ในวันที่ก้อนเมฆสีเหมือนก้อนสายไหม
วันที่โรงยิมอากาศร้อนเหมือนเตาอบ
วันที่เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นโรงยิมบรรเลงเป็นทำนองเพลงสรรเสริญผู้ชนะ
วันที่รสชาติของหยาดเหงื่อขมปร่าเหมือนความพ่ายแพ้
และวันที่ออกซิเจนที่โตเกียวกลิ่นเหมือนความอึดอัด
วันนั้น เป็นวันที่ผมได้พบคุณ
...
หน้าร้อนที่ผมยังไม่เคยพบคุณ
ผมชอบวอลเลย์บอล
มันเป็นกีฬาที่เชื่อมผมกับพี่ชายเข้าไว้ด้วยกัน
และผมเกลียดวอลเลย์บอล
ที่มันทำร้าย และทำลายหัวใจอันสวยงามของเขา
พี่ชายผมต้องเจ็บปวด เพราะทุ่มเทมากจนเกินไป
ผมไม่ต้องการเจ็บปวดเช่นเขา
ผมจึงเผื่อใจ และเลือกจะไม่พยายาม
เผื่อวันหนึ่ง วันที่ผมไม่ถูกเลือกลงสนาม
ผมจะได้ไม่เสียใจ เหมือนที่เขาเคยเสียใจ
...
หน้าร้อนนั้น ผมได้พบคุณ
คุณอาจหาญปรากฏตัวเข้ามาในชีวิตของผม
เดินเข้ามาวนเวียนอยู่ในนั้น กับเพื่อนอีกสองคน
ประดับยศให้ตัวเองเป็นครู เป็นรุ่นพี่
จารึกข้อความที่ทำให้ผมสงสัย
อยากรู้จริงนะ ว่าไอ้ช่วงเวลาที่จะทำให้เราตกหลุมรักวอลเลย์บอลนี่มันเป็นยังไง
อยากรู้ อยากสัมผัสความรู้สึกนั้นจริง ๆ
...
หน้าร้อนนั้น คุณและผม เรายังเด็ก
ไร้เดียงสาเกินกว่าจะเข้าใจความหมายของความรัก
เต็มไปด้วยความฝันเกินกว่าจะมองเห็นกันและกัน
สนุกกับวอลเลย์บอลเกินกว่าจะหยุดเวลาเอาไว้ที่ใครสักคนได้
เราใช้ชีวิตอย่างที่เด็กมัธยมปลายสองคนพึงจะได้ใช้
เรามีความสุขอย่างที่เราทั้งคู่พึงจะได้รับ
หน้าร้อนนั้น คุณและผมต่างมีตัวตนในชีวิตของกันและกันโดยสมบูรณ์แล้ว
ณ ตอนนั้น มันดีมากแล้วจริง ๆ
...
หน้าร้อนนี้ กลุ่มเมฆบนฟ้าเคลื่อนตัวเหมือนยานอวกาศ
โรงยิมยังคงร้อนเหมือนเตาอบ แต่ก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่
เสียงรองเท้าที่กระทบพื้นโรงยิมบรรเลงเป็นทำนองเพลงที่ผมชอบ
รสชาติของหยาดเหงื่อไม่ต่างจากเครื่องดื่มเกลือแร่ในขวดมากนัก
และกลิ่นของออกซิเจนที่เซนไดก็หวานเหมือนครีมสดบนหน้าเค้ก
คำตอบของคำถามที่มาจากคุณ จากอีกฝั่งของเนท ยังเหมือนเดิม
ผมยังคงชอบวอลเลย์บอล
ยังสนุกบ้างเป็นบางครั้งที่ได้เล่น
แต่นอกจากนั้น
ผมคิดว่า ผมคงจะชอบคุณด้วย
เพราะทุกครั้งที่หน้าร้อนมาถึง
ผมมักจะหวนนึกไปถึงหน้าร้อนนั้น
หน้าร้อนที่ผมได้พบกับคุณ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in