ทุกคนจ๊ะ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาทำความรู้จักกับครอบครัวเชื้อสายกรีกอย่างครอบครัวพอร์โตคาลอส (Portokalos) ที่มีสมาชิกในครอบครัวเกือบ 20 คน (นี่ยังไม่นับรวมญาติๆที่ย้ายไปอยู่ที่อื่น) อยู่บ้านหลังติดๆกัน เจี้ยวจ๊าว ขี้โวยวาย เอะอะเสียงดัง (เมื่ออยู่รวมตัวกัน) แทบจะทำกิจกรรมทุกอย่างกับครอบครัวตลอดเวลา ไปไหนไปกันเป็นแก๊งค์และที่สำคัญทุกคนเคารพยึดมั่นในขนบธรรมเนียมของกรีกถึงที่สุด ดูไปดูมาเหมือนจะไม่ต่างอะไรจากครอบครัวใหญ่ทั่วไป งั้นเรามาลองเขยิบเข้าไปสัมผัสความเป็นพอร์โตคาลอสให้มากขึ้นอีกนิดนึงดีไหม
ภาค 1 จะเป็นครั้งแรกที่เราได้ทำความรู้จักกับ ทูล่า (Toula) หญิงวัย 30 ปีที่สามารถใช้คำว่าทึกทึนได้อย่างไม่ต้องคิดเลย ทูล่ายังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ และพี่ป้าน้าอาที่อยู่ในละแวกบ้านเดียวกันเกือบทั้งตระกูล ชีวิตวันๆหมดไปกับการทำงานเป็นสาวเสิร์ฟที่ร้านอาหารของครอบครัว ที่ส่วนมากก็จะมีแต่คนในตระกูลแวะเวียนกันเข้ามานั่งจับกลุ่มคุย กัส (Gus) พ่อของทูล่าเป็นพวกกรีกหัวโบราณ ชอบท้าให้ลูกหลานพูดคำอังกฤษมาคำนึงแล้วตัวเองจะบอกถึงรากศัพท์ที่มาจากกรีก กัสยังคงถือคติผู้หญิงไม่ต้องเรียนสูง แค่ทำเรื่องในบ้านให้ดีก็พอ และมีความเชื่อแปลกประหลาดว่าน้ำยาเช็ดกระจก windex เป็นยาวิเศษสุดในโลกจะบาดแผลเปิด ถลอก โดนลวกหรือสิวขึ้นก็รักษาได้หมด ส่วนมาเรีย (Maria) แม่ของทูล่าก็ไม่ค่อยจะขัดกัสเท่าไหร่ เรียกว่าให้ท้ายเลยจะดีกว่า
ชีวิตของทูล่าภายใต้พ่อแม่ดำเนินไปอย่างน่าเบื่อจนพบกับ เอียน (Ian) ครูหนุ่มสุดหล่อ ในตอนที่เอียนมากินอาหารที่ร้านของครอบครัว การได้เจอเอียนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ทูล่าตัดสินใจขอพ่อไปเรียนคอมพิวเตอร์ หาเสื้อผ้าแฟชั่นมาใส่ เลิกใส่แว่นตาหนาๆและยังขอไปทำงานเอเจนซี่ท่องเที่ยวของป้าวัวล่าอีกด้วย แล้วทูล่ากับเอียนก็ได้พบกันอีกครั้งที่ออฟฟิสของทูล่า จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเดทกันแบบลับๆ แต่เหมือนความรักของหนุ่มสาวคู่นี้จะไม่เรียบลื่นเหมือนที่อยากให้เป็น เมื่อครอบครัวพบว่าแฟนคนนี้ของทูล่าไม่มีเชื้อกรีกเลย หนำซ้ำยังเป็นพวกมังสวิรัติอีกต่างหาก!
ภาค 2 เราจะได้รู้จักกับสมาชิกใหม่อย่าง ปารีส (Paris) ลูกสาวของทูล่ากับเอียน เป็นเรื่องราวในอีก 17 ปีต่อมา ชีวิตของทูล่ากับครอบครัวแบบกรีกยังคงวุ่นวายเหมือนเดิม แถมยิ่งมีเรื่องให้วุ่นหนักไม่เว้นแต่ละวัน กัสที่พยายามหารากเหง้าต้นตระกูลของตัวเองจากอินเทอร์เน็ต ว่าจริงๆแล้วตระกูลพอร์โตคาลอสสืบเชื้อสายจากพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชจริงแท้หรือมั่วนิ่ม ยังไม่จบแค่นี้กัสเองยังไปเจอเรื่องให้ตกใจยิ่งกว่าเดิมว่า จริงๆแล้วการแต่งงานตลอด 50 ปีที่ผ่านมาระหว่างเขากับมาเรียไม่ถูกต้องตามกฏหมายทั้งหมดเป็นโมฆะ กัสจำเป็นต้องขอมาเรียแต่งงานด้วยอีกรอบเพื่อทำให้ทุกอย่างถูกต้องให้ได้ ส่วนทูล่ากับเอียนก็เผชิญปัญหาที่แม่ๆพ่อๆทุกคนต้องเคยประสบ เมื่อลูกสาวอย่างปารีสต้องการไปเรียนมหาลัยฯในนิวยอร์กแทนที่จะเรียนมหาลัยฯใกล้ๆบ้าน เหตุผลเดียวเลยคือปารีสอยากเอาตัวเองออกจากความวุ่นวายในครอบครัวที่ชอบอยู่กับเป็นกลุ่มใหญ่ เสียงดังไม่มีความเป็นส่วนตัว (รวมทั้งไม่รู้จักความเกรงใจ) ใดๆทั้งสิ้น ภาคแรกเป็นงานแต่งงานของทูล่ากับเอียน ส่วนภาคนี้ก็จะเป็นงานแต่งของกัสกับมาเรียแทน (และมีฉากความรักของรุ่นหลานโผล่มาแจมบ้างนิดๆ)
ความสนุกของการได้ดู My Big Fat Greek Wedding คืออะไรรู้ไหม? คือการได้หัวเราะไปกับมุกตลกแบบซิทคอมดั้งเดิม ได้เห็นความอลหม่านแบบฉบับครอบครัวพอร์โตคาลอส คือเราไม่รู้หรอกว่าครอบครัวกรีกจริงๆแล้ว จะมีนิสัยวุ่นวายแบบครอบครัวนี้รึป่าวนะ แต่มันทำให้เราหัวเราะออกมาได้จริงๆ ไม่ใช่แค่หัวเราะหึๆในใจ เราหัวเราะแบบดังๆออกมาจากใจเลย! หนังจะมีมุกทะลึ่งๆอยู่ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ได้ขนาดรับไม่ได้ จะเป็นทะลึ่งแนวครอบครัวมากกว่า แล้วก็จะมีมุกที่เราขำตลอดคือเวลากัสใช้ Windex คือมันตลกมากจริงๆ เป็นหนังแนว Romantic-Comedy ที่ทำให้เราอยากจะกลับไปดูซ้ำๆ แล้วก็สามารถขำให้กับมุกเดิมๆได้ตลอดอยู่ดี
ส่วนตัวเราชอบภาค 1 มากกว่าภาคที่ 2 แม้ว่าภาพในหนังจะดูเก่า ด้วยสถานที่หรือคอสตูมแต่ว่ามุกเกี่ยวกับครอบครัวไม่เก่าเลยสำหรับเรา ใครที่เป็นแฟนหนังรอมคอมก็น่าจะเคยดู ส่วนใครที่ไม่ใช่แฟนแต่ตอนนี้แค่อยากหาหนังตลกดูเพลินๆไม่คิดไรมากก็จะแนะนำหนังสองภาคนี้เลย เอ้าไปหาดูเล้ย!
Remark: หากมีคำใดสะกดผิดหรือข้อมูลผิดพลาดขออภัยไว้ล่วงหน้า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in