เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านแล้วเล่าFayathi Sorap
อ่านแล้วเล่า : ผิดที่ไม่รู้
  • ผู้เขียน : ดังตฤณ
    สำนักพิมพ์ : ฮาวฟาร์
    จำนวนหน้า : 82 หน้า
    ราคา : สามารถอ่านอีบุ๊คฟรีได้ที่ dungtrin.com


         ยังจำ "ศีลห้า" กันได้หรือเปล่า?

         เอ้า ทำหน้างง ศีลน่ะ บทเรียนวิชาพระพุทธศาสนาพื้นฐานไง(เด็กรุ่นนี้ยังเรียนกันไหมเนี่ย??) เอาเป็นว่า งั้นมาทบทวนเกี่ยวกับศีลกันหน่อยละกัน (นี่อยากตีฆ้องร้องป่าวเรียกความสนใจจัง แต่ไม่มีระฆัง จานข้าวหมา จานดาวเทียม หรืออะไรสักอย่างเลย เอาเป็นว่าแสร้งทำสนใจหน่อยละกันนะ)

         พระพุทธศาสนามีข้อควรปฏิบัติที่พุทธศาสนิกชนควรยึดถือไว้ เพื่อความสงบสุขของตนเองและคนรอบข้าง เรียกว่า ศีล ซึ่งมีวัตรปฏิบัติที่หลากหลายกันไป เท่าที่จำได้ก็คือ ศีลฆราวาส มี 5 ข้อ ถ้าถือแบบพราหมณ์ ก็ศีล 8 ส่วนพระสงฆ์ถือศีล 227 ข้อ และภิกษุณีทั้งหลายถือศีล 311 ข้อ ไงล่ะ

         เอาล่ะ กลับมาที่ศีลห้า ศีลทั้งห้าข้อที่กล่าวถึง ได้แก่
         ข้อหนึ่ง ปานาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมา ทิยามิ ห้ามฆ่าสัตว์
         ข้อสอง อทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมา ทิยามิ ห้ามลักทรัพย์
         ข้อสาม กาเมสุมิจฉา จารา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมา ทิยามิ ห้ามประพฤติผิดในกาม
         ข้อสี่ มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมา ทิยามิ ห้ามพูดปด
         ข้อห้า สุราเมระยะ มัชชะ ปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทังสะมา ทิยามิ ห้ามดื่มสุรา
         นี่คือศีลห้า ศีลขั้นพื้นฐาน ฉบับสั้นและเข้าใจง่าย(ถ้าให้อธิบายจริงจังจะยาวกว่านี้) สำหรับเราๆท่านๆ นะทุกคน


         อ่านจนถึงตรงนี้คุณผู้อ่านก็จะสงสัยว่า แล้วมันเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ยังไง(วะ)?

         เกี่ยวค่ะ!


         เพราะหนังสือเล่มนี้จะนำศีลห้า ดังที่ท่องให้ฟังไปแล้ว มาตีแผ่ มาอธิบาย ว่าศีลแต่ละข้อนั้น เป็นอย่างไร ถ้าละเมิดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้กระทำบ้าง ทั้งในแง่จิตใจ ร่างกาย และคติ (ซึ่งหมายถึง ที่ไป) ในวันข้างหน้า หลังจากที่ละเมิดศีลจนชาชิน

         นอกจากศีลห้า ก็จะพูดถึงกิเลสสามประการที่เกี่ยวข้องกัน อันผู้เขียนเชื่อว่าเป็นต้นเหตุให้เราก่อกรรมทำผิดศีล คือ โทสะ(ความโกรธ) โลภะ(ความโลภ) ราคะ(ความ...เอ่อ ใคร่ มั้ง) ซึ่งจริงๆแล้ว กิเลสยังมีอีกตัวหนึ่ง นั่นคือ โมหะ (ความหลง/ความไม่รู้)
         กิเลสไม่ได้มีเจ็ดประการแบบบาปในศาสนาคริสต์เด้อ


         คำถามที่อาจสงสัยกันคือ แล้วศีลห้า กับ ผิดที่ไม่รู้(ชื่อเรื่อง) มันเกี่ยวกันยังไง

         จากที่อ่าน คุณดังตฤณน่าจะเชื่อว่า การที่คนเราทำผิดศีลกันนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ "ความไม่รู้" ว่า ทำไมศีลจึงเป็นสิ่งที่ควรรักษา "ไม่รู้" ว่า การผิดศีลนั้น จะก่อให้เกิดผลต่อตัวเราอย่างไร คุณดังตฤณเธอจึงมาร่ายให้อ่านกันว่า นี่ไง รู้เสียสิ ว่าทำไมไม่ควรผิดศีล


         ถามว่าอ่านแล้วรู้สึกยังไง?

         รู้สึกสยอง...มั้ง คือเราว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะเขียนขึ้นโดยมีจุดประสงค์ให้ผู้คนอ่านแล้วเกิดความเกรงกลัวต่อการทำผิด หรืออีกนัยหนึ่ง เพื่อให้คนอ่านรู้สึกคร้ามเกรงที่จะนำตนเองเข้าไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น(ทั้งคนอื่นและสิ่งมีชีวิตอื่น) เช่นว่า ผิดศีลนี่ ไปนรกนะเฮ่ย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น หากไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับศาสนาจนมีข้อมูลมากพอ คนอ่านอาจจะตั้งคำถามว่า "ไปนรกแล้วเป็นยังไงเหรอ"

         ไม่สามารถไปเที่ยวชมแล้วมาบอกได้ และจะไม่ไปด้วย!!!

         หนังสือที่อธิบายความเป็นนรกให้พอเห็นภาพได้ดีเล่มหนึ่งคือ "ท่องนรกสวรรค์กับสามเณรพาหุง" อยากท่องนรกก็ลองอ่านดู
      

         นอกจากลงนรก การผิดศีลยังเป็นที่มาของเคราะห์กรรมและความยากลำบากต่างๆในชีวิต เช่น กรรมของการไปขโมยของเขา อธิบายให้นึกภาพง่ายสุดคือ วันหนึ่งของเราก็จะโดนขโมยไปบ้าง อะไรแบบนี้ หรือเพิ่มความเสี่ยงให้ไปเกิดเป็นสัตว์ทั้งหลายหลังตายจากความเป็นคน (ว่าแต่ เราว่าตัวต่อไม่น่าจะเป็นคติของคนเมานะ น่าจะเป็นคติของคนขี้โมโห ชอบหาเรื่องคนเสียมากกว่า)
         หลักๆของหนังสือเล่มนี้ก็ประมาณนี้ เป็นอรรถาธิบายศีลห้าแบบครบวงจร


         แนะนำนะ สำหรับคนที่ชื่นชอบหรือสนใจในหนังสือเกี่ยวด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพราะอ่านแล้วอาจได้มุมมองใหม่ๆเพิ่มขึ้นในการใช้ชีวิต บางที อ่านแล้วอาจรู้สึกอยากจะรักษาศีลมากขึ้น เพื่อความสุขในภายภาคหน้าก็เป็นได้
         อย่ามาบอกว่าอนาคตอยู่เกินความคาดเดา นี่ รู้หรือเปล่า อายุขัยของคนอย่างไรก็ไม่เกินร้อยปี แต่ถ้าพลาดตกนรกไปน่ะ ล้านปีกว่าๆยังไม่ได้ขึ้นมาเลยนา ล้านปียังดี ตกนรกไปชั่วกัปชั่วกัลป์นี่จะขำไม่ออก (นี่ก็รู้มากเหลือเกิน)

         แต่ถ้าไม่ชอบเรื่องศาสนา ไม่เชื่อมั่นในการทำความดี ไม่สนใจนรกสวรรค์ หรือหนักกว่านั้นคือพอใจจะตะบี้ตะบันทำชั่วโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม จะไม่อ่านให้ระคายเคืองสายตาก็ได้ เรื่องของคุณ
         คติข้างหน้าของคุณจะเป็นไง ไม่เกี่ยวกับเราอยู่แล้ว


         เรา ในฐานะที่อ่านเล่มนี้จบแล้ว ก็แค่มาเล่าสาระเรื่องนี้ให้อ่านกันเพลินๆพอเป็น guideline ว่า หากคุณเลือกเปิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา คุณจะเจออะไรบ้าง

         ก็แค่นั้นเอง..


         สวัสดี


          ก่อนจบ ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ เนื่องจากตั้งแต่ประมาณ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทาง minimore เปลี่ยนรูปแบบเว็บใหม่ ผลที่เกิดขึ้นคือ งานเขียนเรา...ไม่มีคนอ่านเลย (คาดว่าหาเจอยาก)ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป เราจึงตัดสินใจกลับไปเขียนเรื่องราวในบล็อกเดิมของเราแทน คุณผู้อ่านที่ถูกจริตในงานเขียนของเรา สามารถติดตามไปอ่านได้ที่ 
         https://alwaysfay.blogspot.com/2023/02/blog-post.html
         ขอบพระคุณสำหรับการติดตาม และขอบคุณทาง minimore ที่ให้พื้นที่เราได้ขีดๆเขียนๆเรื่องราวตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
         จนกว่าจะพบกันใหม่
         สวัสดีค่ะ
     

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in