เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ทริปอลวนองฮุนfebturday
Special : เธอ ทาร์ตไข่ และมาเก๊า
  • BGM : Let Me  by  ZAYN




     

    การรักกันมันยาก

    แต่ “การใช้ชีวิตคู่” อยู่ด้วยกันมันยากยิ่งกว่า



    ไม่ใช่พระเจ้าที่ไหนเอื้อนเอ่ยหรอก


     

    หากแต่เป็นความคิดคำนึงของผู้ชายร่างสูงบางที่กำลังไล้คางตัวเองเบาๆริมถนนแห่งหนึ่งในหมู่บ้านริมทะเลที่ห่างจากประเทศไทยเกือบ 1,700 กิโลเมตรแบบนี้

     

    เพราะมันไม่ใช่แค่ความหอมหวาน

    เพราะมันไม่ใช่แค่ความสนุกสนาน

    เพราะมันไม่ใช่แค่รอยยิ้ม

    เพราะมันไม่ใช่แค่เสียงหัวเราะ


    เพราะมันไม่ใช่แค่การเคียงข้างกันในทุกๆวัน

    บางวันอาจจะมีคนที่นำหน้า

    อีกวันอาจจะมีอีกคนกลายเป็นผู้ตาม


    และในหลายๆวันที่อาจจะมีน้ำตา...


     

    มีบางคนกระซิบเบาๆแต่หนักแน่นมาตามลมฟ้าอากาศว่า

     

    “การใช้ชีวิตคู่ คือ การตกหลุมรักความน่าเบื่อของกันละกัน”

     

    องซองอู รู้ดีก็วันนี้


    วันที่เขาเหวี่ยงตัวเองออกจากงานการอันแสนยุ่งเหยิงโรมรันพันตูที่โรงพยาบาลกลางใจเมืองหลวงที่ทั้งอันตรายและบ้าคลั่งมาที่นี่

      

    วันที่เขาขอลางานแบบด่วนๆ ขอแลกเวรจากเพื่อนหมอจนแทบจะกราบกราน

    เพียงเพราะเป็นความต้องการของ “คู่ชีวิต” อย่าง...

     

    พัคจีฮุน

     

    ใช่แล้ว...คุณแฟนของเขายังเสพติดการติดการกินขนมหวานเหมือนเคย

    และชวนแกมบังคับให้เขามาเป็นเพื่อนเพื่อตามหา “ทาร์ตไข่” เจ้าอร่อยไกลถึงนี่

     

    ใช่แล้ว...ขณะนี้ซองอูยืนอยู่ริมถนนหน้าร้านทาร์ตไข่ชื่อดัง “Lord Stow's Bakery”   ที่เกาะโคโลอานของประเทศเล็กๆอย่างมาเก๊า  

     

    มาเก๊า...อยู่ไม่ไกลจากฮ่องกง

    มาเก๊า...เมืองแห่งคาสิโนและแสงสีในยามค่ำคืน

    มาเก๊า...เมืองที่ครั้งหนึ่งเป็นเมืองขึ้นของโปรตุเกสยาวนานนับ 500 ปี

    มาเก๊า...เมืองแห่งสถาปัตยกรรมเก๋ไก๋ที่ผสมผสานระหว่างความเป็นโปรตุกีสกับจีน


    อันที่จริงแล้ว ร้านทาร์ตไข่ Lord Stow มีสาขาที่เวเนเชี่ยน เดินทางสะดวกสบายกว่ามาที่โคโลอานเสียอีก แต่จีฮุนบอกว่ายังไงก็ต้องมากินสาขาดั้งเดิมที่เกาะนี่ ด้วยเหตุผลที่ว่า


    "ที่เกาะโคโลอานมันเป็นสาขาแรกไงพี่อ๋ง มาทั้งทีก็ต้องมาให้ถึง"  จีฮุนย้ำเหตุผลหนักแน่นก่อนจะเล่าประวัติคร่าวๆของทาร์ตไข่เจ้านี้ว่า


    "คุณแอนดรูว์ สโตว์เป็นชาวอังกฤษที่ย้ายมาทำงานที่มาเก๊า แล้วก็มาทำทาร์ตไข่สไตล์โปรตุกีส จุดเด่นก็คือ แป้งทาร์ตจะบาง กรอบ ส่วนไส้ทาร์ตก็จะหวานกำลังดี เนื้อเนียน นุ่ม เวลากัดไปพร้อมๆกันนะ สวรรค์เลยอะพี่อ๋ง"  จีฮุนบรรยายนัยน์ตาเป็นประกาย


    "โหววววว ... เราเล่ามาซะขนาดนี้ คงจะอร่อยจริงๆล่ะนะ " ซองอูยิ้มเอ็นดูเจ้าก้อนก่อนจะทำหน้าพยักพเยิดตาม


    "แล้วพี่อ๋งรู้ไหม ว่าที่มาเก๊ามีทาร์ตไข่อีกเจ้าหนึ่ง เค้าว่ารสชาติคล้ายๆกัน เป็นคู่แข่งกันด้วย  พี่รู้รึเปล่าว่าใครเป็นเจ้าของ"  เจ้าหนูจำไมของซองอูสาธยายต่อ


    "พี่ไม่รู้ครับ ใครจะไปรู้เล่าาาาา"


    "เมียเก่าคุณแอนดรูว์น่ะเอง ใช้ชื่อว่า Margaret"


    "ศึกผัวเมียเลยว่างั้น  กลับเข้าเมืองเราต้องไปชิมแล้วล่ะ อยากรู้จังว่าของใครจะอร่อยกว่ากัน"


    "นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วครับคุณหมอ"  จีฮุนยิ้มแป้นแล้น

     

    นึกๆดู บางทีไอ้การบ้าเดินทางและไอ้ความบ้าตะลุยหาของกินของเจ้าตัวแสบของเขา

    บางทีมันก็น่าหมั่นไส้ระคนน่าเบื่อขึ้นมาในบางคราว


    แต่ด้วยความเข้าใจในตัวตนและความน่ารักที่มากกว่าโลกชุบแป้งทอดของจีฮุน

    ความน่าเบื่อที่ซองอูรู้สึกก็จะเริ่มกลายเป็นฝุ่นควัน

    และสลายไปในสักที่


    สักที่ที่เรียกว่า “ความรัก”

     

    เขาเองก็รู้ดีตั้งแต่กลับจากทริปฮันนีมูนที่ปูซานว่ายังแบ่งเวลาไม่ค่อยดี

    สมดุลของเรื่องงานและความรักบางทีมันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด


    ที่ผ่านมางานการโหมกระหน่ำเข้าใส่ราวกับเขาเป็นเพียงผู้กอบกู้โลกเพียงผู้เดียว

    เขาต้องเดินทางไปไปสัมมนาที่อเมริกานานนับอาทิตย์

    และพอกลับมาเมืองไทยก็ถูกจองคิวผ่าตัดแน่นเอี๊ยด


    ใช่...เขาเป็นหมอเฉพาะทางด้านสมอง

    ด้วยความสามารถของเขาเองก็เป็นที่ต้องการของสังคม และบางทีด้วยความเป็นคนดีเกินไป

    ก็ทำให้ต้องแบกรับหลายอย่างที่ไม่ควรจะรับ

     

    จีฮุนเป็นคู่ชีวิตที่ดี  จีฮุนพยายามจะเข้าใจ แต่มันก็มีบางครั้งที่เหลือทน 

    อย่างคราวนี้ที่องซองอูทำงานไม่มีวันหยุดต่อกันนานถึงยี่สิบวัน!


    เกือบ 3 อาทิตย์แล้ว...ที่ไม่ได้ใช้วันหยุดด้วยกันเลย  เต็มที่ก็คือจีฮุนไปรอรับซองอูที่โรงพยาบาลตอนเย็นแล้วทานมื้อค่ำด้วยกัน  เคยคิดจะชวนไปดูหนังแต่สุดท้ายก็ล้มเลิกเพราะจีฮุนคิดว่าพี่อ๋งจะไปหลับในโรงเสียเวลาเปล่าๆ



    พัคจีฮุนต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...


     

    ค่ำคืนหนึ่งหลังจากเลิกงานกลับถึง “บ้าน”  หลังจากอาบน้ำกินข้าวคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ นั่งดูทีวีซบกันจนคุณหมอคนบ้างานเมื่อยไหล่  จีฮุนคนน่ารักก็ช่วยนวดไหล่ให้ ก่อนจะเปลี่ยนอิริยาบถมานอนบนตักแทน



    เป็นชีวิตคู่ที่เรียบง่าย ไม่มีอะไรผาดโผน

    เป็นชีวิตที่ดูธรรมดาเหมือนคู่รักทั่วไป

    บางวันที่จีฮุนเหน็ดเหนื่อยจากงานก็จะมาระบายกับซองอู

    เช่นเดียวกันกับซองอู วันไหนอ่อนล้าก็จะมาขอกำลังใจจากจีฮุน


    บางวันถูกปลอบประโลมด้วยคำพูดและกอดอุ่นๆจากกันและกัน

    บางวันถูกปลอบขวัญด้วยจูบหวานๆและไวน์ดีๆสักขวด


    พวกเขาใช้ชีวิตด้วยกันแบบนี้



    นอนบนตักคนพี่ได้สักแป๊บ จีฮุนก็หันหน้างับเข้าที่หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันใดๆของ "สามี" ตัวเอง    ก่อนจะโดนคนตัวสูงแก้แค้นด้วยการเอามือจิ้มพุงน้อยๆ ที่กำลังกระเพื่อมอยู่

     

    จีฮุนหลุดหัวเราะก๊าก ใช้มือปัดป่ายตีคนพี่พอเป็นพิธี ก่อนจะบ่นอิจฉาคนข้างกายว่าทำไมกินเท่าไหร่ก็ไม่มีพุง  คงจะถึงเวลาที่ตัวเองจะไดเอทบ้างแล้ว


    และยังไม่ทันพ้นเส้นเรื่องลดน้ำหนักก็โพล่งออกมาว่า

     

    “พี่อ๋ง เราอยากกินทาร์ตไข่ พาไปกินหน่อยน๊า”

     

    เพิ่งจะบ่นอยากผอมไปไม่ทันไรก็วกกลับมาเรื่องของกินอีกแล้ว  -  ซองอูคิด

     

    “ก็ไปสิ ร้านไหนอะ  หรือจะโทร.สั่ง”

     

    “โทร.สั่งไม่ได้ เค้าไม่มาส่ง มันไกล”

     

    “จะไกลแค่ไหนเชียวในกรุงเทพมีร้านเบเกอรี่เยอะแยะ เคเอฟซีก็มี”

     

    “โอ้ยยยย มันไม่เหมือนกัน ไม่เอา เราจะกินแบบออริจินัล แบบของแท้ดั้งเดิม”

     

    “งอแง พี่บอกแล้วใช่ไหม ให้งดน้ำตาลผลตรวจล่าสุดของเราน่ะ น้ำตาลเกินแล้วนะ”

     

    “นะ นะ นะครับที่รัก  สัญญาเลยถ้าได้กินทาร์ตไข่คราวนี้ เราจะงดกินของหวาน 1 เดือน”

     

    “โอเค งั้นไปกิน  ที่ไหนล่ะ ไกลมั้ย”

     

    “มาเก๊า”

     

    “ห๊ะ มาเก๊า!!!!!

     

    “และนี่ก็เป็นคำขาด พี่อ๋งต้องไปลางาน!!! พาเราไปกินทาร์ตไข่”

     

    หลังจากได้ยินองซองอูสตั๊นท์ไป 10 วินาที และยังไม่ทันจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้  พัคจีฮุนก็บอกย้ำด้วยเสียงเข้มๆ ชนิดที่ทำเอาปฏิเสธไม่ได้

     

    “ถ้าไม่ไป ไม่ลางานพาเราไป  นอนนอกห้องยาวๆไปเลยยยยยยยยย!!!!

     

    วงหน้าสวยทำท่ากระเง้ากระงอดจมูกย่นยับ แววตากวนประสาทคู่นั้นมองมา 

     

    ขู่แบบนี้ใครจะกล้าหือล่ะ

     

    หลังจากนั้นองซองอูต้องรีบจัดการตัวเองโดยด่วนและนั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นของทริปสั้นๆ 3 วัน 2 คืนและในที่สุดก็มายืนอยู่ตรงหน้าร้านทาร์ตไข่ Lord’s stow

     

     

     

    หลังจากรอซื้อนานนับครึ่งชั่วโมงเพราะมีทั้งลูกค้าขาประจำและขาจรแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสายก็ถึงคิวของทั้งคู่ 


    จีฮุนจ่ายเงินเรียบร้อยและถือทาร์ตไข่ออกจากร้านสองกล่อง  กล่องหนึ่งจะมีทาร์ตไข่อยู่ 6 ชิ้น เท่ากับว่าจีฮุนซื้อมา 12 ชิ้น

     

    “ซื้อมาเยอะแบบนี้ กินหมดเหรอ”

     

    “พี่อ๋งก็ช่วยเราด้วยดิ”

     

    “ช่วยมากสุดได้สองชิ้นนะ”

     

    พูดไม่ทันขาดคำจีฮุนก็ยัดทาร์ตไข่อุ่นๆไปที่มือของซองอู ก่อนคนตัวเล็กจะหยิบอีกชิ้นเข้าปากกัดกร้วมมมมม!!!!

     

    “โอยยยย พี่อ๋ง  อร่อยยยยยยย อร่อยจนอยากร้องไห้”  จีฮุนสะทำหน้าฟินพร้อมกับสะบัดมือเร่าๆ


    - เด็กน้อยเอ้ยยยยย แค่ได้กินของอร่อยก็ทำให้มีความสุุขได้ง่ายๆ -  เจ้าของกลุ่มดาวสามดวงบนใบหน้าหล่อคมนึกในใจก่อนจะระบายยิ้มน้อยๆออกมาโดยไม่รู้ตัว


    ไม่บอกก็รู้เพราะพอจบประโยค  ทาร์ตไข่อีกครึ่งนึ่งก็ถูกจีฮุนจัดการเรียบร้อย  

    ซองอูจับเจ้าทาร์ตไข่มามองดูด้วยความฉงนฉงายก่อนจะกัดเข้าไปคำหนึ่ง

     

    “อืมมม อร่อยจริงด้วย” 


    “เห็นมั้ยล่ะ  อร่อยกว่าทุกเจ้าที่เคยกินเลยเหอะ”


    “โอเคๆ เชื่อแล้ว”

     

    บทสนทนาของคู่รักกับทาร์ตไข่ข้างถนนหน้าร้าน 

    นั่นล่ะ 

    พวกเขายืนกินหน้าร้านกันเลยทีเดียว 

     

    พี่อ๋ง  เดี๋ยวเราเดินไป ชมบ้านชมเมืองไป กินทาร์ตไข่ไปด้วยเนอะ”


    “ได้เลย ที่นี่บรรยากาศดีเนอะไม่น่าเชื่อว่าจะสงบขนาดนี้”


    “เกาะโคโลอานมันมีเสน่ห์ก็ตรงนี้”


    “ฮ่องกงดูวุ่นวายกว่ามากเลยนะ”

     

    ว่าแล้วทั้งคู่ก็เดินออกจากร้านทาร์ตไข่ที่มีลูกค้าเต็มร้าน  เดินเลาะเรื่อยไปตามริมถนน  แน่นอนว่าซองอูทำหน้าที่สุภาพบุรุษถือทาร์ตไข่ทั้งสองกล่องและคอยหยิบให้จีฮุนเป็นระยะๆ


    เดินไปได้สักหน่อยก็หยุดพักเหนื่อยที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมถนนที่มีทำนบกั้นสูง มองออกไปก็จะเห็นวิวทะเลชัดๆ แม้น้ำทะเลจะไม่ได้สีสวยใสอย่างทะเลอันดามัน แต่หากในเวลาสายๆเช่นนี้ ดวงตะวันยังทำหน้าที่ได้ไม่เต็มสูบเพราะมีเมฆบดบัง  กอปรกับสายลมโชยพัดเย็นสบาย   แม้จะเหนอะหนะบ้างตามสภาพของลมทะเลแต่ก็ไม่ถึงกับเหนียวตัวและน่ารำคาญใจ


    ซองอูรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งมองไปดูคนข้างๆที่กำลังมีความสุขกับการกิน

    แค่มองเท่านี้เขาก็อิ่มใจมากล้น

     

    ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อเพียงไม่กี่ชั่วก้าวเดิน  ทาร์ตไข่ 1กล่องก็ถูกพัคจีฮุนจัดการไปเรียบร้อย ซองอูมองหน้าคนตาสวยยิ้มๆ แล้วจะใช้มือช่วยปัดเศษขนมที่ปาก

     

    ก่อนจะมองซ้าย...มองขวา

    พอเห็นว่าปลอดคนก็ขโมยจุ๊บปากเจ้าตัวเล็กไปสองที

     

    จุ๊บนี้ทั้งหอมทั้งหวานทั้งมันเลย


    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีเศษทาร์ตติดมาหน่อยหนึ่ง หรืออาจจะเป็นเพราะรสจากริมฝีปากเล็กนั่น


    เอาเถอะ ยังไงก็ช่าง  องซองอูบอกว่า "ดีทั้งนั้น"

     

    “ไอ้พี่บ้า!  อายคน”


    “อายทำไม พี่ดูแล้ว ไม่มีคนจริงๆนะ”

     

    ดวงตาคู่สวยแม้จะดูขวยเขินแต่ก็ยังคงเปล่งประกายน่ามอง ซองอูยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆและส่งสายตาหวานกึ่งเย้า จีฮุนหน้าแดงหลบตามองต่ำเพราะทนแรงต้านทานของสายตาคนพี่ไม่ไหว  ก่อนที่ซองอูจะเลิกยั่วคนรักตัวเล็กและหันไปจับมือกระชับแน่น และออกเดินต่อ

     

    “ขอบคุณนะครับที่อยากกินทาร์ตไข่ที่นี่”   ลมเย็นๆลอยมาปะทะหน้าขณะที่ร่างสูงหันไปมองหน้าอีกฝ่าย


    "พี่รู้...เราอยากพาพี่มาพักมากกว่าใช่ไหม"


    "อยากให้พัก แล้วก็อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน"  เปล่งเสียงเบาๆก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูงกว่า


    “ยังไงก็ขอบคุณพี่อ๋งนะครับที่ยอมลางานพาเรามา”



    ซองอูชะงักไปหน่อยหนึ่งก่อนจะหยุดเดินและหันไปจับไหล่คู่ชีวิตที่เขาแสนจะรักนักหนา มือเรียวเหมือนร่างลงน้ำหนักที่ไหล่ทั้งสองข้างของจีฮุน ก่อนจะสบสายตาและกล่าวคำขอโทษ


     

    “ขอโทษจริงๆนะจีฮุนที่พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้เราเลย สัญญาเลยต่อไปจะปรับปรุงตัว”


    “ไม่เป็นไร เราเข้าใจว่างานพี่เป็นงานที่ต้องดูแลคนอื่น แต่เราก็อยากให้พี่อ๋งพักบ้าง ดูแลตัวบ้าง”          ถ้าจีฮุนมองไม่ผิดเหมือนจะเห็นน้ำใสๆคลอเบ้าชายคนรัก  องซองอูคงจะรู้สึกผิดมากจริงๆ


    “ถามจริง ทำไม....” 


    ซองอูกำลังจะถามเหตุผลจีฮุนว่าทำไมถึงอยากมาที่เกาะโคโลอานแห่งนี้  คงไม่ใช่เพียงเพราะทาร์ตไข่อย่างเดียวแน่ๆ เลย ใช่ไหม?

     

    ยังไม่ทันจบประโยคคำถาม เจ้าตัวเล็กก็เขย่งตัวมาขโมยจุ๊บเขาแบบไม่ทันตั้งตัว 

    ก่อนจะยิ้มกว้างพร้อมกับเปล่งเสียงเขินๆออกมาว่า

     

    “เอาคืน!

     

    ซองอูไม่แน่ใจว่าที่หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ 

    เป็นเพราะรสชาติของทาร์ตไข่เจ้าดัง 

    บรรยากาศสบายๆของเกาะโคโลอาน

    หรือรสของจุ๊บเล็กๆเบาๆแต่หวามไหวและหวานชะมัดยาดของจีฮุน


     

    มันอาจจะเป็นสามอย่างนี้รวมกันก็เป็นได้

    ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่หรอกนะ

    ที่แน่ใจเหลือเกินก็คือ

     

    ตอนนี้เขาโคตรมีความสุขเลย 

     

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in