จันทบุรี Feat. ระยอง ชลบุรี - I’m going to …

เริ่มต้นบทแรกด้วยการไปเที่ยวจังหวัดจันทบุรีกันนะคะ

" จันทบุรีมีอะไร? "

เป็นคำถามที่เราเองก็สงสัยตั้งแต่ก่อนจะออกเดินทาง
เราใช้เวลาในการรวบรวมดูข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว อ่านรีวิว ตามหาที่พัก
จนในที่สุดก็ได้ข้อมูลที่คิดว่ามากพอที่จะออกเดินทางแล้ว...

การเดินทางของเราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
และใช้ GPS ในการนำทางตลอดทั้งทริปค่ะ

สถานที่แรกที่เราแวะก็คือ... ทุ่งโปรงทอง
ตั้งอยู่ในเขตชุมชนบ้านแสมภู่ ปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
"ทุ่งโปรงทอง"
เป็นเพราะความร้อนของอากาศทำให้เรายอมแพ้
เราออกจากทุ่งโปรงทอง เพื่อมุ่งไปยังสถานที่ต่อไป
แต่ระหว่างที่ขับรถไป จู่ๆฝนก็ลงเม็ดปรอยๆ
แต่เมื่อขับรถไปถึง จุดชมวิวเนินนางพญา ก็แดดเปรี้ยงเชียวค่ะ
ฝนตกตอนที่ไปเที่ยวเป็นอะไรที่...อาจจะทำให้เราทำได้เพียงแค่เฝ้ารอ
"จุดชมวิวเนินนางพญา"
ความสวยงามของจุดนี้ไม่ได้มีเพียงแค่จุดยอดฮิต
ยังมีอีกรอบตัว เพียงแค่หันไปมอง...
"จุดชมวิวเนินนางพญา"
"จุดชมวิวเนินนางพญา"
เห็นน้ำทะเลสีครามสะท้อนแสงวิบวับรับกับแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน
รู้สึกเลยว่า ที่นี่สวยงามอย่างที่เขาขนานนามไว้จริงๆ
"จุดชมวิวที่สวยที่สุดในภาคตะวันออก"
หลังจากมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาว่า
ตอนนี้ใกล้เวลาบ่ายสามโมง
หลังจาก Check in กับทางที่พักเรียบร้อย
เราก็ยังคงมีจุดหมายต่อไป...

"อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล"
นับเป็นหนึ่งในวิหารที่มีสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
และเป็นโบสถ์ระดับชั้นอาสนวิหารแห่งเดียวในฝั่งตะวันออกของไทย
"อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล"
"อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล"
อาสนวิหารนับเป็นวิหารที่อยู่คู่ชุมชนชาวจันทบูรมาอย่างยาวนาน
และยังคงความสวยงาม ความสงบไว้อย่างน่าประทับใจ
"อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล"
"อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล"
จุดต่อไปของเราเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
โดยที่นี่เราจะต้องเสียค่าบริการก่อนเข้าไปภายในนะคะ

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
"อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว"
จุดเด่นของที่นี่เราคิดว่าเป็นเหล่าปลาพลวงที่แหวกว่ายไปทั่ว
อย่างไม่หวาดกลัวผู้คนที่มาเล่นน้ำที่นี่

"อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว"
"อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว"

หลังจากเดินเล่นได้เพียงสักครู่ ก็ถึงเวลาจะต้องออกเดินทางไปต่อ
อีกอย่างก็ที่นี่ปิด 17.00 น. นะคะ

สถานที่ต่อไปของเราก็คือ สะพานที่ยาวที่สุดในภาคตะวันออก
"สะพานตากสินมหาราช"

เมื่อมองจากสะพานตากสินมหาราชไปโดยรอบจะเห็นวิวของชุมชนรอบๆแม่น้ำ
มีผู้คนมาตกปลา เห็นเรือขนส่งสินค้า เห็นการทำประมง

"สะพานตากสินมหาราช"
"สะพานตากสินมหาราช"
"สะพานตากสินมหาราช"
"สะพานตากสินมหาราช"
สถานที่ต่อไป เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์
"ตึกแดง" และ "คุกขี้ไก่"
"ตึกแดง"
"ตึกแดง"
"คุกขี้ไก่"

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับคุกขี้ไก่ว่า
เอาไว้กักขังนักโทษชาวไทยที่ได้ต่อต้านกับชาวฝรั่งเศส
ซึ่งชั้นบนเป็นที่เลี้ยงไก่สำหรับถ่ายมูลใส่หัวนักโทษข้างล่าง

"คุกขี้ไก่"

หลังจากนั้นก็เป็นเวลาของอาหารเย็น
เมื่ออาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้าที่จันทบุรี
ร้านนิวทิวสนเป็นร้านอาหารที่เราไปกินนั้นอยู่ริมทะเลด้วยค่ะ
ทานอาหารแสนอร่อยไป ฟังเสียงคลื่นไปเบาๆคลอไปด้วย
ร้านอยู่แนวชายหาดแหลมสิงห์นะคะ

"อาหารเย็น"

ราคาอาหารเย็นในวันนั้นประมาณ 835 บาทค่ะ
ถือว่าไม่แพงนะคะ ถ้าไม่ได้มาคนเดียว
ส่วนเราวันนั้นเราไปกัน 2 คนค่ะ ก็ตกคนละ 418 บาทค่ะ
อาหารได้เยอะมากแล้วยังกินไม่หมดด้วย ห่อกลับไปกินต่อได้อีกนะคะ

"ชายหาดแหลมสิงห์"
จบทริปในวันแรกที่เดินทางมาจันทบุรีค่ะ
เช้าวันใหม่มาเยือน... เรารีบลุกขึ้นจากที่นอน จัดการธุระให้ไว
แล้วออกเดินทางอีกครั้ง
ครั้งนี้เราวางแผนจะไปขึ้นเขาคิชฌกูฏ นมัสการรอยพระพุทธบาท
"เขาคิชฌกูฏ"
"เขาคิชฌกูฏ"
ซื้อบัตรคิวรถในการขึ้นไปให้เกือบถึงยอดเขาค่ะ
จากนั้นจะเป็นกำลังขาของเราในการนำพาตัวเองขึ้นไปค่ะ
ระหว่างเดินก็อย่าลืมมองวิวทางด้านข้าง
สัมผัสอากาศเย็นๆ แล้วค่อยๆเดินขึ้นอย่างไม่รีบไม่ร้อน

"เขาคิชฌกูฏ"
"เขาคิชฌกูฏ"
"เขาคิชฌกูฏ"
"เขาคิชฌกูฏ"
เนื่องจากเราขึ้นเขาคิชฌกูฏตั้งแต่เช้า
ทำให้ช่วงสายๆของวันเราก็ยังสามารถกลับไปกินข้าวเช้าที่ที่พักได้ทัน
ก่อนจะเดินทางออกจากจันทบุรี
แต่ก่อนที่จะพ้นจังหวัดจันทบุรี เรายังมีอีกที่ที่อยากจะแวะเที่ยวชม...

"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"
เริ่มก่อตั้งตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"

เป็นสถานที่คล้ายๆกับที่ทุ่งโปรงทองนะคะ
แต่มีความพิเศษที่แตกต่างกัน
โดยส่วนตัวแล้ว...เราประทับใจที่นี่มากกว่าค่ะ

"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"
"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"
"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"
"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน"

เมื่อขับรถออกจากจังหวัดจันทบุรีแล้ว
เราก็ยังคงทบทวนอยู่เรื่อยๆถึงสถานที่ที่เราได้ไปเยือน
ทุกที่ล้วนมีความพิเศษตามแบบฉบับของตัวเอง
ก็อยู่ที่คนที่ไปเยือนแล้วแหละค่ะที่จะทำความรู้จักกับสถานที่เหล่านั้นในแบบไหน

สุดท้ายจริงๆ เราจบทริปนี้ด้วยการกินข้าวเย็นริมทะเลบางแสน จ.ชลบุรี
"ชายหาดบางแสน"
"ชายหาดบางแสน"

ติดตามกันได้ใหม่ในทริปหน้านะคะ
^_____________^