เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
9Satra fanfic : Short Fic & One shotkizu_amakusa
[9Satra fanfic] SF: ชามะตูมมั้ยจ๊ะ [อ๊อดxทมิฬ]



  • อดทนไว้บาก! จะให้เด็กนี่มันรู้ไม่ได้!



    …พรานทมิฬที่ผ่านศึกสงคราม การลอบฆ่า และทนกับการทรมานมานักต่อนักจะทนไม่ได้กับ

    แค่ไอ้เด็กนี่เชียวเหรอ!



    เผ่าทมิฬคนสุดท้ายที่กำลังนอนห่อตัวอยู่ตรงมุมห้อง ไม่ยอมลุกไปไหนหรือกินอะไรมาวันสองวันแล้ว

    อ๊อดที่เป็นห่วงกลัวว่าเพื่อนร่วมเกาะเพียงคนเดียวนี้จะป่วยหนักแล้วจะเข้าป่าไปหาที่ปลีกวิเวกตายเงียบๆ ก็เลยรั้งไว้ให้อยู่ด้วยกันก่อน เพื่อดูแลจนกว่าจะหายดี

    เขาไม่อยากอยู่แบกรับความทรงจำอันเลวร้ายทั้งหมดที่ผ่านมาด้วยตัวคนเดียวอีกแล้ว…

    การมีพี่บากมาอยู่ด้วยกัน ทำให้เขาได้รู้ว่าการเยียวยาจิตใจกับคนที่มีประสบการณ์เดียวกันมันทำได้จริงๆ



    “ข้าว่าพี่ต้องเปลี่ยนผ้าห่มบ้างแล้วนะจ๊ะ อากาศก็ร้อน ผ้าห่มคงชื้นเหงื่อหมดแล้ว”

    อ๊อดพยายามหาเรื่องให้ทมิฬได้ขยับตัวบ้าง หรือจริงๆคือเขาจะได้เห็นทมิฬบ้างซักนิดว่าอาการยังพอทรงอยู่หรือไม่



    “…..”

    คนในก้อนผ้าห่มยังคงเงียบ ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใดๆ



    …ไปเถอะอ๊อด..อย่าสนใจข้าเลย…ความร้อนจากกายเจ้ามันเหมือนจะเรียกหาข้าเกินไป….



    “ให้ข้าเอาไปซักหน่อยละกันนะจ๊ะ พี่ใช้ผืนใหม่ไปได้เลย”

    “……”



    ….เจ้าเด็กดื้อด้าน…กลิ่นไอแดดกับกลิ่นไอ้อ๊อดมันเข้ามาใกล้เกินไปแล้ว..….



    ความเงียบจากอีกฝ่ายทำให้อ๊อดทำอะไรไม่ถูก

    …ปกติพี่บากไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ถึงจะพูดน้อยแต่ถ้าข้าพูดอะไรด้วยเขาก็จะสนใจฟัง

    เข้าใจหรือไม่เข้าใจก็พยายามคิดที่จะตอบ แล้วก็ไม่เคยละสายตาจากข้าโดยไม่จำเป็น



    เมื่อเห็นคนเก็บตัวนอนนิ่งไป อ๊อดก็เลยถือวิสาสะพยายามแอบดึงผ้าออกจากตัวบาก

    “อ๊อด…ปล่อยข้าไว้เถอะ..” เสียงแหบพร่าพูดขึ้นมาเบาๆ



    “ตะ แต่ว่า” อ๊อดพยายามจะดึงผ้าห่มออกให้ได้

    …หยุดดึงซิวะ… ผ้าผ่อนมันสีจนโดนเนื้อตัวให้เสียวแปลบไปหมดแล้ว ทุกอย่างมันชื้นเหงื่อจนรู้สึกชัดไปหมด…

    อ๊อดยังพยายามดึง เพราะคิดว่าอีกฝ่ายแค่ดื้อแพ่งเท่านั้น

    อะ…ปัทโธ่เว้ย…..



    “อุวะ! เจ้าเด็กนี่ ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่เป็นอะไร ปล่อยข้าไว้เถอะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น”

    บากดึงผ้าห่มครึ่งบนออกด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันให้อ๊อดดูว่าเขาสบายดีไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร

    แค่หายใจหอบ ตัวชื้นเหงื่อจากความไม่สบายตัว สายตาดูเชื่อมจากการพยายามสกัดกั้นอารมณ์



    …ไม่เข้าใจ…ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมข้าต้องออกมาเจอมันต่อหน้าในสภาพแบบนี้เนี่ย…ข้าควรจะเก็บตัวอยู่ในผ้าห่มนั่นจนผ่านสัปดาห์บรรลัยนี่ไปได้อย่างราบรื่น แต่เจ้าเด็กนี่มันก็ช่างตื้อจนน่ารำคาญ รึข้าควรจะบอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ข้านัก เพราะทั้งกลิ่นกายเจ้า มืออันใหญ่กร้านนั่น ผิวตรงต้นขาที่ชายผ้าถกเขมรแถบจะปิดไม่มิด ข้าอยากจะเข้าไป…



    “เอ๊ะ แต่ตัวพี่ดูแดงขึ้นเยอะเลยนะจ๊ะ ปกติเห็นเป็นสีม่วงซีดๆ หรือไข้ขึ้นรึเปล่า”

    ไม่พูดเปล่า อ๊อดเอามือไปแตะตรงช่วงท้องของทมิฬแล้วลูบวนช้าๆ



    !!!!!!!!!!!!!!——

    คนผิวม่วงตกใจจนสะดุ้ง ด้วยการแตะตัวเพียงนิดเดียวจากเด็กหนุ่มตรงหน้า ทำให้เขาตัวเกร็งสะท้านไปทั้งกาย ความรู้สึกเสียวซ่านปนความพึงพอใจมันพุ่งไปรวมที่จุดๆเดียวกัน ผ้าห่มที่คลุมอยู่ตรงหว่างขาของบากค่อยๆนูนขึ้นมาและความเปียกชื้นก็ซึมขึ้นมาอย่างช้าๆ



    …#+%’*8#$=&’*;&%~#฿;$฿&€฿!!!

    ….บรรลัยละ…



    ….

    ….

    ……



    ผ้าห่มผืนใหม่ถูกนำมาใช้ และคนที่กำลังคุกกรุ่นไปด้วยอารมณ์ก็เข้าไปม้วนตัวเหมือนเดิม

    อ๊อดสะบัดผ้าผืนเก่าท่ามกลางแดดอยู่ข้างนอก



    เอี๊ยด….ตึก…ตึกๆ..ๆ

    เสียงฝีเท้าอ๊อดเดินขึ้นเรือนมาเรื่อยๆ ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา… หยุดลงตรงหน้ามือสีม่วงที่แลบออกมาจากผ้าห่ม

    อ๊อดทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ มือท้าวลงบนผ้าห่มที่มีบากอยู่ด้านใน เล่นเอาคนนอนขดข้างในหดขาหนีแล้วกระชับผ้าให้แน่นขึ้น



    ..มันจะมานั่งใกล้ๆทำไมกันเนี่ย…ก็บอกไปแล้วนะว่ากลิ่นกายมันทำให้อดทนยาก

    ไหนจะอุณหภูมิอุ่นๆที่วางมือลงมานั่นอีก…



    คนตาใสไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวก็พยายามคิดหาทาง ว่าทำยังไงจะให้พี่ชายคนนี้ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป



    “พี่บาก…เอาชามะตูมลดกำหนัดมั้ยจ๊ะ”



    “…….” …ไอ้อ๊อด…..



    “ไม่ก็ไปบวชชีพราหม์ซัก3วัน7วัน…”

    อ๊อดพยายามนึกวิถีทางที่พ่อพันธ์เคยสอนไว้ หรือไม่ก็ที่ชาวบ้านเคยบอกๆกันมา



    “……ที”



    “จ๊ะ..อะไรนะพี่”



    “ไป..เปลี่ยนผ้านุ่งถกเขมรของเอ็งที…”



    ———————————



    ….เวลาผ่านไป… อ๊อดที่เข้าใจแล้วว่าบากไม่ได้ป่วย แต่แค่อยู่ในช่วงเวลาละเอียดอ่อน

    ช่วงเวลาที่ไวต่อการสัมผัส ทั้งกลิ่นกาย…อุณหภูมิ…และทุกสิ่งที่ยั่วยุต่อสายตาเขา



    “ข้าว่าพี่ดูแย่มากเลยนะจ๊ะ นี่ก็หมกตัวมาสี่วันแล้ว ยังไม่ดีขึ้นเลย”

    อ๊อดวางตะเกียงไว้ข้างๆตรงมุมห้อง ให้สว่างพอที่จะเห็นอะไร แต่ก็ไม่ไกล้เกินที่บากอาจจะมาโดน
    “ข้าว่ามันต้องมีวิธีอื่นช่วยพี่ได้บ้างนะ”



    การนอนอยู่นิ่งๆเฉยๆ โดยห้ามโดนอะไร หรือมีอะไรมากระตุ้นทั้งสิ้นมาสี่วัน ก็เริ่มทำให้ทมิฬหมดความอดทนเหมือนกัน มันอาจจะมีวิธีดีๆอะไรบางอย่างที่ชาวทมิฬอย่างเขาคิดไม่ถึง แต่มนุษย์อย่างอ๊อดที่โตมาโดยห้อมล้อมจากผู้คนมากมาย อาจจะพอช่วยเขาได้บ้างก็ได้


    พรานทมิฬลดผ้าห่มลงมาพอที่จะเหลือบมองมาเห็นอ๊อด

    “ยังไง….”



    อ๊อดเห็นคนในผ้าห่มยอมออกมาสูดอากาศบ้างก็ยิ้มใส่อย่างสดใส เขาสังเกตุว่าสายตาของบากมีน้ำรินๆ ดูเชื่อม..และแดงขึ้นกว่าเดิมมาก ดูเหมือนจะสงวนท่าทีแต่ก็ดูเหมือนเชิญชวน…


    “ข้าคิดง่ายๆว่าถ้ามันอึดอัดนักก็เอาออกมาบ้างก็น่าจะดีขึ้น”
    ไม่พูดเปล่าและไม่รออีกฝ่ายอนุญาตอะไร อ๊อดเลิกผ้าห่มจากทางขาทมิฬขึ้นมา
    มือกร้านหนาค่อยๆลูบขึ้นมาจากข้อเท้าของคนที่นอนขดอยู่
    ร่างกายที่ไวต่อทุกสัมผัสอยู่แล้วสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที…
    “ดะ เดี๋ยว อะ อ๊อด เจ้าไม่ต้อง—-”



    แค่กลิ่นอ๊อดที่ลอยไปมาในอากาศก็จะทำให้คลั่งอยู่แล้ว นี่ดันมาแตะตัวกันตรงๆ

    แล้วยังไอ้การค่อยๆลูบขึ้นมาจากข้อเท้านี่อีก นี่มันอะไรกัน

    บากเอามือมาปิดปากไว้



    “อะ–” …ถ้าเผลอพูดอะไรไป เสียงแปลกๆมันต้องออกไปแน่เลย…

    บากพยายามอดทนจนตัวสั่น แต่มือร้อนของอ๊อดก็ไม่ได้หยุดตามแรงขืนอันน้อยนิดนั่นเลย



    “อ๊าาาา พอ!!”

    บากสบัดผ้าห่มออกแล้วยืนขึ้นพร้อมกับผ้านุ่งที่ค่อนข้างหลุดลุ่ย

    “ขะ..ข้า..จะออกไปข้างนอก…อยู่ในป่าโดยไม่มีเจ้า เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จะดีขึ้น” บากพูดกับอ๊อดด้วยสีหน้าชื้นเหงื่อและแดงระเรื่อ เสียงหายใจหอบและแหบพร่าตอนพูด กับสีผิวและลายบนตัวที่ต้องแสงเงาตะเกียงทำเอาอ๊อดละสายตาไม่ได้

    บากก้าวไปทางประตูช้าๆ เพราะอาการติดสัดในตอนนี้ทำเอาเรี่ยวแรงหายไปเกือบหมด แถมที่เอาผ้าห่มออกไปก็ยิ่งทำให้กลิ่นของอ๊อดตีเข้ามาชัดขึ้นเท่านั้น



    “เดี๋ยวซิจ๊ะพี่บาก”

    อ๊อดจับไหล่ของบากไว้ แล้วมืออีกข้างก็โอบเอวไว้รอบจากด้านหลัง

    “ฮะ—” โอยยย…ไม่รู้จะพูดยังไงกับมันแล้ว….พอ…



    คนร่างผอมทิ้งน้ำหนักไปหาคนที่มารั้งไว้เพราะไม่มีแรงจะต่อล้อต่อเถียงแล้ว

    อ๊อดกึ่งยกกึ่งลากบากที่ไม่มีเรี่ยวแรงแล้วให้มานั่งพิงกับตัวเองไว้



    “ให้ข้าช่วยพี่เถอะนะจ๊ะพี่บาก”

    อ๊อดพูดเบาๆอยู่ข้างหูจากด้านหลัง ทำเอาคนฟังรู้สึกมวนท้องน้อย แล้วเสียบแปลบไปทั้งอุ้งเชิงกราน

    ทมิฬที่หมดทั้งแรงกายและแรงใจจะขัดขืนได้แต่ทิ้งน้ำหนักหัวพิงไปตามไหล่ของอ๊อด

    เขาได้ยินเสียงหัวใจอ๊อดที่เต้นเป็นจังหวะ…ที่เร็วขึ้น

    มือใหญ่หนากำลังพยายามทำอะไรซักอย่างกับผ้านุ่งของเขา ซึ่งเขาไม่อยากจะรับรู้อะไรแล้ว



    บากพยายามอดทนจนตัวสั่นเกร็งกระตุก ผิวกายร้อนที่นาบโดนกันด้านหลังกับกลิ่นของอ๊อดมันทำให้ทุกส่วนในการรับรู้มันเบลอและมัวเมาไปหมดจนดูเหนือจริง

    “พี่บากเป็นอะไรไปจ๊ะ เจ็บตรงไหนรึเปล่า ดูพี่ต้องทนมากเลย”

    …ต้องอดทนกะมึงนี่แหละอ๊อด…

    ภาพที่เห็นเริ่มพร่าเลือน ทั้งประสาทสัมผัสและน้ำตา แต่ทุกสัมผัสของอ๊อดมันชัดเจนจนเหมือนตรึงเขาไว้



    บากได้แต่ใช้นัยน์ตาเหลืองทองพื้นดำมองอ๊อดกลับไปแทนคำตอบ

    “ข้าเพิ่งรู้ว่าลายบนตัวพี่มันมีทุกจุดขนาดนี้”

    …เออ จะพูดอะไร เจ้าก็พูดไปเลย…

    อ๊อดเพ่งมองลายบนตัวทมิฬที่อยู่ใต้ร่มผ้า เป็นที่ๆตัวเองก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก มือใหญ่กอบกุมส่วนร้อนแข็งของทมิฬไว้และพยายามปลดปล่อยมันออกมา



    บากพยายามกลั้นเสียงไว้. …อา…อยากจะด่าไอ้เด็กนี่เหลือเกิน….

    เขาทำหน้านิ่ว หลับตาปี๋ แต่ลมหายใจหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ… เล็บมือยาวสีม่วงเข้มจิกกำเข้ากับมัดต้นแขนของอ๊อดอย่างบิดเกร็ง



    อา…นี่เพิ่งวันที่สี่… เหลืออีกตั้งสามวัน…


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in