เนื่องจากตอนเตรียมสอบตั้งเป้าว่าถ้าผ่าน คะแนนเกิน 240 จะมาเขียนรีวิว สุดท้ายก็ได้คะแนนมา 254 ( 91: 84 : 79) เลยถึงเวลาต้องมาทำตามสัญญา 

HSK 5 คืออะไร ? 

HSK 5 คือข้อสอบภาษาจีนที่ผู้เข้าสอบจะต้องรู้ศัพท์ภาษาจีน 2500 คำ ซึ่ง 2500 คำก็ครอบคลุมการใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวันถึง 97.97%* แล้ว ดังนั้นผู้เข้าสอบที่ผ่านระดับนี้จะสามารถเข้าใจประโยคที่ซับซ้อนในภาษาจีนได้ ในความคิดเรา กะแบบง่ายๆ คึอเข้าใจ 书面语 และสามารถดูรายการทีวีภาษาจีนได้ คอนเฟิร์มนะว่าพอรู้ศัพท์ HSK 5 ดูทีวี ฟังข่าวภาษาจีนรู้เรื่องละ อาจจะไม่รู้ทุกคำแต่ว่าจับประเด็นได้ว่าเขาพูดอะไร 

* 开讲啦：全球共享一堂中文课 开讲啦：CCTV 全球共享一堂中文课_哔哩哔哩_bilibili ถ้ารู้ถึง 4000 ตัวจะครอบคลุมภาษาจีนที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั้งหมด 99.96% 

เดิมทีเราก็ว่ามันคงไม่ยาก เพราะตอนสอบ HSK 4 แล้วได้พาร์ทการอ่าน 100 เต็ม เรารู้สึกว่ามันหวานหมูมาก จนมาเจอ HSK 5 พาร์ทอ่านเข้าไปคือเป็นเครียด มาค่ะ ep. นี้จะมาเล่าวิธีการเตรียมตัวสอบให้ฟัง  

สิ่งที่ต้องมี  

1. ลิสต์คำศัพท์พร้อมประโยคตัวอย่าง เนื่องจากเราเรียนภาษาจีนโดยใช้ภาษาไทย ลิสต์ศัพท์เราจึงเลือกที่คำแปลเป็นภาษาไทย แต่ถ้าใครเรียนโดยใช้ภาษาอังกฤษแล้วชินกว่า ให้เลือกลิสต์ศัพท์ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ

ลิสต์ศัพท์ที่แปลเป็นไทยโหลดได้ที่นี่ค่ะ เครื่องมือช่วยเรียนภาษาจีน: แชร์คำศัพท์ HSK 4,5,6 คำแปลภาษาไทย พร้อม flashcard ช่วยท่องคำศัพท์ (zhongwen000.blogspot.com) ปริ้นท์ออกมาเลยนะ หรือถ้าชอบอ่านในไอแพดก็แล้วแต่ตามชอบ

2. หนังสือแบบฝึกหัดเล่มสีฟ้า เราใช้เล่มนี้เล่มเดียวเตรียมตัว เพราะเฉลยเป็นภาษาไทยและละเอียดมาก 

จริงๆ แล้วข้อสอบ HSK5 ไม่ได้ยากมาก แค่ต้องกลืนศัพท์เข้าไป 2500 ตัว จำศัพท์ได้ก็พอทำได้ จะไม่เหมือน HSK4 ที่จำศัพท์ได้ ทำได้แน่นอน เพราะ HSK5 นอกจากจะจำศัพท์ได้แล้ว ยังต้องรู้วิธีการใช้ศัพท์แต่ละคำอีกด้วย ศัพท์แต่ละตัว 搭配 ไม่เหมือนกัน นอกจากจะรู้ศัพท์แล้ว ต้องรู้ synonym antonym ของศัพท์นั้นด้วย วิธีการจำ syn. ant. ที่ดีคือวาดแผนผังแตกศัพท์ เราใช้วิธีจำศัพท์ให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปทำแบบฝึกหัด ไม่งั้นท้อมาก อ่านไม่รู้เรื่องเลย ฮืออ 

เริ่มที่การกลืนศัพท์ 2500 คำลงไปก่อน แทบจะต้มกินแทน เริ่มจากเราใช้วิธีติ๊กว่าศัพท์ไหนรู้แล้ว ศัพท์ไหนยังไม่รู้ ศัพท์ไหนยังไม่แม่น แบ่งหมวดหมู่ก่อน แล้วเอาศัพท์ที่ยังไม่แม่นและไม่รู้มาท่อง รวมถึงดูตัวอย่างประโยค หาคำตรงข้ามและคำเหมือนของมัน ใช้ทั้งวิธีเอากระดาษปิดความหมาย แล้วใช้สายตาไล่ท่อง รวมถึงใช้วิธีทำ Flash Card ส่วนตัวเราชอบ flash Card มากสุด เพราะข้างหน้าเป็นตัวจีน ถ้าไม่รู้ค่อยพลิกไปดูพินอินและคำแปลด้านหลัง อันนี้เราทำเฉพาะศัพท์ที่ไม่ได้จริงๆ ไม่ทำทุกคำ เพราะ 2500 คำคือทำไม่ไหว แล้วสุดท้าย พอคิดว่าแม่นศัพท์แล้ว ก็เอาศัพท์ทั้งหมด (เอาแต่ตัวจีน) ลง Microsoft Word จัดให้มันมีหลายคอลัมน์ใน 1 หน้า แล้วไล่ทีละตัวเลยว่าตัวไหนยังไม่ได้อีก แล้วก็ทำโน้ต+ไฮไลท์ศัพท์ที่ยังไม่ได้ไว้ สุดท้ายก่อนสอบ เรารู้ศัพท์แบบแม่นเป๊ะประมาณ 80% ของ 2500 คำ 

บน- Flash Card เฉพาะคำที่จำไม่ได้ซักที // ซ้าย-คำศัพท์ทั้งหมดแบบไม่มีคำแปล เอามาไล่ดูอีกทีว่ามีคำไหนที่ยังม่ได้ // ขวา-词语辨析 จดความต่างของคำศัพท์ที่คล้ายกันอย่างละเอียด

ช่วงที่เร่มจำศัพท์ได้ลางๆ เราเริ่มฝึกทำข้อสอบจำลองไปในตัว พาร์ทฟังเราไม่มีปัญหา เว้นแต่สติจะหลุดฟังไม่ทัน พอดีเทอมแรก อาจารย์ให้เราทำข้อสอบพาร์ทฟังมาทั้งเทอม พาร์ทฟังเลยไม่ใช่ปัญหาของเรา เทคนิคของพาร์ทฟังคือต้องอ่านคำถามก่อนฟังเทป ทำข้อ 1 เสร็จ สายตาต้องไปที่ข้อ 2 แล้ว ต้องเดาให้ได้ว่าเขาจะถามอะไร แล้วเก็บข้อมูลจากสิ่งที่บทสนทนาพูดออกมา พาร์ทฟังตอนท้ายที่ให้ฟังเรื่องสั้น สำหรับเราถือว่าไม่ง่าย เพราะฟัง 1 เรื่องต้องตอบ 3-4 คำถาม บางทีมันอ่านคำถามไม่ทัน ดังนั้น 20 ข้อแรกของพาร์ทฟังคือพาร์ทที่ต้องพยายามเก็บเต็มให้ได้ 

พาร์ทอ่าน สำหรับเราพาร์ทนี้ยากสุด เพราะอ่านไม่ทัน เรียกได้ว่าอ่านจนล้า พาร์ทอ่านอันแรก ต้องเข้าใจเรื่องและรู้ว่าแต่ละช้อยส์ต่างกันยังไงถึงจะตอบได้ พาร์ทอ่านอันที่ 2 ถึงจะเป็นบทความสั้นแต่ว่าถ้าอ่านไม่รู้เรื่องก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน และพาร์ทอ่านพาร์ทสุดท้าย เป็นบทความยาว อ่านแล้วต้องตอบหลายคำถาม เราใช้วิธีอ่านคำถามก่อน แล้วค่อยมาอ่านเรื่อง บางทีเรื่องไม่ได้ยากมาก แต่อ่านจนล้าแล้ว ก็ทำให้ประมาทตอบผิดได้ พาร์ทอ่านของ HSK 5 ไม่ได้มีแค่ศัพท์ HSK 5 มีหลุดศัพท์ระดับ 6 เข้ามานิดหน่อย แต่ไม่เยอะ ดังนั้นถ้าจำศัพท์ได้แบบเห็นปุ๊บรู้ว่าแปลว่าอะไรก็จะช่วยได้เยอะ แต่ก็ต้องเข้าใจโครงสร้างภาษา 书面语 ด้วย 

พาร์ทเขียน อันแรกคือเรียงประโยค อันนี้วัดเรื่องไวยากรณ์เราเป็นหลัก พยายามเก็บให้เต็ม อีก 2 ข้อจะต้องเขียนเรื่อง ข้อแรกมีการกำหนดคำมาให้ ให้แต่งเรื่องจากคำที่กำหนด ข้อที่สองมีรูปภาพมาให้ ให้เขียนออกมาเป็นเรื่อง ทั้ง 2 ข้อต้องเขียนขั้นต่ำข้อละ 80 ตัว อาจารย์เราบอกว่าวิธีทำคะแนนพาร์ทเขียน ก่อนอื่นเลยคือต้องเขียนขั้นต่ำ 80 ตัว (เครื่องหมายวรรคตอนนับเป็น 1 ตัวอักษร) เขียนต่ำกว่านี้ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนเต็ม ต่อมา ห้ามเขียนเกิน 112 ตัว เพราะเค้าให้ช่องมาแค่นี้ ถ้าสอบแบบคอมพ์ก็อย่าเกินเหมือนกัน ในคอมพ์ไม่มีฟังก์ชั่นนับจำนวนตัวอักษร เขียนแล้วต้องคอยนับเอง ต่อมาสำหรับข้อแรกต้องใช้ให้ครบทุกคำ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางได้คะแนนเต็ม ซึ่งถ้าศัพท์ที่ได้มาเราไม่รู้ความหมาย ก็ยากที่เราจะแต่งประโยคได้ถูกต้อง ต่อมาคือเนื้อเรื่องต้องเป็นเรื่องราว ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร ถ้าเรื่องไม่สอดคล้องกัน และสุดท้ายคือภาษา ศัพท์ที่ใช้ ควรใช้สำนวน 书面语 ถ้าใช้สำนวน 口语 ก็ยากที่จะได้คะแนนสูง ซึ่งเราว่าข้อสุดท้ายยากนะ เราเองยังติดสำนวน 口语 อยู่ พาร์ทนี้คะนนออกมาเลยไม่ถึง 80 

รีวิวสอบบอนไลน์ที่บ้าน （居家网考）

เราไปสอบที่จีน เป็นการสอบออนไลน์ที่บ้าน （居家网考）ค่าสอบ 950 หยวน ค่าส่งผลสอบ 60 หยวน บวกค่าธรรมเนียมชำระเงินอีก 8.10 หยวน รวม 1018.10 หยวน เป็นลม แพงชิบหายยยย แพงมากกกก สอบที่ไทยเถอะค่ะ ถูกกว่าประมาณครึ่งนึงเลย 

สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการสอบออนไลน์ที่บ้าน 

1. คอมพิวเตอร์ทีมีระบบปฏิบัติการ windows 10 (เราใช้ windows 11 แต่สุดท้ายไม่มีปัญหาอะไร) 

2. หูฟังแบบมีสาย ห้ามใช้หูฟังไร้สาย  

3. เมาส์ไร้สายแบบ usb ใช้ได้ แต่อุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ อาจารย์คุมสอบไม่แนะนำ เพราะโปรแกรมจะ detect ได้ และอาจทำให้การสอบมีปัญหา

4. มือถือหรือไอแพดพร้อมจัดมุมกล้องให้เห็นผู้เข้าสอบและมือผู้เข้าสอบว่าวางบนโต๊ะ ซึ่งบนโต๊ะห้ามมีของอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการสอบ น้ำ ขนม ยาดมก็ไม่ได้ อาจารย์คุมสอบให้เราย้ายของออก 

5. ตามกฎการสอบ ห้ามมีคนอยู่ในห้อง แล้วเราสอบในหอซึ่งมีรูมเมท เราเลยไปขออาอี๋ที่หอให้เปิดห้องว่างให้เราสอบ ซึ่งอาอี๋ก็ช่วยเหลือดี ซาบซึ้งใจเหลือเกิน เพราะไม่งั้นต้องไล่พี่เมทออกจากห้องชั่วคราวเพื่อสอบ

6. Wi-Fi ไม่แนะนำให้แชร์เน็ตจากมือถือไปใช้สอบ มันไม่น่าจะแรงพอ เป็นบุญมากที่วันที่สอบ Wi-Fi หอไหลลื่นสุดๆ 

ก่อนสอบจะมีอีเมลล์ส่งมาจากศูนย์สอบให้เราโหลดโปรแกรมสอบและเข้ากลุ่มวีแชทที่อาจารย์จะไว้แจ้งเกี่ยวกับการสอบ แล้วก็จะมีวันที่ทดสอบการใช้ระบบซึ่งเราต้องเข้าไปเพื่อเรียนรู้วิธีการใช้ระบบ และทดสอบว่าคอมพ์เรามีปัญหาระหว่างสอบมั้ย ถ้าวันจริงเกิดปัญหาในการสอบ โดยมาจากคอมพิวเตอร์เราเอง เช่น คอมพิวเตอร์ไม่อ่านโปรแกรม ศูนย์สอบจะไม่รับผิดและไม่ให้สอบใหม่ ถ้าต้องสอบแบบนี้จริงๆ เราแนะนำให้อ่านกฎ ข้อกำหนดการสอบหลายๆ รอบ อ่านละเอียดๆ เลย เพื่อที่จะได้ไม่พลาดอะไรทั้งนั้น แน่นอนว่าในกลุ่มวีแชทก็จะมีคนถามคำถามที่ได้เขียนไว้แล้วในข้อกำหนดการสอบ 55555 

รีวิวระบบการสอบที่บ้าน  

พาร์ทฟัง เปิดข้อสอบปุ๊บ เริ่มเลยจ้าา รีบกวาดสายตาไปที่คำถามเลยตั้งแต่ตอนที่เขายัง 欢迎参加 HSK 5级考试 พอได้คำตอบแล้วเลือกเสร็จเราจะสามารถกดไปอ่านคำถามข้อถัดไปได้เลย ข้อดีของพาร์ทฟังสำหรับรูปแบบการสอบแบบนี้คือเวลาที่่พาร์ทฟังมี 3-4 คำถาม เขาจะรวมคำถามไว้หน้าเดียวเลย เรา scroll จอเอาได้เลย ไม่ต้องกดเปลี่ยนหน้า 

พาร์ทอ่านก็เหมือนกัน บทความและคำถาม 4-5 ข้อจะอยู่หน้าเดียวกันทั้งหมด 

พาร์ทเขียน ต้องลง sogou keyboard เพื่อพิมพ์คำตอบ พิมพ์เหมือนพิมพ์ปกติเลย แต่ว่าข้อเสียคือนางไม่มีฟังก์ชันนับจำนวนคำว่าพิมพ์ไปแล้วกี่ตัว สมมติแต่งเรื่องเพลิน 300 ตัวก็ไม่มีอะไรมาหยุดยั้ง 

ทั้งนี้ เราจะไม่สามารถกดข้ามพาร์ทได้ เช่น ทำพาร์ทฟังข้อสุดท้ายเสร็จละ ตอบเสร็จแล้วจะขอเปิดไปทำพาร์ทอ่านเลย แต่พาร์ทฟังยังไม่หมดเวลา เพราะเขาจะมีเวลาให้เราเช็คคำตอบ เราก็ต้องรอจนมันหมดเวลาพาร์ทฟัง ถึงจะขยับไปทำข้อสอบพาร์ทอ่านได้ 

สำหรับเรา การสอบผ่านคอมพิวเตอร์สะดวกมาก โดยเฉพาะพาร์ทเขียน เราจำตัวจีนไม่ได้ การที่พิมพ์คำตอบได้มันช่วยได้เยอะ ไม่งั้นโดนหักคะแนนเพราะเขียนขีดขาดๆ เกินๆ แน่นอน นอกจากนี้การสอบแบบที่บ้านยังประหยัดเวลาเดินทางไปอีก สะดวกมาก แต่ต้องแลกมากับการแก้ปัญหาด้วยตัวเองประมาณนึงเลย ถ้าใครอยากเน้นสะดวก ไปสอบที่ศูนย์สอบดีกว่า 

แถม เนื่องจากการสอบแบบออนไลน์ที่บ้าน จะโดนบังคับให้สอบ HSKK 高级 ด้วย ก็รีวิวไปด้วยเลยละกัน 

HSKK คืออะไร ? 

HSKK คือการสอบพูด ซึ่งถ้าสอบ HSK แบบออนไลน์ที่บ้านจะถูกบังคับสอบ HSKK ไปในตัว 

สำหรับคนที่สอบ HSK 3 /4 จะโดนบังคับสอบ HSKK 中级 แต่ถ้าสอบ HSK 5/6 จะโดนบังคับสอบ HSKK 高级 

HSKK 高级 คืออะไร ? 

เป็นการสอบ HSKK ระดับสูงสุด ครอบคลุมศัพท์ภาษาจีน 3000 ตัว คะแนนสอบเต็ม 100 คะแนน ข้อสอบแบ่งเป็น 3 พาร์ท ประกอบด้วย

1. ฟังแล้วพูดตาม 

2. 朗读 อ่านออกเสียงและใส่ฟีลลิ่ง

3. ตอบคำถาม 

ถ้าถามว่าพาร์ทไหนง่ายสุด ตอบเลยว่าไม่มี 5555555 คือเรารู้ศัพท์ฺแค่ 2500 ตัว แต่ HSKK 高级 ครอบคลุมศัพท์ 3000 ตัว อีก 500 ตัวคือเราต้องเดาจากบริบทละแหละ จะให้มูฟไปท่องศัพท์ HSK 6 ที่มีถึง 5000 ตัวก็ไม่ไหวอะ  

มาเจาะลึกกันทีละพาร์ทดีกว่า 

พาร์ทที่ 1 ฟังแล้วพูดตาม คือเราจะได้ฟังเทปบทสนทนา หรือเรื่องเล่าความยาวไม่เกิน 1 นาที หลังจากนั้นต้องพูดทันทีว่าเมื่อกี้เราฟังอะไร ไม่ใช่ให้พูดตามเป๊ะ แต่เราต้องเข้าใจเรื่อง แล้วสรุปความออกมาว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร ดังนั้น ถ้าไม่เข้าใจเรื่อง จบค่าาา เราว่าพาร์ทนี้ยากสุด พาร์ทนี้มี 3 ข้อ เราไม่เคยทำได้ทั้ง 3 ข้อ 

พาร์ทที่ 2 อ่านออกเสียงและใส่ฟีลลิ่งตามเนื้อหาบทความ เหมือนจะง่าย แต่ไม่ง่าย เพราะจะมีศัพท์ที่เราไม่รู้ปนมา ก็ต้องเดาเอาอะ 

พาร์ทที่ 3 ตอบคำถาม อยู่ที่ดวงว่าจะได้คำถามยากหรือง่าย ตัวอย่างคำถาม เช่น ความฝันของคุณคืออะไร ถ้าให้เลือกระหว่างงานที่ก้าวหน้า มีโอกาสเติบโต กับงานที่รายได้สูงจะเลือกอะไร เป็นคำถาม abstract อะ แต่ถ้าได้คำถามง่ายจะเป็น คุณชอบประเพณีจีนไหนมากที่สุด แนะนำให้ตอบ 春节 เพราะง่าย 5555 โม้ไปเลย แจกอั่งเปา แปะกระดาษหน้าบ้าน บลาๆ 

รีวิวระบบการสอบที่บ้าน

สุดท้าย คะแนน HSKK ของเราได้ 64/100 น้อยมากก แต่ก็ผ่านนะ ไว้สะสมศัพท์ถึง HSK 6 ได้ค่อยไปสอบใหม่