ดังนั้น เราขอใช้โอกาสนี้มาตอบคำถามเหล่านั้นทีเดียวเลยละกันนะคะ ขอบอกก่อนว่าสิ่งที่เราเขียนทั้งหมดต่อจากนี้เป็นเพียงความเห็นและคำแนะนำของเราเท่านั้น เราไม่ใช่คนเก่งมาก แต่เราก็ยินดีที่จะช่วย ถ้าเราช่วยได้ ส่วนจะเชื่อแค่ไหน จะทำตามแค่ไหน ก็ไปลองปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองดูนะคะ
*3 ข้อที่สำคัญและควรทำระหว่างเตรียมตัวสอบในความคิดของเรา*
1. เปิดใจ
ถ้าเราอ่านหนังสือสอบด้วยความรู้สึกที่ว่า
ไม่ชอบเลย, ยากมาก ทำไม่ได้แน่ๆ เหมือนโดนบังคับให้ทำ มันก็ไม่มีความสุขหรอกค่ะ มีแต่จะเบื่อ แล้วก็หนีไปเล่นโทรศัพท์ (หลายคนพยักหน้าหงึกๆ แล้วสงสัยว่า
พี่คะ ก็มันยาก จะให้หนูมองมันง่ายได้ยังไง?) เราไม่ได้จะให้น้องมองว่ามันง่าย แต่ให้น้องลองลบอคติที่มีออกไปก่อน ด้วยวิธีไหนก็ได้ มันเหมือนกับเราไม่ชอบเพื่อนคนนึง แต่เราต้องคบกับเขา ทีนี้จะ
"ทำยังไงให้เราอยู่ด้วยกันได้?" บางครั้งพอลบอคติออกไปแล้ว ไม่แน่เขาอาจจะกลายเป็นเพื่อนรักน้องก็ได้ แต่ถ้าน้องเลือกที่จะไม่คบเขา อันนั้นก็เป็นการตัดสินใจของตัวน้องเอง #การอ่านหนังสือสอบก็เช่นกัน
2. ทำความรู้จักข้อสอบ
ในที่นี้คือ 2.1 รู้ว่าคณะที่เราสนใจต้องใช้คะแนนวิชาอะไรบ้าง ใช้อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องใช้เกรดมั้ย มีเกณฑ์ขั้นต่ำเท่าไหร่ ฯลฯ เราอยู่ในยุคที่สามารถเข้าถึงสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายมากเมื่อเทียบกับยุคพ่อแม่เรา ดังนั้นเมื่อมีคณะในฝันแล้ว รีบทำข้อนี้เลยนะคะ!
เมื่อรู้แล้วว่าต้องสอบอะไรบ้าง สิ่งที่สำคัญสิ่งต่อมาก็คือ 2.2 รู้ว่าในข้อสอบมันมักจะออกอะไร ไม่จำเป็นต้องรู้เป๊ะๆ เหมือนคนออกข้อสอบ (เพราะนั่นเป็นไปได้ยากมาก) แต่ให้รู้แนวว่าเราต้องอ่านอะไร หัวข้อไหนไม่ออก หัวข้อไหนออกบ่อย - มันจะทำให้การอ่านหนังสือสอบของเรามีทิศทางมากกว่าการเอาแต่ยัดทุกอย่างลงไปค่ะ (ข้อนี้คือสิ่งที่บรรดาโรงเรียนสอนพิเศษต่างๆ เขาแถมมาให้น้องเวลาเรียนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าจะไม่เรียนพิเศษ ข้อนี้ก็สำคัญมากนะคะ) และการที่จะบรรลุข้อ 2.2 ได้ง่ายขึ้นนั้น สิ่งที่สำคัญก็คือ... การทำข้อสอบเก่า เพราะมันจะทำให้เราได้ฝึกซ้อมบ่อยๆ ละพอทำไปมากๆ เราก็จะเริ่มจับทางได้ละว่าข้อสอบวิชานี้มันชอบออกประมาณนี้
อีกสิ่งที่สำคัญคือการจับเวลาทำข้อสอบตามเวลาในสนามจริงค่ะ ต่อให้น้องรู้ว่าวิชานี้สอบ 1 ชม. 30 นาที แต่น้องไม่เคยนั่งจับเวลาลองทำจริงๆ ถึงวันสอบจริงน้องก็มีโอกาสที่จะพลาดทำไม่ทันได้อยู่ดีนะ
3. มีวินัยในตัวเอง
แน่นอนว่าข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะแม้ว่าน้องๆจะทำ 2 ข้อบนได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าน้องทำได้ไม่นานและไม่สม่ำเสมอ ผลลัพธ์มันคงไม่ออกมาดีเท่าที่ควรค่ะ หลายๆคนเริ่มอ่านหนังสือเร็วแต่ไฟก็มอดเร็วเช่นกัน เราก็เป็นคนนึงที่เริ่มอ่านหนังสือ (เล็กๆน้อยๆ) ตั้งแต่ ม.4 และก็มีช่วงที่ไฟมอดเหมือนกัน มันไม่ผิดที่เราจะรู้สึกเหนื่อย ที่เราจะรู้สึกท้อ แต่ขอให้เรายอมรับ พักผ่อน แล้วก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่ บางคนไม่รู้ตัวกับสภาวะนี้ด้วยซ้ำ ทำให้พลาดไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้นความสม่ำเสมอและการมีวินัยเป็นเรื่องที่สำคัญ เราไม่จำเป็นต้องมีวินัยแค่กับเรื่องเรียน แต่ต้องมีวินัยกับเรื่องการพักผ่อนด้วย | ส่วนเรื่องการจับเวลาตอนอ่านหนังสือ เห็นหลายๆคนชอบทำ เรามองว่าใครใคร่ทำก็ทำ แต่ใครไม่ชอบทำก็ไม่เป็นไร (เพราะเราก็ไม่ทำ 5555) เราว่าสิ่งที่สำคัญกว่า 'จำนวนเวลาที่ใช้' คือ 'ปริมาณสิ่งที่เราได้เรียนรู้' มากกว่า
เมื่อรู้อย่างงี้แล้ว ก็มาเข้าเรื่องหนังสือที่เราอ่านกันเลยดีกว่า
มาเริ่มกันในส่วนของวิชาภาษาไทย หนังสือที่เราใช้อ่านมีแค่ 3 เล่มนี้จริงๆ เห็นแล้วอาจจะงงว่าอ่านแค่ 3 เล่มนี้แล้วได้ 90 เลยหรอ ต้องบอกเลยว่าเนื่องจากภาษาไทยของ 9 วิชาสามัญค่อนข้างเน้นการคิดวิเคราะห์มากกว่าจำหลักภาษา ดังนั้นเราเลยรู้สึกว่าอ่านแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไปเน้นทำข้อสอบเก่าดีกว่า พอทำข้อสอบเก่ามากๆจะรู้เลยว่าวิชาภาษาไทยของ 9 วิชาไม่ยากอย่างที่คิด!หลักภาษาไทย ม.๔-๕-๖ (ฉบับสมบูรณ์) - มีหลักภาษาไทยให้อ่านเยอะดี คิดว่าครบหลักสูตร ม.ปลายจริงๆ ก็ตามชื่อหนังสืออะเนอะ 5555 | สำหรับน้องๆที่ยังพอมีเวลา เล่มนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะอธิบายแต่ละหัวข้อได้ค่อนข้างละเอียดมากๆ เป็นหนังสือที่เหมาะแก่การเริ่มต้นอ่าน เพราะมันอ่านไม่ยาก (มันเลยเหมาะกับเรามาก เพราะเราไม่ค่อยได้เรียนวิชานี้ในห้องเท่าไหร่)
เทคนิคภาษาไทย ม.ปลาย - เล่มนี้แนะนำมากกก เพราะเหมาะกับทั้ง O-NET และวิชาสามัญ ข้อดีของเล่มนี้ก็คือ มีแบบฝึกหัดเยอะสะใจ แต่ในส่วนเนื้อหาอาจจะไม่ได้อธิบายละเอียดเท่าเล่มข้างบน เล่มนี้จะออกแนวเป็นสรุปมากกว่า ใครที่พอมีความเข้าใจพื้นฐานแล้วอาจจะมาลองอ่านเล่มนี้เลยก็ได้ค่ะ (แต่แอบสารภาพนิดนึึงว่าอ่านเล่มนี้ไปนิดเดียวเอง เพราะเราเจอเล่มนี้ก็ตอนใกล้สอบแล้ว /น้องๆ จงอย่าเป็นแบบเรานะ ถถถถ)
THAI RANGER - เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่เหมาะกับทั้ง O-NET และวิชาสามัญ ข้างในจะมีแบบฝึกหัดแทรกมาตลอด ส่วนตัวเนื้อหาเมื่อเทียบกับเล่มบนก็น้อยกว่าในระดับนึง อันนี้จะสรุปหัวข้อที่เน้นๆมาเลยจริงๆ เราคิดว่ามันเหมาะมากสำหรับคนที่เวลาเหลือน้อย
ต่อมาวิชา
สังคมศึกษา วิชาคู่ปรับตลอดกาลของเราเอง คือตอนแรกกลัววิชานี้มาก เพราะทำข้อสอบเก่าทีไรก็จะได้คะแนนไม่เคยถึง 60 (ตอนนั้นทำทีไรก็เฟล เป็นวิชาที่ทำให้เราเหนื่อยมาก 55555) ด้วยเหตุนี้ทำให้เราซื้อหนังสือวิชานี้มาอ่านค่อนข้างเยอะ แต่สุดท้ายเราก็พบวิธีการเรียนสังคมวิธีนึงที่มีประสิทธิภาพมากๆสำหรับเรา ซึ่งก่อนจะไปถึงตรงนั้น ขอเริ่มที่รีวิวหนังสือแต่ละเล่มก่อนละกันนะคะ
สรุปสังคม ม.ปลาย (ของพี่บอล) - เล่มนี้ฮอตฮิตมากกกก มีแต่คนแนะนำ เราก็ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่แนะนำเล่มนี้ สิ่งที่เราประทับใจมากๆของเล่มนี้ก็คือ พี่บอลใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และมีการแทรกมุกตลกนิดๆหน่อยๆในเล่มด้วย เหมาะที่จะใช้เป็นเล่มเริ่มต้นในการอ่านสอบวิชานี้ค่ะ
(ปล. พี่บอลออกหนังสืออีกเวอร์ชันแล้วนะคะ เปลี่ยนเป็นปกสีชมพู เป็นฉบับปรับปรุงค่า)หัวใจสังคม มัธยมปลาย (อ.ชัย) - เล่มนี้เราชอบตรงที่มันมีตัวหนังสือเยอะดี (ไม่ได้อ่านผิดนะ ไม่ต้องอ่านใหม่ 5555) คือคนอื่นอาจจะชอบหนังสือที่มีรูปเยอะๆ มีสีเยอะๆ แต่เราชอบไฮไลท์เอาเองมากกว่า ถ้าอยากจะอ่านเล่มนี้ เราแนะนำว่าควรมีพื้นฐานมาสักหน่อยก่อนอ่าน ไม่งั้นอาจจะไม่เข้าใจและเบื่อเล่มนี้ได้ เพราะเนื้อหาเขาเยอะและละเอียดมากๆ แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นข้อดีนะ เพราะวิชาสังคมมันจะออกอะไรก็ได้ ถูกมั้ย?
DA' VANCE เฉลยข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย สังคม (ย้อนหลัง 11 ครั้ง) - ชอบตรงที่อ.ปิงอธิบายเฉลยได้เข้าใจง่ายมากๆ (เล่มนี้มีแต่ข้อสอบกับเฉลยน้า ไม่มีเนื้อหา)
Social สรุปสังคม มัธยมปลาย (ติวเตอร์พอยท์) - เล่มนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบหนังสือที่มีรูปเยอะๆ มีสีเยอะๆ ตามชื่อหนังสือเลยค่ะ มัน 'สรุป' จริงๆ | แต่ก็มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เล่มอื่นไม่มีนะ (ไม่งั้นก็เราหาไม่เจอเอง 5555) | ข้างหลังมีแบบฝึกหัดสังคมแต่ละหมวดแยกไว้ให้ด้วย แต่ข้อเสียของเล่มนี้คือเฉลยไม่มีคำอธิบายค่ะ
ลูกเล่นข้อสอบสังคม (อ.ชัย) - เล่มนี้แตกต่างจากเล่มอื่นตรงที่ว่า เล่มนี้จะเอาเรื่องที่น่าสับสนมาเปรียบเทียบกัน ยกตัวอย่างเช่นหลักธรรมที่ชื่อคล้ายๆกัน เขาก็จะเน้นว่าอันนี้คืออย่างนี้ อันนั้นคืออย่างนั้น เราเลยรู้สึกว่ามันเหมาะกับการอ่านสังคมสอบวิชาสามัญมาก เพราะโจทย์มันช่างหลอกและซับซ้อนมากกว่า O-NET อยู่หน่อยๆ | ถ้ามีเวลาอ่านเล่มนี้จนจบก็จะดีมากเลยค่ะ แต่เราอ่านไม่จบ... ถถถถถถ
DA' VANCE Turbo Course - เล่มนี้เราได้มาจากพี่รหัสเราที่เรียนพิเศษกับอ.ปิง พี่เขาส่งต่อมาให้เรา (โชคดีมาก) รู้สึกว่าเป็นหนังสือที่เหมาะมากสำหรับการทบทวนก่อนสอบ เอาไว้กันลืม เพราะมันเทอร์โบตามชื่อคอร์สจริงๆ | ส่วนเรื่องคอร์สเราขอไม่พูดถึงนะคะ เพราะเราไม่ได้เรียน
CARTOONOMICS - เนื่องจากตอนแรกที่เราเริ่มอ่านสังคม เรามีปัญหากับหมวดเศรษฐศาสตร์เป็นอย่างมาก งงมาก (แบบว่า ต้นทุนค่าเสียโอกาสคืออะไรวะ ละดุลชำระเงินคือไร ไม่เข้าจัยยยยยยย *กุมขมับ*) เราก็เลยพยายามหาวิธีอื่นในการทำความเข้าใจ โดยการ 'ซื้อหนังสือการ์ตูนมาอ่าน' ซึ่งก็คือเล่มนี้นี่เอง เหมือนที่เราบอกทุกคนไปตอนต้นไงว่าที่สำคัญคือ ต้องเปิดใจก่อน เพราะหลังจากที่เราอ่านหนังสือเล่มนี้ เราก็มองเศรษฐศาสตร์เป็นอีกหมวดนึงที่ข้อสอบไม่ยากขนาดนั้น และเป็นพาร์ทนึงที่น่าเก็บคะแนนมากๆในการสอบวิชาสามัญ
ส่วนอีกหนึ่งวิธีที่เรามองว่าได้ผลมากๆ สำหรับเราก็คือ การดูคลิปติวสังคมในยูทูป ค่ะ
มีทั้งของครูป๊อบ (รายการสอนศาสตร์ by ทรูปลูกปัญญา)
ละก็พี่บอลคนที่เขียนหนังสือเล่มแรกที่เราแนะนำไปข้างบน
กล้าพูดได้เลยว่าอาจารย์สองคนนี้ทำให้เราเปิดใจกับวิชาสังคมมากขึ้นเยอะ เรามองว่ามันเป็นเรื่องสนุกมากขึ้น ทำให้เราเข้าใจคอนเซ็ปต์มากขึ้น ไม่ใช่เอาแต่จำเนื้อหาเยอะๆโดยที่ยังไม่เข้าใจดี (ซึ่งแบบนั้นเราจะลืมง่ายมากๆ) เพราะฉะนั้นใครที่อ่านสังคมแล้วรู้สึกว่า
'เนื้อหาไม่เข้าหัว'
'อ่านไม่เข้าใจเลย'
'ทำยังไงให้จำได้มากขึ้น?'
แนะนำว่าให้ไปดูคลิปของอาจารย์สองคนนี้บ่อยๆเลย
**(ส่วนลิ้งค์เราขออนุญาตไม่แปะนะคะ เพราะมันเยอะมาก ลองเสิร์ชหาดูเอานะ)**
วิชาสุดท้ายแล้วววววววววว ปรากฎเหลือคนอ่านไม่กี่คน เพราะท้อตั้งแต่พารากราฟแรกแล้ว 55555
(อย่าเพิ่งท้อกันนะทุกคน) ภาษาอังกฤษคงเป็นวิชาที่หลายๆคนขยาดเอามากๆ (ขอออกตัวก่อนว่าคะแนนสอบที่ออกมาจริงๆก็ยังไม่เยอะสำหรับเรา เพราะปกติเวลาทำข้อสอบเก่าเราจะทำได้มากกว่านี้ แต่ในเมื่อมีคนถามมา เราก็ยินดีตอบ)
ถ้าให้พูดกันจริงๆ หนังสือที่ใช้อ่านในวิชานี้ที่เรามีส่วนใหญ่คือแบบฝึกหัดซะส่วนใหญ่ เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านแกรมมาร์แล้วจำอย่างเดียว เราเน้นการเห็นบ่อยๆ ใช้บ่อยๆ ให้มันซึมซับมากกว่า
ซึ่งเดี๋ยวจะพูดถึงเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ แต่ก่อนหน้านั้นมาเริ่มที่รีวิวหนังสือดีกว่า
บรรดาหนังสือของ อ.ศุภวัฒน์ - เรียกได้ว่าแทบจะเป็นหนังสือที่เด็ก ม.6 ทุกคนต้องมี เราก็ขอเป็นอีกหนึ่งเสียงยืนยันว่าแบบฝึกหัด+สรุปของอาจารย์เขาดีจริงๆ เฉลยเขาอธิบายละเอียด กระชับ เข้าใจง่ายจริงๆ
AX-25 by Enconcept - อันนี้เป็นหนังสือรวมข้อสอบที่ค่อนข้างครบมาก (ถึงจะยังไม่อัพเดตจนทันปีปัจจุบัน) แต่ก็ถือว่าข้อสอบเยอะมากอยู่ดี ใครอยากได้แบบฝึกหัดเยอะๆ เล่มนี้คุ้มค่าแน่นอน เฉลยที่พี่แนนก็เขียนละเอียดดีมากๆ มีคำแปล passage ภาษาอังกฤษในเฉลยให้ด้วย
แบบฝึกข้อสอบ ERROR - ส่วนตัวเราเป็นคนที่ไม่เป๊ะแกรมมาร์ ก็เลยอยากฝึกด้วยการหาข้อสอบ error มาทำเยอะๆ (เป็นพาร์ทที่ตกม้าตายประจำ) | แต่ถ้าถามว่าต้องซื้อมั้ย เราก็จะบอกก่อนว่าพาร์ทนี้ไม่มีใน 9 วิชาสามัญนะ แต่ถ้าน้องๆ อยากได้ความรู้เพิ่มเติมก็ลองดูได้ เพราะแบบฝึกหัดเยอะดี (แต่เหมือนจะมีข้อซ้ำๆโผล่มาเหมือนกันนะ)
CU-TEP Grammar - มีความคล้ายๆกับเล่มด้านบน ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าไม่มีพาร์ท error ใน 9 วิชาสามัญ แต่ถ้าอยากได้ความรู้เพิ่มเติม ก็จัดเลย! (จริงๆ เล่มนี้เราเอาไว้อ่านสอบ CU-TEP)
จับตาย! วายร้าย GAT & ADMISSION VOCAB - เนื่องจากว่าอยากได้คำศัพท์เพิ่มเติมนอกจากที่เคยเห็นมา เราก็เลยลองซื้อพาร์ท Vocab มาทำดู ขอบอกว่าเล่มนี้ดีมาก มีศัพท์ที่น่าสนใจเยอะเลย น้องๆ คนไหนยังพอมีเวลา อยากได้ศัพท์เพิ่มเติมก็อย่าพลาดเล่มนี้!
CU-AAT Practice Tests - ที่ซื้ือเล่มนี้มาเพราะว่าตอนนั้นเราไปสอบ CU-AAT แต่เราเห็นว่ามันช่วยการเตรียมสอบวิชาสามัญได้ตรงที่ passage มีความยาวเหมือนกัน (แต่เลเวลยากกว่าค่อนข้างมาก) ครั้งแรกที่เราทำเล่มนี้ รู้สึกโง่มาก 5555555 (เพราะเจอแต่ศัพท์ที่เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อน) แต่หลังจากที่ทำไปได้สักพัก เราสำนึกได้เลยว่า ยากสิดี! เพราะมันจะทำให้เราพร้อมที่จะอัพเกรดตัวเองขึ้นเรื่อยๆ หาสิ่งที่ท้าทาย และนี่คือสิ่งที่จะทำให้เราพัฒนา DON'T SETTLE FOR LESS!
อ่านขาด! อังกฤษ - เล่มนี้มีความผสมผสานระหว่าง GAT กับ วิชาสามัญได้อย่างลงตัว เลเวลศัพท์มันจะยากกว่า GAT หน่อยๆ แต่ passage จะไม่ยากเท่าวิชาสามัญ (สั้นกว่ามาก) เรียกได้ว่า 2 In 1 อ่านแค่ 1 แต่ได้ถึง 2!
แนวข้อสอบ 9 วิชาสามัญ - ขอรีวิว 3 เล่มนี้ทีเดียวเลยละกัน ระดับความยากอาจจะมีต่างกันเล็กน้อย บางอันก็เท่าข้อสอบจริง บางอันก็ยากไม่เท่า (เรายังไม่เจอที่ยากกว่าข้อสอบจริงใน 3 เล่มนี้) มีไว้ฝึกปรือฝีมือก็ดี แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้ง 3 เล่มก็ได้นะ
ขุดโคตร Idioms - เล่มนี้ไม่ใช่แบบฝึกหัด ด้วยความที่ส่วนตัวเราเป็นคนชอบอ่าน idioms อยู่แล้ว สิ่งนึงที่เล่มนี้ตอบโจทย์เรามากๆคือ มันเล่าถึงประวัติและที่มาของแต่ละสำนวน ซึ่งมันทำให้เราเข้าใจและจำง่ายขึ้น เราชอบเล่มนี้มากๆ แนะนำ!
ไม่ต้องเลิกเล่นมือถือ ไม่ต้องปิดทีวี ก็สามารถเรียนอังกฤษได้!
มาถึงพาร์ทสุดท้ายของบทความนี้แล้ว (เย่) ว่าด้วยเรื่องเทคนิคในการเรียนภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตามเราคิดว่าสิ่งที่สำคัญก็คือ ให้พาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ภาษานั้นเยอะๆ เช่น เราเป็นคนชอบดูหนังมากๆ เราก็ไม่เคยเลิกดูหนังถึงจะเป็นช่วงสอบก็ตาม เพราะเรามองว่าการมีช่วงเวลา relax หลังอ่านหนังสือเป็นเรื่องสำคัญ มันจะทำให้เรารู้สึกไม่ล้าเกินไป (แต่ก็ไม่ใช่ relax ทั้งวันนะ 5555)
สิ่งที่เราทำคือ เวลาดูหนังเราก็จะเปิดเป็นซับอังกฤษ แต่ถ้าบางเรื่องดูแล้วไม่เข้าใจจริงๆ เราก็จะดูซับไทยก่อนรอบนึง แล้วค่อยกลับมาดูซับอังกฤษ | เวลาเจอศัพท์ที่ไม่เข้าใจ เราก็จะจดๆลงสมุดรวมกันไว้ แล้วไปหาคำแปลทีหลัง เวลาฟังเพลงต่างประเทศก็เหมือนกัน บางครั้งเราก็จดเนื้อเพลงทั้งเพลง
สำหรับเรามันทำให้เราจำศัพท์ได้ง่ายขึ้น เพราะเราชอบและสนุกทีี่จะทำมัน
และถึงบางคนจะบอกว่าช่วงจะสอบควรเลิกเล่นมือถือ เลิกเข้าทวิตเตอร์เลย แต่เราไม่... เราใช้วิธีการ 'เพิ่มอีก account นึง' ฟอลแต่คนที่ทวิตเกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ, ข่าวต่างประเทศต่างๆ, ข่าวเรื่องการสอบเข้ามหาลัย หรือ ระเบียบการต่างๆ มันก็จะทำให้ timeline ของเราก็จะเป็นเหมือนหนังสืออีกเล่มดีๆนี่เอง
เท่านี้ เราไม่จำเป็นต้องเลิกใช้โซเชียลมีเดียช่วงสอบ แต่ขอแค่มีวินัยในตัวเองและใช้ให้เกิดประโยชน์
และแล้วบทความที่แสนยาวก็จบลง ตอนแรกเราก็กลัวว่าเขียนยาวไปน้องๆจะอ่านกันหรือเปล่า แต่พอเห็นคนที่เขารออ่าน เราก็อยากเขียนให้ดีๆ อยากแชร์สิ่งที่เราได้เรียนรู้มา
ทั้งนี้ถ้ามีข้อสงสัยอะไร เรายินดีที่จะตอบเสมอค่ะ
ช่องทางติดต่อ ask.fm/twitter @bam2gr
ฝากเพิ่มเติมก็คือเรากำลังลงขายหนังสือมือสองต่อ เข้ามาดูกันในทวิตเตอร์ได้นะคะ
และนี่ (คือการขายตรงครั้งที่ 3) ที่เห็นข้างล่างนี้เป็นคลิปสัมภาษณ์มุมมองจากพี่ๆ ในหัวข้อ 'พวกเราเรียนกันไปทำไม?' ที่เราทำกับเพื่อนสมัยม.6 - หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ
สุดท้ายนี้เราอยากขอบคุณทุกคน ทั้งอาจารย์และครอบครัว รวมถึงเพื่อนๆ ที่เป็นกำลังใจในวันที่เราท้อ ในวันที่เราเหนื่อย และขอบคุณตัวเองที่ไม่ท้อ ขอบคุณที่พยายามมาจนถึงวันนี้
เราหวังว่าทุกคนที่อ่านจะมี
'คนข้างๆ' เหล่านี้ไม่ต่างจากเรา
ขอให้คนที่มาอ่านทุกคนสู้ๆนะคะ :-)
(อย่าลืมเชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้!)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in