เราไม่รู้ว่าจะสามารถหาดูเรื่องนี้ได้จากที่อื่นที่ไม่ใช่ Netflix ได้อีกไหม แต่ถ้าถามว่าเป็นหนังที่น่าไปหามาดูแค่ไหน ก็ควรอย่างมาก เป็นหนังที่ครบรส ไม่มากไปไม่น้อยไป และสื่อถึงสัจธรรมของชีวิตในมุมมองของความตลกร้าย ไม่มีตอนไหนที่ดูละน่าเบื่อจนอยากจะหลับ ถึงจะเป็นตอนที่เงียบที่สุดก็ตาม
ควรรู้อะไรบ้างก่อนจะดู The Ballad of Buster Scruggs
1. เรื่องนี้กำกับโดยสองพี่น้อง Coen (โคเอน) ที่เคยฝากผลงานกำกับในหนังออสการ์เรื่อง No Country for Old Men
2. ก่อนที่ The Ballad of Buster Scruggs จะเป็นหนังเรื่องนึงได้นั้น ก่อนหน้านี้เคยมีแพลนว่าจะทำเป็นซีรีส์ด้วย
3. ภายในหนังจะประกอบด้วยตอนสั้นๆ 6 ตอนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงใดและทั้งหมดจะ Set place แดนตะวันตกผ่านการเล่าเรื่องโดยใช้แต่ละบทในหนังสือเป็นตัวเกริ่นก่อนเข้าสู่เรื่องย่อย
4. ก่อนที่จะดูควรทำจิตใจให้สงบ เพื่อการเข้าถึงอารมณ์ได้ดีในแต่ละตอน
https://dvdclip.com/the-ballad-of-the-buster-scruggs-all-6-endings-explained/
Spoiler Alert!! with Review
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู The Ballad ก็ขอให้ผ่านไป ส่วนคนไหนที่ดูแล้วก็คงจะมีความชอบที่แตกต่างกัน ส่วนตัวเราชอบตอนที่ 3 Meal Ticket ,มากที่สุด เป็นเรื่องที่สื่ออารมณ์ได้ดีเยี่ยมและยังเล่นกับความรู้สึกของคนดูตลอดทั้งเรื่อง ต้องชมว่าแฮรี่ เมลลิ่งที่ได้รับบทเป็นคนพิการแขนด้วนขาด้วยเล่นได้ดีเยี่ยม ด้วยความที่ถูกจำกัดท่าทางในการแสดงไว้เหลือแต่สีหน้า สายตาและโทนเสียงเท่านั้นที่จะบอกว่าตัวละครรู้สึกนึกคิดเช่นไร ซึ่งก็แสดงได้เลิศมากมีเสน่ห์อย่างที่สุด คิดว่าเรืื่องพิการจะหดหู่สุดๆแล้วยังมีเรื่องให้เราได้หดหู่อีกแน่ จนมันสามารถทำให้เราลืมบทบาทการเล่นเป็นเด็กเกเรดัดลีย์ ในเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ไปได้เลย
http://www.lovedesigner.net/the-ballad-of-buster-scruggs/
อีกเรื่องที่เราชอบไม่แพ้กันคือตอนที่ 4, All Gold Canyon เป็นเรื่องของชายแก่ที่มุ่งมั่นกับการขุดทองท่ามกลางลำน้ำและธรรมชาติที่รายล้อม ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถทำให้ตอนที่ดูเหมือนจะน่าเบื่อที่สุดกลับเป็นตอนที่ดูแล้วสนุกที่สุดได้ เป็นการดูหนังที่เพลิดเพลินมาก แถมได้ลุ้นเอาใจช่วยแกว่าจะเจอทองจริงๆไหม ไหนจะหักมุมให้ได้ใจหายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก ถือว่าเป็นตอนนึงที่น่าจดจำสำหรับเราจริงๆ
https://www.miaminewtimes.com
ถ้าใครชอบฝีมือการกำกับของพี่น้องโคเอนหรือชอบหนังแนวนี้ ถ้าไม่ได้ดูเราว่าก็คงจะน่าเสียดายเอามาก เป็นหนังความยาวสองชั่วโมงที่กลับสั้นเกินไปในความรู้สึกของเรา ถ้าได้ดูคงจะเป็นหนังที่ขึ้นแท่นหนังโปรดปี 2018 สำหรับใครหลายๆคนจริงๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in