เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รวมบทสัมภาษณ์ของหวังจุนไค TFBOYStfboys_rinda
หวังจุนไคกับนิตยสาร BAZAAR 2017 (งานวันเกิด)
  • แปลจาก:นิตยสาร BAZAAR ฉบับเดือนกันยายน2017

    แปลโดย:tfboys_rinda

    เรียบเรียงโดย:t0y_ting

    หวังจุนไคกับปกคู่ของนิตยสาร BAZAAR ฉบับเดือนกันยายน 2017
         
         ก่อนอื่นเลยขออวดรูปของหวังจุนไคกับการถ่ายนิตยสารบาซ่าร์นี้สักหน่อยหล่อไม่หล่อ เท่ห์ไม่เทห์แล้วแต่คุณจะคิดแล้วกันนะคะ แต่ยังไงก็จะขอสัก 5-6 รูปแล้วกันน้อ



    การบอกลาและการเดินทาง


    การบอกลาและการเดินทาง:บนเส้นทางชีวิตต้องเดินด้วยตัวเองถึงจะมีความหมาย


    การบอกลาและการเดินทาง

    >มีหลายคนถามผมว่า อายุครบ 18 ปีแล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง? คิดอะไรอยู่? แต่ด้วยความที่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบเกาเข่าหลังจากสอบเสร็จก็ต่อด้วยงาน เลยไม่ได้มีเวลามาคิดถึงคำตอบของคำถามเหล่านี้  ในวันที่ถ่ายนิตยสาร เขาบอกให้ผมเขียนบทความ 18 ปีของตัวเอง  เมื่อลงมือเขียนอย่างจริงจังก็พบว่ามีคำถามมากมายโผล่ออกมา : ผมในตอนนี้เป็นแบบไหน? ผมอยากจะเป็นคนยังไง?

    >หวนคิดถึงอดีต เหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง  ตอนที่เข้าบริษัท ผมอายุแค่ 10 ขวบ ยังไม่ทันจะได้ปรับตัว เพื่อนๆ ก็ค่อยๆ ทยอยจากไปมีแต่ความรู้สึกสูญเสีย พอได้เดบิวต์ตอนอายุ 14 ในเวลานั้นผมเองยังไม่ค่อยประสา รู้แค่เพียงว่าชอบร้องเพลง ถ้าเดบิวต์ก็จะมีโอกาสร้องเพลงให้ทุกคนได้ฟังมากขึ้น  เรื่องในอนาคตไม่เคยคิดสักนิด  จนตอนนี้ผมยืนอยู่ตรงจุดนี้ มีแต่ต้องพยายามต่อไปจากเริ่มแรกที่ไม่รู้อะไรเลยก็เริ่มที่จะเรียนรู้ โชคดีจริงๆ ที่ผมบังเอิญได้ทำให้สิ่งที่ชอบตั้งแต่เด็กๆประสบการณ์มหัศจรรย์นั้นเป็นของขวัญสุดพิเศษที่สุดในชีวิต

    >อีกไม่นานผมก็จะ 18 แล้ว กับการได้บรรลุนิติภาวะเป็นสิ่งที่ผมเฝ้ารอ  ตอนยังเด็ก ผมมักจินตนาการว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้างถ้าโตผู้ใหญ่ราวกับเป็นพิธีกรรมอย่างนึงเลย พอข้ามผ่านวันนี้ไปก็ต้องบอกลากับวัยเด็กของตัวเองและเริ่มออกไปเผชิญกับโลกแห่งผู้ใหญ่

    >ตอนยังเด็ก พวกเราต้องทำงานตามตารางที่พ่อแม่และบริษัทกำหนดทำงานตามที่พวกผู้ใหญ่บอกให้ทำ แต่ผมชอบงานพวกนั้นรึเปล่านะ? ผมมีความสุขรึเปล่า? มันมีความหมายบ้างไหม?ได้แต่สงสัย ชีวิตของคนเราคือการแสดงสด ไม่ใช่เหมือนการร้องเพลงในห้องอัด ที่จะสามารถอัดเสียงกี่ครั้งก็ได้จนกว่าจะพอใจเป็นการแสดงสดที่มีโอกาสครั้งเดียว แสดงเสร็จแล้วก็จบ กับอนาคตข้างหน้าผมคิดว่าอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ร้องเพลงที่อยากร้อง แสดงบทบาทที่อยากแสดง อยากจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเพื่อที่จะกลายเป็นหวังจุนไคผู้มีทัศนคติและไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง

    >บางทีตอนนี้ผมอาจยังไม่บรรลุนิติภาวะ ไม่เป็นไร บนเส้นทางชีวิตต้องเดินด้วยตัวเองถึงจะมีความหมายจริงไหมครับ?

    หวังจุนไค

    ..........

         เมื่อหวังจุนไคได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการบอลาและการเดินทางของตัวเองแล้วนั้นตอนนี้เรามาดูเหล่าเพื่อนๆ อ้อ!ไม่ใช่สิต้องบอกว่าเหล่าลุงๆพี่ๆเกาเหนิง (GiveMe Five) ซึ่งเป็นรายการที่หวังจุนไคได้ไปร่วมงานด้วย  GiveMe Five ,อวยพรกันดีกว่าน้อว่าแต่ละคนจะมีการอวยพรยังไงกันบ้าง ตามเลยนะคะ

    ..........

         คนแรกกับผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นม่าม๊า  (คุณแม่) ของหวังจุนไคในระหว่างการอัดรายการนี้ก็คือ จางอี้ซาน เหตุผลง่ายๆก็เพราะช่วงที่อยู่ในระหว่างการอัดรายการนั้นด้วยความที่น้องเป็นน้องเล็กสุดในผู้ร่วมดำเนินรายการเลยทำให้เป็นที่รักและเอ็นดูของเหล่าพี่และจำได้ว่ามีอีพีหนึ่งที่ระหว่างอัดรายการอยู่นั้นน้องเกิดอาการหน้ามืดเพราะน้องมีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือ“โรคความดันต่ำ” (ซึ่งเป็นโรคเป็นภาวะความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงต่ำกว่าปกติหรือมีค่าความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท (mmHg)) เมื่อเวลาทำกิจกรรมหนักๆจะทำให้รู้สึกเหนื่อยเลยทำให้อาการน้องกำเหริบดังนั้นจางอี้ซานก็เลยต้องคอยดูแลน้องไปด้วยเหมือนคุณแม่ที่คอยดูแลลูกน้อยอยู่ข้างๆและอยากบอกว่าจางอี้ซานเรียกหวังจุนไคว่า“เด็กน้อย” 


    > เสี่ยวข่ายคนฉลาดน่ารัก สดใสของฉัน สุขสันต์วันเกิดนะ ไม่ว่านายอายุเท่าไหร่ก็ขอให้มีความสุขตลอดไปปีหน้าก็ขอให้โชคดีและดียิ่งขึ้นไปอีก  ขอให้สนุกสนานเฮฮาไปกับทุกวันบนเส้นทางแห่งชีวิตนี่คือสิ่งที่ฉันคาดหวังกับตัวนายมากที่สุด ยังจำวันแรกที่เจอนายได้ เป็นช่วงก่อนถ่ายทำรายการเกาเหนิง วันนั้นทุกคนต้องมาถ่ายภาพโปรโมท  ระหว่างการถ่ายทำรายการทำให้พวกเราได้รู้จักสนิทสนมที่ประทับใจมากที่สุดคือตอนที่พวกเราปั่นจักรยานสองตอนด้วยกัน รู้สึกเหมือนเป็นเจ้าลมกรดเลย แล้วขอแสดงความยินดีด้วยที่สอบเข้าสถาบันภาพยนตร์ปักกิ่งและกลายมาเป็นรุ่นน้องฉันได้สำเร็จ หวังว่านายจะเก่งขึ้นๆ นะ สุขสันต์วันเกิดดูแลสุขภาพด้วยอย่าหักโหม ในฐานะที่เป็นพี่ชายจะไม่พูดมากแล้วกัน เพราะวันเกิดนายทุกปีหลังจากนี้ไม่ว่าจะเป็นคลิปวีดีโอ ข้อความเสียง หรือตัวฉันเอง ก็จะมาอวยพรให้นายทุกปี เป็นสักขีพยานถึงการเติบโตของนายส่วนในฐานะเพื่อนก็ขอให้นายโชคดี

    ..........

         ถัดมากับคนที่สามเขาคือ ต่งจื่อเจี้ยน คนนี้ดูๆแล้วน่าจะเหมาะที่จะเป็นลุงของหวังจุนไคนะเพราะแกจะออกแนวๆนั้นอ่านะมีทั้งความฮาความติ๊งต๊องด้วยยิ่งเวลาได้อยู่ด้วยกันนะ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนลุงกับหลานยังไงอย่างงั้นเลยอะ 


    > ได้ยินมาว่าจะถึงวันเกิดคุณเพื่อนหวังจุนไคแล้วผมคิดว่าเขามีข้อดีเยอะเกินไป ดังนั้นผมจะรวบรวมเป็น " 1 " คำเท่านั้น นั่นก็คือ" ดี " " หล่อ " วันเกิดอายุครบ 18 ปีนี้ ก่อนอื่นต้องสุขสันต์วันเกิดนะอายุ 8 ปีแล้ว ไปเดทกับสาวได้แล้ว ถ้าจะแต่งงานก็รีบมีลูกไวๆ

    ..........

         คนถัดมาคือ หวังต้าลู่ ผู้ชายที่เห็นหวังจุนไคทีไรเป็นอันต้องกินน้องอยู่เรื่อยเลยด้วยเหตุผลที่ว่าน้องน่ากินเกินไป 55555 แล้วทุกครั้งที่เจอก็จะเป็นแบบนี้สมกับเป็นพี่ใหญ่ของหวังจุนไคจริงๆเลยค่ะชอบแกล้งกันได้ตลอดเวลาจนตอนนี้กลายเป็นว่าสนิทกันมากขึ้นต่างคนต่างแกล้งกันไม่มีใครยอมใครด้วยนะ อ้อใช่!ตอนที่อัดรายการนี้หวังต้าลู่เรียกหวังจุนไคว่า“ไอ้เด็กแสบ” และหวังจุนไคก็เรียกหวังต้าลู่ว่า“ไอ้พี่แสบ”


    เจ้าเด็กแสบหวังจุนไคกำลังจะอายุครบ 18! ปี ยินดีด้วยที่นายกำลังจะกลายเป็นผู้ใหญ่เหมือนเรา"ทีมเกาเหนิงคุณลุง" ในที่สุดจะได้ดีบิวต์สักที!! หลังจากนี้ไม่ว่านายจะไปไหนหรือเจอปัญหาอะไร  โปรดจำไว้นะ ฉันคนนี้จะคอยสนับสนุนและเป็นพี่ชายจอมแสบของนายตลอดไป!!ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เกิดรุ่นเดียวกันก็ตาม สุขสันต์วันเกิดนะ I LOVE YOU!!!

    ..........

         แล้วก็มาคนสุดท้ายคิดว่าคนนี้หลายๆคนคงรู้จักกันคุ้นหน้ากันอยู่น้อ!เขาก็คือ หลิวฮ้าวหราน พระเอกภาพยนตร์เรื่อง Beijing Love Story คู่กับโอวหยางนานาและซีรี่ย์เรื่องWith You แสดงคู่กับถานซงอวิ่นและอีกหลายๆเรื่องค่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะคุณคิดว่าหลิวฮ้าวหรานคนนี้เหมาะที่อยู่ในฐานะอะไรของหวังจุนไคในระหว่างที่อยู่ในรายการนี้อะๆๆๆบอกให้ก็ได้ค่ะว่าเขาคนนี้เหมาะที่จะเป็นพี่ชายคนรองของหวังจุนไคค่ะเพราะเขาโตกว่าหวังจุนไคแค่สองปีแต่เขากลับเป็นที่ปรึกษาด้านการเรียนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวเอาจริงๆสองคนนี้เคยเจอกันมาก่อนนะในรายการ Happy Camp แต่ด้วยความที่เป็นน้องใหม่แห่งวงการและเพิ่งได้มาออกรายการมันกำลังตื่นเต้นเลยไม่ได้เข้าไปทักทายอะไรมากมายแต่พอได้มาร่วมรายการ Give Me Five ด้วยกันเลยทำให้สนิทกันมากขึ้น


    > ครั้งแรกที่ผมเจอเสี่ยวข่ายคือตอนที่อัดรายการHappy Camp วันที่ 1 มิถุนายน 2014 ตอนนั้นผมก็เพิ่งถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Beijing Love Story เสร็จหมาดๆ  เสี่ยวข่ายตอนนั้นยังเป็นนักร้องยังไม่เคยแสดงหนังหนังหรือละคร  แต่เพิ่งมาสนิทกับเขาจริงๆ ก็ตอนถ่ายทำรายการ GiveMe Five ตอนแรก ผมรู้สึกว่าเสี่ยวข่ายเป็นคนเงียบๆ ชอบเก็บตัว  แต่พอมาเริ่มคุ้นเคยกันก็พบว่าจริงๆ แล้วเสี่ยวข่ายเป็นคนที่ขี้เล่นนะดื้อด้วย แถมฉลาด มีมารยาท และก็แสบด้วย  เขาในตอนนี้ก็ดีนะครับมองโลกในแง่ดี ร่าเริง กระตือรือร้นเวลาทำงาน ดังนั้นไม่ว่าเสี่ยวข่ายจะอายุเท่าไหร่ผมหวังว่าทัศนคติและตัวตนของเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงไปครับ

    > เสี่ยวข่ายกำลังจะกลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้วผมหวังว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตแบบนักศึกษาธรรมดาๆในรั้วมหาวิทยาลัยได้ เป็นแบบนั้นได้คงสนุกแน่อีกอย่าง หวังว่าหลังจากนี้เขาจะค่อยๆ ผ่อนงานและการใช้ชีวิตลง เป็นตัวเองของตัวเองให้มากที่สุดและสบายๆที่สุด ขอให้ทั้งชีวิตและการงานราบรื่น

    ..........

    ภาพของเหล่าเกาเหนิง ( give Me Five) 


    ..........

    แล้วมาต่อกันด้วยคลิปรีบถามรีบตอบกับ BAZAAR กันดีกว่า มาฟังกันเลย!



    Q:สอบเสร็จทำงานต่อเลยไหม?

    K:ทำงานเลยทันทีครับ

    Q:ถ้ามีเวลาให้หยุดพักผ่อน 3 วันมีวิธีการจัดการยังไงบ้าง

    K:ก็ไปเดินเที่ยวรอบๆแถวนั้น เพราะเวลาแค่ 3 วันมันทำอะไรไม่ได้อยู่ครับ

    Q:กลัวการฝึกทหารไหม ?

    K:การฝึกทหารถ้าให้ผมพูดก็แค่โดนแดดแล้วก็ดำ!

    Q:ต้องจากพ่อแม่เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยแล้วคิดถึงบ้านไหม?

    K:(หัวเราะ) คือผมจากบ้านมานานแล้วครับ

    Q:มีอะไรที่บ่งบอกว่าเราโตแล้วบ้าง

    K:วันสุดท้ายของการศึกษาวันที่เลี้ยงส่งแล้วแยกย้ายกันครับ ให้ความรู้สึกว่าเราโตขึ้นแล้ว

    Q:บนเส้นทางที่เติบโตมา มีตรงไหนบ้างที่พอใจและไม่พอใจ?

    K:พอใจที่สุดคือการไปโรงเรียนทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย  งานอดิเรกที่ชอบทำก็ได้ต่อยอด  ที่ไม่พอใจน่าจะเป็น ทำงานข้างนอกมากเกินไปเลยทำให้ผลการเรียนอยู่ในระดับครึ่งๆกลางๆ

    Q:อยากบอกอะไรกับตัวเองบ้าง

    K:หลังจากนี้นายต้องสูงให้ถึง180 ซม. ต้องสูงให้ได้ 180 ซม.นะ

    Q:มีจุดมุ่งหมายใหม่อะไรไหม

    K:จุดมุ่งหมายใหม่ก็คือต้องสูง 180 ซม.ครับ

    Q:ชอบเดินแบบหรือดูเขาเดินแบบ ?

    K:เดินแบบ

    Q:ตอนนี้เพลงอะไรที่คิดออกเป็นเพลงแรก ?

    K:เพลง 水星记 ของ 郭顶 ครับ

    Q:เพิ่งซื้ออะไรไป?

    K:วันพีช

    Q:หลังสอบเสร็จได้ไปเลี้ยงอาหารเหล่าเพื่อนร่วมงาน (เกาเหนิง) ไหม ?

    K:ไม่ได้เลี้ยงครับเพราะงานมันยุ่ง แต่ยังได้เจอหน้ากันนะ

    Q:ปกติเวลารถติดจะทำอะไร?

    K:ฟังเพลง

    Q:อาหารเช้าที่ชอบทาน?

    K:บะหมี่

    Q:ชอบทานกุ้งมังกรหรือหม้อไฟ?

    .........

    เพิ่งมาลองเขียนเป็นครั้งแรกอาจมีบางอย่างผิดพลาดไปบ้างก็ต้องขออภัยไว้ ณ.ตรงนี้ด้วยนะคะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in