เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SF, OS Masaruoneo1o95p
[SF] Blessing #2
  • AU Masaru [โทรุเป็นผู้หญิง]

    Pairing : Masaru

    Rate : G


    Warning : เหตุการณ์ทั้งเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากตชจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับบุคคลที่มีตัวตนอย่จริง ผู้แต่งไม่มีเจตนาทำให้เจ้าของชื่อเสื่อมเสียแต่อย่างใด





    เสียงกดกริ่งหน้าห้องตั้งแต่เช้าตรู่บังคับให้เขาจำใจต้องขุดตัวจากที่นอน แต่ไม่วายที่จะหอบหิ้วผ้าห่มห่อตัวเดินออกจากเตียงด้วย ยิ่งเขาเดินช้าเสียงกดกริ่งยิ่งดังขึ้นรัว ๆ เพื่อเร่งเร้า

     

    นี่มันเช้าวันหยุดนะโว้ยยยยย

     

    เขาดึงประตูเปิดเต็มแรงกะจะด่าคนที่มารบกวนการนอนให้เต็มที่แต่ก็ต้องชะงักหุบปากแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนตัวสั่นงันงกอยู่หน้าห้องเขาเป็นสาวสวยผมบลอนด์สว่างเกือบซีดที่กำลังใส่ชุด...เอ่อ.....แซนตี้?? 


    หนาวขนาดนี้เนี่ยนะดันใส่กระโปรงซะสั้นจู๋ รองเท้าบู้ทสีแดงสูงเข่าบวกกับถุงน่องสีขาวยาวมาถึงต้นขานั่นอีก ทำพาร์ไทม์แจกใบปลิวหรอ? แต่พอมองสูงขึ้นมาหน่อยก็ได้แต่คิดว่าเธอคงไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่คงอุ่นอกอุ่นใจน่าดูเพราะหน้าอกหน้าใจที่ดูจะใหญ่เกินหน้าที่ไปหน่อย


     

    ฉันมาตามคำขอ

     


    เสียงนุ่ม ๆ ดึงมาซาโตะให้หลุดออกจากหุบเขาตรงหน้า


     

    ครับ? คำขอ?


    ฮายาคาวะ เดวิด มาซาโตะ” เธอไม่ตอบคำถามแต่เรียกชื่อเขาแทน


    คะ ครับ ใช่ครับ


    ขอฉันเข้าไปหน่อย จะให้หนาวตายอยู่ตรงนี้รึไง?


    โอ๊ะ ขอโทษครับ เชิญเข้ามาข้างใน

     


    มาซาโตะเบี่ยงตัวหลบเพื่อเปิดทางให้เธอได้เข้ามาข้างในตามคำเชิญ จังหวะที่เธอเดินผ่านทำให้ได้กลิ่นจากผมยาวที่พริ้วตามการขยับตัว

     

    หอม

     

    แขกของเขาก้มหน้าก้มตาพยายามถอดรองเท้าอยู่นานสองนาน ปากสวย ๆ ก็บ่นอุบอิบไปพลาง คงถอดยากน่าดูท่าทางเงอะงะเชียว แต่ในใจเขากลับภาวนาให้เธอถอดนาน ๆ มุมนี้มันก็ดีนะ แต่เหมือนพระเจ้าจะไม่เมตตาคนบาปเมื่อในที่สุดเธอก็สะบัดรองเท้าทิ้งได้ ก่อนจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปทางห้องนั่งเล่นอย่างรู้งาน ทิ้งให้เจ้าของห้องเดินตามก้นต้อยๆ เข้าไป

     


    จะดื่มอะไรหน่อยมั้ยครับ


    ไม่ล่ะ

     


    เธอนั่งกอดอกถอนหายใจอยู่บนโซฟาตัวยาวไม่สนใจเขาเลยซักนิด ตาโต ๆ ที่ติดปรือจะปรือปิดลงมาเล็กน้อยมองไปรอบ ๆ ห้องของเขาโดยไม่พูดอะไร สร้างความกระอักกระอ่วนให้เจ้าของห้องไม่น้อย

     


    เอ่อคือ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอไปนอนต่อได้มั้ยครับ


    ได้สิ” เธอตอบแล้วลุกขึ้นจากโซฟาเดินมาหาเขา

     

    นำไปสิ


    เอ๊ะ

     


    มาซาโตะเผลอทำหน้าเอ๋อใส่สาวสวยตรงหน้าเธอขมวดคิ้วมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

     


    เอ๊ะอะไร จะนอนไม่ใช่หรอ ก็ไปห้องนอนสิ


    แล้วคุณ


    ก็จะนอนด้วยไง


    เอ๊ะ


    เอ๊ะอะไรนักหนาวะ รีบ ๆ เดินไปซักที


    คะ ครับ

     


    อาจจะเป็นเพราะเขาง่วง ๆ เบลอ ๆ เลยคิดว่าการสนทนาเมื่อกี้มันแปลก ๆ พิกล แต่ก็ยอมเดินเข้าห้องนอนไปอย่างว่าง่าย เปิดประตูห้องรอเพื่อให้เธอเข้าไปก่อน แขกของเขาเดินตรงไปที่เตียงแล้วก้าวขาเล็ก ๆ ขึ้นไปบนเตียงทันที พร้อมกับส่งสายตาเป็นเชิงเรียกให้เขาตามไปด้วย มาซาโตะเดินตามเข้าไปแล้วปีนขึ้นเตียงตามเธอ แซนตี้แสนสวยเอนตัวลงไปพิงที่หมอนใบโต


     

    จะนอนยังไง


    นอน...นอนยังไง อะไรครับ

     


    เธอถอนหายใจอย่างหงุดหงิด มือสวย ๆ เอื้อมมารั้งคอเขาจนเซลงไปซบที่เนินอกนุ่มๆ ตกใจแต่ชอบก็เลยเงียบไว้ เธอสอดแขนไว้ที่ใต้คอมาซาโตะแล้วกอดไว้หลวม ๆ มืออีกข้างดึงผ้าห่มที่พันตัวเขาออกก่อนจะตะวัดผ้าห่มผืนหนาคลุมทั้งตัวเองและตัวมาซาโตะไว้จนมิดคอ

     


    ฝันดี


    “…ฝันดีครับ

     


    เนินนุ่ม ๆ ที่แนบอยู่ข้างแก้มเขาขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจของเจ้าตัว

     

    อุ่นชะมัด นุ่มด้วย

     

    ไม่นานทั้งแขกและเจ้าของห้องก็หลับตามกันไป


     

    .

    .

    .


     

    มาซาโตะตื่นมาอีกทีตอนบ่าย ที่นอนข้าง ๆ ว่างเปล่าไม่มีใครอยู่แล้ว คงฝันไปล่ะมั้ง ก็เล่นคิดเรื่องนี้แทบทั้งคืน หลังจากตื่นเขายังคงนอนนิ่งซุกตัวอยู่ในผ้าห่มไม่ขยับไปไหน จนกระเพาะเริ่มส่งเสียงโครกครากงอแงเพราะในท้องไม่มีอะไรให้ย่อยอีกต่อไปนอกจากผนังกระเพาะ เขาจึงต้องจำใจบอกลาที่นอนอุ่น ๆ เดินออกจากห้องนอนตรงไปทางห้องครัวทั้งชุดนอน เสียงกุกกักในครัวทำให้ฝีเท้าเขาชะงักกึก รีบขยับตัวหลบเข้าชิดกำแพงทันที

     

    ขโมยหรอ แต่เขามั่นใจว่าเมื่อคืนก็ล็อคห้องดีนะ จะมีใครเข้ามาได้ยังไง

     

    เท้าเปล่า ๆ ค่อย ๆ ย่องไปตามพื้นที่ปูพรมอย่างดี ชายหนุ่มผมบลอนด์ยื่นหน้ามองผ่านกรอบประตูเพื่อสำรวจพื้นที่ต้องสงสัย แต่กลับไม่เจออะไรเลย นอกจากของที่เคยอยู่ในห้องนั้นแล้วทุกอย่างก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ยังไม่ทันที่เขาจะได้โล่งอกก็ต้องตกใจเพราะเสียงอะไรบางอย่างกระแทกกับโต๊ะกลางครัว ตามมาด้วยเสียงโอดโอยเล็ก ๆ เขาย่องเข้าไปตามเสียงนั่นเดินลึกเข้าไปจนพ้นโต๊ะเจ้าปัญหาจึงเจอที่มาของเสียง หญิงสาวเจ้าของผมบลอนด์สว่างที่ถูกรวบขึ้นไปมัดไว้ลวก ๆ ที่กลางท้ายทอยกับชุดกระโปรงแดงคุ้นตา กำลังนั่งจุ้มปุ้กกับพื้นทำปากยื่นหน้างอลูบหัวตัวเองป้อย ๆ เขาแทบหลุดขำถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นผู้หญิง


     

    เป็นอะไรรึเปล่าครับ


     

    เขายื่นมือไปให้เธอจับเพื่อจะได้ลุกง่าย ๆ แต่ก็โดนเมินโดนสิ้นเชิง แถมสาวเจจ้ายังมองตาขวางใส่อีก


     

    พึ่งจะตื่นรึไง หิวจะตายแล้ว


     

    เธอลุกขึ้นปัดฝุ่นตามกระโปรงและขาตัวเอง ในมืออีกข้างกำช้อนที่คิดว่าเจ้าตัวน่าจะทำตกจนต้องก้มเก็บพอจะเงยหน้าขึ้นหัวเลยชนโต๊ะล่ะมั้ง

     


    ในห้องผมไม่มีอะไรให้กินหรอก ไปข้างนอกกันมั้ย


    หนาวจะตาย หิวมากด้วยไม่มีอะไรที่มันกินได้เลยรึไงพวกอาหารแช่แข็งที่เอามาอุ่นแล้วกินได้เลยงี้


    ผมไม่ชอบอาหารแช่แข็ง


    แล้วไอ้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่กองเป็นภูเขานี่มันต่างกันยังไง


    อันนั้นผมชอบ


     

    อีกฝ่ายกรอกตาทำหน้าเอือมใส่เขาก่อนจะโบกมือไล่ให้ไปแต่งตัว ไปแต่งตัวได้แล้วไป เร็ว ๆ ด้วย หิว

     


    มาซาโตะเดินออกจากตัวครัวไปแต่ก็ยื่นหน้ากลับมาอีกครั้งถามสิ่งที่ข้องใจตั้งแต่เช้า


     

    คุณ จะใส่ชุดนั้นหรอ” เขาทำท่าชี้ ๆ ไปที่เสื้อผ้าอีกฝ่ายเธอก้มมองพิจารณาชุดที่ตัวเองสวมอยู่แล้วเงยหน้ามามองเขาอีกครั้ง

     

    ก็นายเป็นคนขอเองไม่ใช่รึไง


    ขออะไรหรอครับ ว่าแต่ คุณเป็นใครอะ


     ขอสาวสวยผมบลอนด์ใส่ชุดแซนตี้มาฉลองคริสต์มาสอีฟด้วยกัน และที่สำคัญ ขออกคัพ  แบบแน่น ๆ' ลงชื่อ ฮายาคาวะ เดวิด มาซาโตะ "

     


    มาซาโตะตกใจทำหน้าเหวอใส่อีกฝ่าย เธอรู้ได้ไงนั่นมันที่เขาเขียนใส่กระดาษเมื่อคืนนี่แล้วอีกอย่างเขาเผากระดาษแผ่นนั้นไปแล้วด้วย!!


     

    ดะ ได้ไง” เขาพูดเสียงตะกุกตะกัก


    ทำไมหรือนี่ยังแน่นไม่พอ” ไม่พูดเปล่าเจ้าหล่อนยังจับหน้าอกทั้งสองข้างเขย่า ๆ เพื่อย้ำคำถาม

     

    แน่น...แน่นครับ มันดีมาก ๆ เอ๊ยยย ไม่ใช่สิ ผมหมายถึงคุณรู้ได้ไงต่างหาก

     


    เขาสะบัดหน้าไล่ความคิดอกุศลออกไปจากหัว ภาพแรงสั่นสะเทือนเมื่อกี้ยังติดตาอยู่เลย

     

    แผ่นดินไหวแต่มาซาโตะไม่ไหว

     


    อย่าถามมากได้มั้ย ไม่ได้คิดคำตอบมา เอาเป็นว่าวันนี้มาเป็นคู่เดทรู้แค่นั้นพอ ไปแต่ตัวได้แล้วไป” เธอเดินมาดันไหล่เขาเดินกลับไปทางเดิม

     

    หรือจะให้ฉันเปลี่ยนให้” เสียงนุ่ม ๆยื้อมากระซิบที่ข้างหู สัมผัสอุ่น ๆ นุ่ม ๆ แนบไปตามหลังของเขา

     

    ก็ดีนะครับ


    ฝันไปเถอะ” เธอผละออกแล้วตบไหล่เขาดังเพี๊ยะเล่นเอาตัวเซไปตั้งไกล ผู้หญิงอะไรแรงเยอะเป็นบ้า ตัวนิดเดียวเองแท้ ๆ

     


    เขาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ถัดจากห้องนอนเพื่อจัดการตัวเองนิดหน่อยแล้วกลับออกมาเปลี่ยนชุดที่ห้องนอน ถอดทั้งเสื้อและกางเกงทิ้งลงตะกร้า หันกลับมายืนเลือกชุดอยู่นานสองนานก่อนจะตัดสินใจหยิบกางเกงขายาวสีดำเข้ารูปมาสวมและเสื้อยืดแขนยาวสีขาวตามด้วยฮู้ดสีครีมหนา ๆ อีกซักตัว ปิดท้ายด้วยโค้ทยาวสีดำ เดินไปเช็คความเรียบร้อยที่หน้ากระจกแต่ก็ต้องตกใจรอบที่สามของวัน เมื่อเห็นว่าเงาที่สะท้อนในกระจกมันไม่ได้มีเขาคนเดียว แต่ดันมีสาวน้อยชุดแดงนั่งจ้องเขาตาแป๋วอยู่บนเตียง


     

    เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยยยย


    ฉันก็นั่งรอในนี้ตั้งแต่ที่นายไปล้างหน้าแล้วเดินเข้ามาไม่มองอะไรเลยรึไง


    แล้วทำไมไม่พูดอะไรซักคำ ผมตกใจจนแทบช็อคเลยนะ


    แล้วทำไมต้องพูด” โอ๊ยยยยย มาซาโตะลูบหน้าด้วยความเหนื่อยใจ เป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่เนี่ย

     

    หุ่นดีนี่นานายน่ะ


     

    อยู่แต่แรกจริง ๆ ด้วย...


     

    แล้วไปทำอิท่าไหนให้โดนสาวเท ลีลาไม่เด็ดรึไง

     


    อยากจะบอกว่าเขายังไม่ทันได้โชว์ลีลาด้วยซ้ำ ดันโดนชิ่งไปก่อน

     

    แต่เดี๋ยว เธอคนนี้รู้ได้ยังไงว่าเขาโดนทิ้ง


     

    คุณรู้ได้ไงว่าผมโดนสาวเท


    เดามั่วไปเรื่อย แล้วก็ถูกจริง ๆ ซะด้วย” พูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างหัวเราะชอบอกชอบใจใหญ่ ถ้าไม่น่ารักนะพ่อจะด่าให้

     

    ไปเถอะ” เธอโดดดึ๋งลงมาจากเตียงเดินตรงมาเกาะแขนเขาลากออกจากห้อง

     

    เดี๋ยว ๆ


    อะไร


     

    มาซาโตะขืนตัวรั้งเธอไว้ก่อนแล้วเดินกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้ง ค้นหาเสื้อคลุมที่คิดว่าตัวเล็กที่สุดออกมาจากตู้ ก่อนจะตัดสินใจหยิบเอาฮู้ดสีดำแบบมีซิปออกมาหนึ่งตัวกับผ้าพันคอสีแดงผืนใหญ่แล้วยื่นให้เธอ


     

    อะไร


    หนาวขนาดนี้คุณจะใส่แบบนี้ออกไปข้างนอกรึไง

     


    เธอก้มลงมองชุดกระโปรงสีแดงแบบเกาะอกแล้วมีแค่ผ้าคลุมไหล่สีแดงผืนเล็ก ๆ แค่นั้น ยืนนิ่งคิดแปปนึงก็ตัดสินใจรับเสื้อจากอีกฝ่ายมาสวม รอจนเธอใส่เรียบร้อยดีมาซาโตะค่อยสวมผ้าพันคอให้เธอ แต่เหมือนมันจะยาวไปพันซักสามรอบแล้วกัน เขายืนมองผลงานที่กินพื้นที่หน้าสวย ๆ นั่นไปเกือบครึ่ง

     


    เสื้อตัวใหญ่ชะมัด ฉันกลายเป็นหมากระเป๋าไปเลยไม่ใช่รึไง ไอ้ผ้านี่อีก


    น่ารักดีออก เหมือนใส่เสื้อแฟนเลย ไปเถอะ


     

    มาซาโตะโอบไหล่ของเธอเดินออกจากห้อง ทีแรกเธอทำท่าจะขืนตัวออกเขาเลยเพิ่มแรงกระชับมากกว่าเดิมจนได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ถ้าให้เดาคงกำลังกลอกตาใส่เขาอยู่แน่ ๆ


     

    ก็แค่คู่เดทน่า อย่ามาโมเม


     

    เสียงหวานบ่นอุบ ก่อนออกจากห้องก็จัดการปิดไฟปิดฮีทเตอร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน ข้างนอกหนาวมากจริง ๆ สังเกตจากคนข้าง ๆ ที่เริ่มสั่นเป็นเจ้าเข้า

     

    ไม่เปลี่ยนชุดจริงหรอ


    ก็มีแค่ชุดที่ใส่มาจะเอาที่ไหนมาเปลี่ยน


    งั้นก็ซื้อใหม่เลยก็ได้ หนาวไม่ใช่หรอ


    พูดไรบ้า ๆ ฉันไม่มีเงินซักเยน ที่มานี่ก็กะให้นายเลี้ยงนะ ห้ามปล่อยฉันอดตายนะโว้ย” เธอพูดออกมาหน้าซื่อ ๆ ทำเอาเขาหลุดหัวเราะลั่น เรียกหน้างอ ๆนั่นได้เป็นอย่างดี

     

    ขำบ้าอะไร


    เปล่าครับ ตัวแค่นี้ผมเลี้ยงได้สบาย ให้เลี้ยงตลอดเลยก็ได้


     

    แอบหยอดไปนิดหน่อยพร้อมกับยกยิ้มมุมปากให้เธอ แต่ก็ได้รับการเบ้ปากเป็นการตอบแทนเช่นเคย วันนี้คนสวยทำเขาเสียเซลฟ์ไปหลายรอบมาก


     

    ไว้เห็นร่างจริงฉันแล้วจะพูดไม่ออก” เสียงบ่นงุ้งงิ้งคนเดียวเหมือนพูดกับตัวเองไม่อยากให้คนข้างๆ ได้ยิน

     

    ไปไหนก่อนดีครับคุณผู้หญิง ข้าวหรือเสื้อผ้า


    ข้าว

     


    เธอตอบกลับมาทันทีโดนไม่เสียเวลาคิดซักนิด พวกเขาเดินไปเรื่อย ๆหาร้านเหมาะ ๆ ที่จะนั่งกินได้ ใช้เวลาเดินหาร้านไม่นานก่อนตัดสินใจแวะร้านอาหารญี่ปุ่นที่ใกล้ที่สุดเพราะว่ากว่าพวกเขาจะออกจากห้องได้ก็บ่ายสองกว่าแล้ว คนในร้านไม่เยอะเลยไม่ต้องรอคิว คู่เดทของเขาไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าพอได้ที่นั่งปุ๊บเธอก็สั่งกิวด้งแบบพิเศษเพิ่มข้าวเพิ่มเนื้อมาเลยสงสัยหิวจัด เพราะขี้เกียจคิดมาซาโตะเลยเอาตามเธอทุกอย่าง

     


    ว่าแต่ คุณชื่ออะไรหรอ


     

    มาซาโตะเอ่ยถามคนตรงหน้าขณะนั่งรออาหาร ทำไมเขาถึงเพิ่งคิดขึ้นได้ว่ายังไม่รู้จักชื่อเธอเลยทั้ง ๆ ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งครึ่งวันแล้วแท้ ๆ อันที่จริงนอนด้วยกันมาแล้วด้วย เสียดายตอนนั้นไม่น่าเมาขี้ตาเลย โอกาสอยู่แค่เอื้อม... อีกฝ่ายยังนั่งเงียบไม่ตอบคำถาม ทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

     

    โทรุ เสียงตอบกลับมาเบาหวิว


    ชื่อเหมือนผู้ชายจังนะครับ” พูดล้อไปนิดหน่อยเผื่อว่าจะโดนด่ากลับมา

     

    ก็เป็นผู้ชาย” แต่คำตอบของเธอเล่นเอามาซาโตะเอ๋อจนไปต่อไม่ถูกเธอเป็นสาวสองหรอ พอเห็นหน้าเหวอ ๆ ของเขาอีกฝ่ายก็หัวเราะร่วน


    ล้อเล่น” พูดจบก็หัวเราะต่อ ....ยัยบ้า

     


    ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่ออาหารก็มาเสิร์ฟพอดี มาซาโตะนั่งมองผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าที่กำลังยัดของกินเข้าปากอย่างรีบร้อน ปากเล็ก ๆ แต่เวลากินนี่อ้าซะกว้างเชียว แก้มขาว ๆ พองออกเพราะยัดข้าวซะเต็มปาก ไม่นานเธอก็กินจนหมดในขณะที่เขายังกินไปไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ


     

    อิ่มมั้ยครับ” เขาถามคนที่นั่งลูบท้องตัวเองป้อยๆ


    อีกชามได้มั้ยล่ะ


    ได้นะถ้ากินไหว


    ล่อเล่น ใครจะไปกินเยอะขนาดนั้น

     


    โทรุนั่งเอามือประสานไว้ใต้คางตัวเอง จ้องเขากินไปเรื่อย ๆมาซาโตะพึ่งสังเกตว่าระหว่างที่อยู่ด้วยกันโทรุไม่เคยหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเล่น


     

    ผมถามได้มั้ย

     

    ว่า

     

    ทำไมถึงรู้ว่าผมขอพรอะไรไป

     

    ขี้เกียจตอบ” โทรุตอบกลับมาทันทีด้วยสีหน้าเบื่อ ๆทำอย่างกับว่าเขาเซ้าซี้หลายรอบงั้นแหละ

     

    แต่ผมมีสิทธิ์ที่จะรู้ไม่ใช่หรอ

     

    ใครบอก ไม่มีซักนิด

     

    ทำไมดื้อจัง” เธอตวัดตามามองเขาดุๆ แต่เขาฉีกยิ้มกว้าง ๆ ให้แทนแล้วถามต่อ


    โทรุจังทำงานที่ร้านนั้นหรอ เมื่อวานไม่เห็นเจอเลย

     

    ไม่เชิงว่าทำงาน ร้านนั้นเปิดเพื่อฉันต่างหาก

     

    เป็นเจ้าของร้านหรอ

     

    เปล่า

     

    อ้าว งั้นเป็นอะไร

     

    ขี้เกียจตอบละ” เธอลดมือลงกอดอกแล้วทิ้งตัวลงกับพนักด้านหลังแทน

     

    เอาแต่ใจชะมัด

     

    จะยกเลิกมั้ยล่ะ ฉันจะได้กลับ” พูดทั้งส่งยิ้มยียวนใส่อีก

     

    ไม่เอา

     

    น่ารำคาญจริง

     

    ผมเหงานี่นา นี่มันคริสต์มาสนะจะทิ้งผมอยู่คนเดียวรึไง” มาซาโตะทำท่าหางลู่หูตกแบบที่คิดว่าน่ารักที่สุดใส่โทรุ แต่ไม่ได้ผลซักนิด อีกฝ่ายไม่สนเขาเลย

     

    ทน ๆ เอาหน่อยไม่ได้รึไง

     

    ไม่ได้” เขาจ้องหน้าโทรุก่อนจะพูดต่อ


    พอเจอโทรุจังก็รู้สึกว่าวันนี้คงทนอยู่คนเดียวไม่ได้แล้วล่ะ คงเหงากว่าเดิมแหงๆ

     

    หยอดเก่งนี่

     

    หลงมั้ย” เขาถามยิ้ม ๆ

     

    ไม่” ฟ้าถล่มรอบที่ร้อยของวัน

     

    ใจร้ายจัง

     


    บทสนทนากึ่ง ๆ ต่อล้อต่อเถียงยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆจนมาซาโตะกินข้าวจนหมด บางครั้งก็โดนบ่นว่าตอนกินข้าวชอบพูดมากแต่เจ้าตัวก็ตอบกลับมาตลอดเลยนี่น่าน่ารักจัง


     

    .

    .


     

    ฮ้า อิ่มจัง

     


    พวกเขาเดินออกจากร้านโดยที่มาซาโตะเดินลูกท้องป่อง ๆ ตามโทรุออกมาเขาเดินมาโอบไหล่เล็ก ๆ ไว้ ที่จริงก็แค่ตั้งใจก็ยืนกันลมให้เฉย ๆ อย่างอื่นเรียกว่าผลพลอยได้ โทรุจังก็ไม่ว่าอะไรนี่นาแค่ทำท่าเหมือนรังเกียจนิดหน่อย... เรื่องนั้นช่างมัน อีกอย่างชุดเธอก็ล่อสายตาดีจริง ๆ เดินไปไหนมีแต่คนจ้อง ถามว่าจ้องตรงไหน ก็น่าจะจุดเดียวกันกับที่เขาชอบจ้องนั่นแหละ ก็เลยดึงเสื้อคลุมมาปิดไว้หน่อยแต่กลับโดนฟาดหลังมือเต็มแรง 


    เค้าแค่จะดึงเสื้อปิดเฉย ๆ เองนะะะะ

     

    บางครั้งมาซาโตะก็แอบเห็นว่าโทรุชอบเผลอก้มมองลูบ ๆ คลำ ๆหน้าอกตัวเอง ทำอย่างกับว่าไม่เคยมีงั้นแหละ แถมยังทำท่าทำทางเหมือนมันเกะกะนักแหละ

     

    เดินกันไปเรื่อยจนเจอร้านเสื้อผ้าผู้หญิงเหมาะ ๆ ร้านนึงถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตกลงกันไว้ว่าจะหาชุดให้โทรุเปลี่ยน ถึงจะบอกว่าเขาจะซื้อให้แต่อีกฝ่ายก็ยังอิดออด จะว่าเกรงใจเขาก็คงไม่น่าใช่ ออกไปทางขี้เกียจมากกว่า แต่ในที่สุดมาซาโตะก็สามารถฉุดกระชากลากถูโทรุเข้ามาในร้านจนได้

     


    เลือกสิครับ

     

    ก็บอกว่าไม่เอาไง” โทรุยังยืนนิ่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่หน้าร้านไม่ยอมขยับ

     

    ไม่ได้ ต้องเอา ชอบนักรึไงให้คนมองเยอะ ๆ น่ะ

     

    มอง ๆ ไปเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไม่มีให้มองแล้ว

     

    งั้นกลับไปมองด้วยกันสองคนกับผมที่ห้องปะ” เขาทำท่าจะลากเธอออกจากร้านแต่ก็โดนสะบัดมือออก

     

    ไม่เอา! เออๆๆๆ เลือกก็เลือก” มาซาโตะยิ้มอย่างพอใจในขณะที่โทรุหน้าบูดเป็นตูด

     

    ผมนั่งรอตรงนั้นนะ

     

    เชิญ



    เขามองตามโทรุที่เดินไปด้อม ๆ มอง ๆ แถวราวเสื้อก่อนจะปลีกตัวไปนั่งที่เก้าอี้เตี้ย ๆ ที่ถูกจัดไว้ที่มุมหนึ่งของร้านปล่อยให้สาวสวยของเขาได้มีเวลาส่วนตัว ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาปลดล็อคเข้าเช็คทวิต ไอจี ไปเรื่อย ๆ รออีกคน

     


    เสร็จแล้ว


     

    โทรุใช้เวลาน้อยกว่าที่เขาคาดไว้ นึกว่าสาว ๆ จะเลือกเสื้อผ้ากันนานกว่านี้ซะอีกแต่พอเงยหน้าขึ้นมองก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใช้เวลาแค่สิบนาที

     

    สเวตเตอร์สีขาวตัวใหญ่ทับด้วยเสื้อคลุมและผ้าพันคอของเขาตัวเดิมกับกางเกงวอร์มสีดำแถบขาว... ก็นับว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรซ์อีกอย่างของเธอที่ได้รู้

     


    มองอะไร ไปจ่ายตังค์สิ” ดุอีกละ

     

    ชุดนี้หรอครับ

     

    เออ ทำไม

     

    เปล่า น่ารักดี

     

    ถามจริง” โทรุมองเขาแบบไม่เชื่อหน่อยๆ

     

    ก็โทรุชอบแบบนี้ไม่ใช่หรอ ดีกว่าชุดเดิมมั้ย

     

    อือ” เธออ้อมแอ้มตอบกลับมาคืออะไร เขินหรอ หรือแค่ขี้เกียจพูด

     


    มาซาโตะพาโทรุไปจ่ายเงินกับพนักงานที่เคาท์เตอร์แล้วกลับออกมาข้างนอกอีกครั้ง เพราะไม่มีอะไรที่อยากทำหรือที่ ๆ อยากไปเป็นพิเศษเลยแค่เดินชมเมืองไปเรื่อย ๆ แวะกินนั่นกินนี่บ้างบางครั้ง เขาค่อนข้างแปลกใจที่โทรุไม่ค่อยอิดออดหรือบ่นมากเท่าไหร่ตอนที่เขาชอบแวะที่ไหนแบบตามใจตัวเอง ผิดกับสาว ๆ ที่ผ่านมา พวกเธอไม่ค่อยฟังเขาหรอก โดยปกติจะเป็นเขาที่ต้องเดินตามเวลาเธอช็อปปิ้งมากกว่า และบางครั้งโทรุก็ดูเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูดอะไรแต่เวลาเถียงเขาทีคือเถียงน้ำไหลไฟดับ ไม่มียอมเลยจริง ๆ

     

    เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่ทันตั้งตัวท้องฟ้าสีฟ้าก็กลายเป็นสีส้มแทน มีริ้วสีม่วง ดำแทรกอยู่ประปราย พระอาทิตย์ ใกล้ตกแล้ว แน่นอนว่าบรรยากาศรอบข้างก็เริ่มจะเปลี่ยนไป บรรดาร้านรวงต่างก็พากันเปิดไปประดับที่ตกแต่งไว้เพื่อเทศกาลโดยเฉพาะ บรรยากาศเหมือนเมื่อวานต่างกันแค่วันนี้ข้าง ๆ ตัวมาซาโตะไม่หนาวแล้ว เพราะมีสาวสวยที่ทำหน้าเบื่อโลกเดินอยู่ข้างๆ

     


    ไม่ชอบหรอ

     

    อะไร

     

    คริสต์มาส

     

    ไม่ชอบ

     

    ทำไมล่ะ ดีออก มีอะไรให้ดูเยอะเลย

     

    ...วันต้องสาป” โทรุบ่นกับตัวเองเบา ๆ

     

    ทำไมถึงเป็นวันต้องสาป” เขาก้มมองหน้าอีกฝ่ายขณะถาม ถึงได้สังเกตเห็นว่าโทรุแอบถอนหายใจหลายที

     

    “…เปล่า หิวแล้ว

     

    วันนี้ทั้งวันโทรุแทบไม่พูดถึงเรื่องของตัวเองเลย ถึงเขาจะถามแต่ก็โดยบ่ายเบี่ยงตลอด เขาไม่รู้เรื่องอะไรของเธอเลยนอกจากชื่อที่ไม่รู้ว่าจะใช่ชื่อจริงรึเปล่า เธอดูเป็นคนเข้าถึงง่ายแต่กลับเหมือนมีกำแพงหนากั้นเขาเอาไว้ให้อยู่แค่ตรงนี้ คงเป็นการป้องกันตัวเองหรือไม่ก็เพื่อป้องกันเขา ไม่ให้ถลำลึกเกินไป เพราะอีกเดี๋ยวก็หมดเวลาแล้ว... เวลาอะไรล่ะ ถ้าโทรุยังอยู่ร้านนั้นเขาก็ยังไปหาเธอได้อีกนี่นา 


    ใช่ ต้องอยู่ที่นั่นแน่อยู่แล้ว


     

    กลับไปต้มบะหมี่กินที่ห้องกันดีมั้ย

     

    ทำไมต้องบะหมี่

     

    ก็ปกติเดตกันเราก็ต้องไปกินร้านหรู ๆ ใช่มั้ยล่ะเวลาโทรุไปกับคนอื่นก็คงจะเหมือนกัน แต่ผมอยากให้โทรุจำผมได้ในแบบที่เป็นผมไง” เขาอธิบายพร้อมกับยิ้มให้อีกฝ่ายที่ขมวดคิ้วมองหน้าเขา

     

    จะให้ฉันจำต้มบะหมี่เนี่ยนะ

     

    ใช่ เพราะผมชอบไง

     

    เหอะ เจ้าบ้า” ถึงปากจะด่าเขาก็เถอะ แต่เห็นนะว่าหุบยิ้มไว้ไม่อยู่แล้วน่ะน่ารักจนอดยื่นมือไปเขี่ยแก้มเย็น ๆ ที่โผล่พ้นผ้าพันคอขึ้นมาไม่ได้ ตรงแก้มด้านขวามีไฝเล็ก ๆ อยู่หลายจุด แต่ที่เด่นหน่อยคงเป็นจุดที่อยู่ข้างริมฝีปากนี่

     

    สงสัยจ้องนานไปหน่อยเลยเผลอเข้าไปไกล้จนริมฝีปากแตะลงที่จุดข้างแก้มอีกฝ่าย โทรุนิ่งตัวแข็งไปเลย ริ้วสีแดงไต่ขึ้นไปเกาะบนพวงแก้มใส ๆ

     

    คราวนี้แหละเขินจริงแน่

     

    ได้คืบแล้วกะจะเอาศอกซะหน่อย อีกนิดเดียวก็จะได้ชิมปากแดง ๆ ที่เม้มติดกันแน่นแล้วแท้ ๆ แต่โดนฝ่ามือพิฆาตฟาดเข้ากลางหน้าผากเต็ม ๆ สะเทือนไปถึงกระดูกสันหลังข้อที่สิบเอ็ด

     


    พอมั้ย ไอ้เหม่งนี่

     

    หอมจัง” ยิ้มร่าตอบกลับด้วยสีหน้าไม่รู้สึกผิดใดๆ ทั้งสิ้น

     

    จะกินอะไรก็กิน หิว!”



    พูดจบก็เดินนำลิ่วไปทันที ปล่อยอีกคนยิ้มค้างอยู่อย่างนั้น มาซาโตะรีบวิ่งตามโทรุไปโอบไหล่บางไว้ โดนขัดขืนนิดหน่อยแต่รอบนี้รุนแรงขึ้น โดนศอกเข้าเต็ม ๆ ใส่มาเต็มแรงจนเกือบอ้วกเอาของเก่าออกมาแหนะ

     

    ระหว่างทางเดินกลับโทรุบอกว่าขอแวะที่ร้านแปปนึง ปล่อยมาซาโตะยืนรออยู่นอกร้านสงสัยว่าวันนี้ไม่เปิดร้านเพราะภายในร้านมืดเชียว ไม่มีใครซักคน แบบนี้จะรอดหรอ เปิดร้านวันที่สองก็หยุดเลยแบบนี้

     

    รอไม่นานโทรุก็เดินออกมาจากทางหลังร้านพร้อมกับแบกเคสกีตาร์อันใหญ่ไว้บนหลัง มาซาโตะเสนอตัวจะถือให้แต่เจ้าตัวก็ยืนยันจะถือเอง ก็เลยต้องตามใจ ดึงดันไปโทรุก็ไม่ยอมหรอก ถ้าได้บอกว่าไม่ก็คือไม่นั่นแหละ เขาเร่งฝีเท้ามากขึ้นเพื่อให้ถึงห้องเร็ว ๆ อากาศข้างนอกยิ่งดึกยิ่งหนาว พอเข้ามาในตัวตึกแล้วก็อุ่นขึ้นมาหน่อย

     


    เอากีตาร์มาทำไมหรอ” มาซาโตะเอ่ยถามขณะอยู่ในลิฟต์

     

    เอามารองต้มบะหมี่ของนายมั้ง เจ้าบ้า ก็ต้องเอามาเล่นสิ” นั่นไงล่ะ บอกแล้วว่าเรื่องเถียงนี่ไม่เคยจะยอม

     

    อยากฟังเร็ว ๆ จัง

     


    และเมื่อถึงชั้นที่ต้องการประตูลิฟต์ก็เปิดออกพวกเขาเดินตามทางเพื่อไปห้องของมาซาโตะ ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าโทรุมาหาเขาได้ยังไงแต่ถึงจะถามไปเจ้าตัวก็คงไม่ตอบอยู่ดี เขาเปิดประตูเพื่อให้โทรุเข้าไปก่อนคราวนี้ไม่ลำบากกับการถอดรองเท้าแล้วก็เลยวิ่งฉิวหายเข้าไปในห้องนั่นเล่นทันทีเดินตามเข้าไปก็เจอเจ้าตัวกำลังแกะกีตาร์โปร่งออกจากเคสอย่างทะนุถนอมก็หวงถึงขนาดไม่ถอมให้เขาถือให้เลยนี่นา

     


    มองอะไร ไปต้มบะหมี่ดิ

     

    ไม่คิดจะช่วยหน่อยรึไง

     

    ทำไม่เป็น” ข้ออ้างคนขี้เกียจชัด ๆ แต่มาซาโตะก็ยอมไปต้มให้อยู่ดี

     


    เขายืนแกะกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฉีกซองเครื่องปรุงทุกอย่างเทลงในถ้วยกระดาษ ขณะรอน้ำเดือดเสียงกีตาร์จากคนที่อยู่อีกห้องดังแว่วเข้ามา สงสัยกำลังปรับสายอยู่ รอจนน้ำเดือดค่อยเทลงใส่ถ้วยจนท่วมเส้นทั้งสองถ้วย ยกกลับมาหาอีกคนที่นั่งเกากีตาร์อยู่บนโซฟา

     

    ในห้องนั่งเล่นมีโต๊ะอุ่นขากับโซฟายาว ๆ สองตัววางอยู่หน้าทีวี แต่วันนี้ทีวีคงไม่จำเป็นเพราะมีนักดนตรีกิตติมศักดิ์มาเล่นให้ฟังถึงที่ แต่นักดนตรีก็หิวเป็นตอนนี้เลยทิ้งคู่หูให้นอนแอ้งแม้งอยู่บนโซฟาแล้วตัวเองก็ไหลลงมานั่งอยู่หน้าถ้วยบะหมี่แทน

     

    สมแล้วที่บ่นว่าหิว ผ่านไปไม่ถึงสามนาทีบะหมี่ในถ้วยนั้นก็อันตรธานหายไปไม่เหลือหลอ ทิ้งไว้แค่ซากให้เขาเก็บ มาซาโตะเอาถ้วยบะหมี่ไปเก็บแปปเดียวกลับมาก็เจอโทรุเอนหลังพิงโซฟาเป็นที่เรียบร้อย มีกีตาร์ซบอยู่ที่อก นิ้วเรียวสวยไต่ไปตามสายกีตาร์สร้างเสียงใส ๆ ไม่เป็นจังหวะ

     


    อยากฟังเพลงไรขอได้เลยนะครับคุณลูกค้าตอบแทบค่าบะหมี่ไปเลยหนึ่งเพลงเต็ม ๆ

     

    ขี้งกจัง นึกว่าจะได้ฟังทั้งคืนซะอีก

     

    โลภมากก็ไม่ต้องเอามันซักเพลง

     

    ล้อเล่น เพลงอะไรก็ได้ ที่โทรุชอบ” เขาเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งโซฟาอีกตัว

     

    เกลียดคำว่า เพลงไรก็ได้

     

     

    โทรุเริ่มเกากีตาร์เล่นไปเรื่อย บางทีก็มีฮัมเพลงบ้าง มีมาซาโตะช่วยร้องบ้าง บรรยากาศเรียบง่ายที่มีกลิ่นอายอุ่น ๆ ฟุ้งออกมารอบตัว คนตรงหน้าเขาดูสวยขึ้นมากในยามที่เธอตั้งอกตั้งใจเล่นกีตาร์ สายตาไล่ไปตามปลายนิ้วของตน

     

    เวลาที่เขาค่อย ๆ ใช้เก็บภาพอีกฝ่ายฝังไว้ในความทรงจำผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ไม่นานนาฬิกาก็บอกเวลาห้าทุ่มกว่า

     


    ใกล้เที่ยงคืนแล้ว ฉันต้องกลับแล้ว

     

    ยัง ยังไม่หมดวันซักหน่อย” มาซาโตะยังตัวขึ้นมาส่งสายห้ามโทรุที่เริ่มเก็บกีตาร์ใส่เคส

     

    นายนี่น่ารำคาญจริง

     

    อยู่จนกว่าจะเที่ยงคืนได้มั้ย” โทรุมองหน้าคนงอแงแล้วถอนหายใจยาวเหยียดยกกีตาร์ออกมาอีกครั้งพร้อมกับตับที่นั่งข้างตัวเองปุๆ

     

    มานั่งนี่สิ” มาซาโตะลุกไปนั่งข้าง ๆ โทรุอย่างว่าง่าย

     


    โทรุเริ่มดีดกีตาร์อีกครั้งด้วยเมโลดี้ที่เขาคุ้นเคย


     

    ร้องสิ ร้องได้ไม่ใช่หรอ เห็นชอบฮัมบ่อย ๆ“ ผิดคาด เขาไม่คิดว่าโทรุจะสังเกตเขาด้วย เริ่มจะชอบมากขึ้นทุกที

     

                                                                                 .



    I Won’t Give Up – Jason Mraz


    .


    When I look into your eyes

    It’s like watching the night sky

    Or a beautiful sunrise

    There’s so much they hold

    .

    And just like them old stars

    I see that you’ve come so far

    To be right where you are

    How old is your soul?

    .

    I won’t give up on us

    Even if the skies get rough

    I’m giving you all my love

    I’m still looking up

    .


    ดวงตาที่มักจะเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมาย

    ไกลจนผมไม่สามารถตามไปได้

    แต่ในตอนนี้ตอนที่กำลังอยู่ด้วยกัน

    สายตาคู่นั้นจับจ้องเพียงแค่ผมเท่านั้น

    ความรู้สึกมากมายถูกส่งผ่านดวงตาคู่สวย

     

    จะไม่ยอมให้ใครมาพรากเอาแววตานี้ไปหรอกนะ

    ตัดสินใจแล้วไม่ว่ายังไง

    เธอก็ต้องเป็นของผม

     

    (ซับมโน ByMe)


    .

    .

    .

     


    เพลงจบไปแล้ว โทรุเตรียมตัวจะกลับแล้ว เคสกีตาร์อันใหญ่กว่าเจ้าตัวถูกสะพายขึ้นบนหลัง เธอยิ้มให้เขาที่นั่งหงอยหน้างอคอหักเป็นปลาทู

     


    กลับแล้วนะ ไปส่งหน่อยสิ

     

    ถ้าไม่ไปส่งก็จะไม่กลับใช่มะ

     

    อย่ามามโนไอ้เหม่ง ส่งแค่หน้าประตูเนี่ย มาล็อคประตูด้วย

     


    มาซาโตะยอมลุกขึ้นเดินตามโทรุต้อย ๆ ไปส่งที่หน้าประตู


     

    เร็ว ๆ สิเดี๋ยวไม่ทัน

     

    ไม่ให้ไปส่งจริงหรอ ดึกแล้วนะ

     

    ไม่ต้องหรอก ไม่เป็นไร” มาซาโตะยังคงยืนจ้องหน้าโทรุไม่หยุดเธอยิ้มให้แล้วหันหลังเตรียมออกจากห้องแต่โดนคว้าข้อมือไว้ก่อน 

     

    กอดได้มั้ย” ถึงจะอยากปฏิเสธเพราะแทบไม่มีเวลาแล้วแต่ใครจะไปปฏิเสธเสียงเศร้าแบบนั้นได้ลงคอ

     

    จะไม่มีเวลาแล้ว หลับตาสิเร็วเข้า” เขายอมหลับตาตามที่เธอบอกอย่างว่าง่ายแม้จะอยากมองหน้าไปนานๆ

     


    สัมผัสอุ่นจากอ้อมแขนเล็ก ๆ ทั้งสองข้างสอดเข้าที่ข้างเอวกระชับกายเข้าจนชิด แนบแก้มไปที่อกกว้างมาซาโตะยกแขนขึ้นกอดตอบอีกฝ่าย โทรุจับตัวเขาโยกไปมาเล็กน้อยก่อนจะผละออก สัมผัสนิ่ม ๆ ชื้น ๆ แตะลงที่ปลายคางเขาพร้อมกับคำเอ่ยลาเบา ๆ ดังแทรกกันกับเสียงนาฬิกาดิจิตอลดังบอกเวลาเที่ยงคืน

     


    ลาก่อนนะ


     

    .

    .


     

    ...เหมือนว่าปลายเสียงโทรุมันจะทุ้ม ๆ ไปรึเปล่านะ หรือเขาหูฝาด...


     

    .

    .

    .


     

    มาซาโตะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในเช้าวันใหม่ รู้สึกเหมือนอนไปนานเลย สมองยังเบลอ ๆ อยู่ คิดไม่ออกว่ากลับมานอนตั้งแต่เมื่อไหร่ เขากลับมาจากคาเฟ่แปลกๆ นั่นแล้วก็อะไรอีกน้า ลืมไปแล้วแฮะ เหมือนว่าจะฝันดีด้วย ฝันว่าคริสต์มาสอีฟได้เดทกับสาวสวย ชื่อ... ลืมไปแล้วเหมือนกัน

     

    เพราะว่าตื่นสายก็เลยได้ยินเสียงร้องจ๊อก ๆ จนต้องตัดใจลุกจากที่นอนเพื่อไปหาอะไรกิน พอจะเดินเข้าไปในครัวก็เหมือนเดจาวูไงไม่รู้ มีภาพใครบางคนซ้อนเข้ามา ภาพในฝันหรอ? พอเดินเข้ามาในครัวก็เจอถ้วยบะหมี่ที่กินหมดแล้วทิ้งไว้สองถ้วย จำไม่เห็นได้เลยว่ากินตั้งแต่เมื่อไหร่? เอื้อมไปเปิดตู้เย็นหยิบซองขนมออกมา ถือเดินไปทางห้องนั่งเล่นกะจะเปิดทีวีดูก็ดันมาเจอโทรศัพท์ถูกวางที่ไว้ที่โซฟาพอดี เลยหยิบขึ้นมากะจะดูเวลาแต่สายตาดันเหลือบไปเห็นวันที่ที่มันควรจะเป็น 24 ธันวาคมแต่บนหน้าจอกลับขึ้นว่า 25 ธันวาคม

     

    ...นี่เขาหลับข้ามวันหรอ จะเป็นไปได้ยังไง พอเดินไปอีกหน่อยกะจะนั่งลงโซฟาก็รู้สึกเหมือนใต้ฝ่าเท้าเหยียบอะไรเย็น ๆ พอก้มมองก็เจอปิ๊กกีตาร์สีดำตกอยู่และเหมือนว่าสมองจะประมวลผลเรื่องราวทั้งหมดได้ว่า ไอ้เรื่องที่คิดว่าฝันนั่นน่ะไม่ใช่ฝัน แต่เป็นความจริง

     

    มาซาโตะรีบรุดขึ้นจากโซฟาตรงดิ่งไปห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที

     

    เขาวิ่งออกมาเรื่อย ๆ ตามทางเดินที่เขาใช้ไปมหาลัยทุกวัน วิ่งวนไปมาแต่ก็ไม่เจอคาเฟ่ที่เขาแวะขากลับจากมหาลัยเมื่อวันที่ 23 ต่อให้เดินนับก้าวกลับไปกลับมาแต่จุดที่เขาแน่ใจว่ามันเคยเป็นที่ตั้งของคาเฟ่กลับไม่มี เป็นแค่ตรอกเล็ก ๆที่มีตึกใหญ่ขนาบทั้งสองข้าง ไม่มีทางที่จะร้านอะไรมาตั้งตรงนี้ได้เลย

     

    อะไรกัน

     

    ทำไมกัน

     

    หมายความว่าไง

     

    ฝันหรอ

     

    แล้วปิ๊กนี่หมายความว่าไง

     

    เขาเดินกลับไปกลับมาคิดไม่ตก คนรอบข้างก็เริ่มมองแปลก ๆ ชั่วพริบตาที่มีลมเย็นๆ พัดผ่านร่างเขาไปก็เหมือนได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ เสียงของพนักงานผู้หญิงในร้านวันนั้น

     


    เวทมนต์คงอยู่ได้แค่วันเดียวเท่านั้นหลังเที่ยงคืนไปทุกอย่างจะกลายเป็นแค่ความฝัน


     

    ฝันหรอ จะบ้ารึไงอย่ามาล้อเล่นนะ จะเป็นฝันได้ยังไงละไอ้ความรู้สึกชอบนี้จะเกิดกับคนในฝันได้ยังไงล่ะยัยพนักงานบ้า!!

     

    คิดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งหมดแรงอยู่ที่เดิมนั่งอยู่นั่นหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีอะไรผุดออกมาจากตรอกนั่นชักหิวแล้วสิ กลับบ้านก่อนละกัน หนาวเป็นบ้าเลยด้วยทำไมต้องมาทนหิวทนหนาวรอยัยบ้าที่รู้ว่าจะโผล่มารึเปล่า

     

    ต้องตัดใจมั้ยนะ ยัยนั่นเป็นผีหรอ...


    ผีตัวอุ่นจัง

     

    .

    .

    .

     

    หลายเดือนผ่านไป ถึงจะบอกว่าไม่รอก็เถอะแต่ก็มองตรอกนี้ทุกวัน เวลาผ่านไปผ่านมา วันหยุดก็ยังอุตส่าแวบออกมาด้อม ๆ มอง ๆ ไม่มีกะจิตกะใจจะไปจีบสาวที่ไหนเลย เอาแต่มาลุ้นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้แต่พอนานไปความรู้สึกก็เริ่มเบาบางลง แต่ก็ยังส่องอยู่ กลายเป็นนิสัยไปซะแล้ว

     


    .


     

    จะคริสต์มาสอีกแล้ว อดคิดถึงเรื่องเมื่อปีก่อนไปได้เลย อยู่ดี ๆ ก็คิดถึงคนที่เกือบจะลืมไปแล้วขึ้นมา วันนี้วันที่ 23 นี่นา จะมีเปล่าหว่า ตอนเย็นแอบไปดูหน่อยละกัน ไม่อยากตั้งความหวังเลยแต่ก็แอบหวังนิด ๆ เหมือนกันนะ

     

    พอเลิกคลาสเขาก็รีบออกจากห้องไปทันทีไม่สนเสียงเพื่อนที่ร้องทัก แต่คิดดูอีกทีค่อย ๆ เดินดีกว่า ถ้าเผื่อมันจะมีหรือไม่มีจะได้ไม่เสียฟอร์มทั้งคู่

     

    ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่ใจก็ยิ่งเต้นระทึก ลุ้นยิ่งกว่าผลสอบ แต่พอไปถึงที่หมายใจดวงน้อย ๆ ที่ลิงโลดอยู่เมื่อครู่ก็เหี่ยวลงทันที

     


    ไม่มี...

     

    ไม่น่าคาดหวังเลย...


     

    เดินคอตกจากไปเหมือนเดิม แวะกินราเม็งข้างทางดีมั้ยนะ หิวแล้วด้วย จะได้ไม่ต้องออกมาหาอะไรกินอีกรอบด้วย มาซาโตะแวะร้านราเม็งที่พึ่งมาเปิดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะมาบ่อยเลยสนิทกับลุงไปด้วย มองจากหน้าร้านลุงก็เจอตรอกนั่นพอดี ถือว่าพึ่งพาอาศัยกัน เขาสั่งเมนูประจำไป ลุงก็ตอบรับอย่างแข็งขัน รอไม่นานราเม็งร้อน ๆ มีควันลอยฉุย ๆ ก็มาเสิร์ฟตรงหน้า

     

    ถึงจะเศร้าแต่ท้องก็หิวล่ะนะ คงต้องกินก่อนค่อยเศร้าต่อก็ได้ ราเม็งลุงน่ะอร่อยที่หนึ่ง! ดึก ๆ ลูกค้าเยอะมากเลยต้องรีบมากินตั้งแต่หัววัน พูดไม่ทันขาดคำก็มีคนมานั่งข้าง ๆ เสียงทุ้ม ๆ เอ่ยบอกเมนูกับลุง

     


    ถึงจะมีแต่กลิ่นซุปอยู่เต็มจมูกก็เถอะ แต่กลิ่นน้ำหอมคนข้าง ๆนี่คุ้นมาก ก็เลยแอบมองนิดหน่อย ผู้ชายผมสีบลอนด์สว่างจนเกือบซีดใส่ฮู้ดแขนยาวสีดำกับผ้าพันคอสีแดงผืนใหญ่ พอเหลือบลงไปมองข้างล่างก็ดันใส่กางเกงวอร์มสีดำแถบขาวไปอีก คุ้น ๆ เนอะ

     

    เหมือนว่าคนข้าง ๆ จะรู้ตัวว่าโดนแอบมองเลยหันมามองตอบ ตาโต ๆ แต่หนังตาตกลงมาเกือบครึ่ง ท่าทางง่วง ๆ บวกกับใต้ตาแล้วได้แต่นึกในใจว่าหมอนี่มันไม่ได้นอนมากี่วันแล้วเนี่ย จมูกก็โด่งจนน่าอิจฉา แถมปากยังแดงได้รูปสวยอีก หล่อเกินไปรึเปล่าครับคุณ 


    แต่หน้าคุ้น ๆ เนอะ มั่นใจว่าไม่เคยเห็นแต่คุ้น ๆ ยิ่งไฝที่แก้มขวานั่นยิ่งคุ้นไปใหญ่

     

    เหมือนว่าจะเผลอจ้องนานเกินไปอีกฝ่ายถึงได้จ้องกลับไม่วางตา


    ไม่ได้หาเรื่องนะครับ หันกลับมากินราเม็งตัวเองต่อ

     


    มารอร้านเปิดเกือบทุกวันเลยนะครับฮายาคาวะซัง


     

    ลุง ลุงชื่อฮายาคาวะรึเปล่า แต่มองแล้วลุงก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรกับชื่อนี้ ยังคงยืนลวกเส้นต่อไม่รอแล้วนะ แล้วมันจะมีใครอีกนอกจากเขา

     

    มาซาโตะหันไปมองคนข้าง ๆ ช้า ๆ


     

    ผมหรอครับ?” มาซาโตะชี้ที่ตัวเอง

     

    ไม่ได้เจอกันปีเดียว หัวเหม่งขึ้นเยอะเลย” อีกฝ่ายไม่ตอบคำถามแถมยังมาล้อหน้าผากเขาอีก ไอ้ท่าทางแบบนี้มันคุ้น ๆ แต่คน ๆ นั้นตัวเล็กนิดเดียว ไม่ใช่ตัวใหญ่เป็นหมีป่าแบบนี้ แต่เพื่อความแน่ใจ

     

    โทรุหรอ...?

     


    ไม่มีคำตอบ มีแต่รอยยิ้มกลับมา


     ใช่หรอ?


    บอกแล้วอย่ากินเยอะ ตัวบวมเชียว






    TBC.

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in