให้เกิดค่านิยมใหม่ๆได้ด้วยเช่นกัน
ใน Secret Forest เองจากที่มานั่งค้นอ่านก็พอเข้าใจกับหลายๆอย่างที่ในเรื่องแทรกไว้มากขึ้น เช่น ตำแหน่งในช่วงตอนท้ายๆของซีรี่ส์ของอี ชางจุน หรือหลายประเด็นที่ใส่เข้ามา ดูคนเขียนบทตั้งใจที่จะอ้างอิงจากหลายเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
ข้อสังเกต
จากที่ไปตามหาอ่านมา มีเรื่องน่าสนใจอย่าง เช่น ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการเมืองในเกาหลีใต้
พึ่งมีปธน.ที่เป็นพลเรือนเมื่อ ปี 1992 ซึ่งก็แค่ 25 ปีมานี้เอง แต่ดูเหมือนหลังจากนั้นมาอิทธิพลทางการเมืองจากยุคทหารหลังสงครามก็เหมือนจะหายไปโดนสิ้นเชิงเลย (ดีใจด้วย) หรืออาจจะหมดgeneration
ไปแล้ว อะไรก็ตามแต่ แต่ก็ถือว่าดูมีพัฒนาการที่ดีมาก พร้อมๆกับในช่วงยุคที่เศรษฐกิจและสังคมเกาหลีก็เริ่มดีขึ้นด้วย หรือเรื่องการให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ที่ดีของนักการเมืองที่ดูเหมือนเป็นตัวตัดสินว่าจะได้อยู่หรือไป แม้ว่าเรื่องฉาวจะเป็นของคนอื่นที่อยู่ใกล้ตัวก็ส่งผลอย่างมากกับเจ้าของตำแหน่ง
เหมือนเป็นรอยด่างแล้วจะไม่มีใครลืม ซึ่งก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ลืมง่ายไปก็ไม่ดีใช่มั้ยล่ะ(เนอะ)
แต่ถึงจะเป็นประเทศที่ดูจริงจังและอ่อนไหวกับประเด็นศีลธรรมจรรยากับหน้าที่ อย่าง เกาหลี หรือ ญี่ปุ่น สุดท้ายก็ยังมีมุมมืดในเรื่องพวกนี้อยู่ดี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาล่ะ ถ้าใครทนอ่านจนจบก็ขอบพระคุณมากๆเลย จริงๆที่เขียนเพราะแค่อยากเรียบเรียง
ที่ไปหาอ่านมาให้มันเป็นระเบียบเท่านั้นเอง อ่านไปอ่านมาก็รู้สึกว่ามันก็สนุกดีเหมือนกัน ได้รู้เรื่องหลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน ถึงจะรู้สึกว่ามันไม่สามารถตอบข้อสงสัยเราได้ 100% แต่ก็รู้สึกว่าลดความสงสัยลงไปได้พอสมควรเหมือนกัน เขียนเสร็จก็ปีใหม่พอดี สวัสดีปีใหม่จ้า :D
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in