.

ความกลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก (Fear of the Unknown) ความกลัวที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์คือ "ความไม่รู้" เราไม่สามารถอธิบายหรือพิสูจน์การมีอยู่ของผีได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ ทำให้สมองของเราตีความสิ่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคามที่ควบคุมไม่ได้ ผีเป็นตัวแทนของความตายและชีวิตหลังความตายซึ่งเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ เมื่อเราเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่อยู่นอกเหนือการรับรู้ปกติของเรา สัญชาตญาณของเราจะสั่งการให้ระแวดระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

.

ความกลัวความตาย (Thanatophobia) ผีมักถูกเชื่อมโยงกับวิญญาณของผู้ตาย ซึ่งทำให้ความกลัวผีกลายเป็นส่วนหนึ่งของ ความกลัวความตาย เรากลัวว่าความตายเป็นจุดสิ้นสุดที่สมบูรณ์ หรือในทางกลับกัน เราก็กลัวว่าชีวิตหลังความตายจะเป็นอย่างไร ผีจึงเป็นเหมือนภาพสะท้อนของความกลัวนี้ เป็นการเตือนใจเราว่าทุกคนต้องเผชิญกับความตายในที่สุด

.

อิทธิพลทางสังคมและวัฒนธรรม ความเชื่อเรื่องผีถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กผ่านนิทาน ตำนานพื้นบ้าน ภาพยนตร์ และวรรณกรรมต่าง ๆ สื่อเหล่านี้สร้างภาพจำของผีว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว มีลักษณะที่ผิดเพี้ยน หรือมีพฤติกรรมที่คุกคาม เช่น การหลอกหลอน การแก้แค้น การทำร้ายร่างกาย การส่งต่อความเชื่อจากรุ่นสู่รุ่นและจากสังคมสู่ปัจเจกบุคคลทำให้เรามี ความกลัวที่ถูกสร้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องเคยเจอผีจริง ๆ

.

ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาและประสาทสัมผัส บางครั้งอาการที่เราคิดว่าเจอผีอาจเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา เช่น ภาวะขาดการนอนหลับ (Sleep Paralysis) ที่ทำให้เราขยับตัวไม่ได้และเกิดภาพหลอน, การทำงานผิดปกติของประสาทสัมผัส (Sensory Mismatch) เช่น การได้ยินเสียงที่อธิบายไม่ได้ หรือการเห็นเงาในที่มืด ซึ่งสมองของเราจะพยายามหาคำอธิบายให้กับสิ่งเหล่านี้ และมักจะสรุปว่าเป็น "ผี" เนื่องจากเป็นคำอธิบายที่ง่ายและถูกปลูกฝังมาในความเชื่อของเรา

หนังสือ : ผีสางคางแดง

โดย : เสฐียรพงษ์ วรรณปก

จำนวน : 168 หน้า

.

"ผีสางคางแดง" ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 ของ เสฐียรพงษ์ วรรณปก เป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องราวลี้ลับเหนือธรรมชาติที่อิงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และวรรณคดีอย่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือ "ผีสางคางแดง" ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าผีที่เอาไว้สร้างความตื่นเต้นเหมือนเรื่องเล่าสยองขวัญทั่วไป แต่เป็นการพาผู้อ่านไปสำรวจและตีความเรื่องราวภูตผีปีศาจจากมุมมองของพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทย ซึ่งจะทำให้คุณเข้าใจรากเหง้าของความเชื่อเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง

.

เรื่องราวที่มาที่ไปของ "ผี" ในพุทธศาสนา เสฐียรพงษ์ วรรณปก ได้นำความรู้ด้านพุทธศาสนามาอธิบายเรื่องราวของผีประเภทต่าง ๆ เช่น เปรต อสุรกาย เทวดาชั้นต่ำ และวิญญาณเร่ร่อนในมิติต่าง ๆ ทำให้เราเข้าใจว่าความเชื่อเรื่องผีไม่ได้มีเพียงแค่การทำให้เรากลัว แต่ยังแฝงไปด้วยหลักธรรมคำสอนและกฎแห่งกรรม

.

การวิเคราะห์ "ผี" ในวรรณคดีไทย หนังสือเล่มนี้ยังชวนให้เราย้อนไปดูเรื่องราวของผีสางที่ปรากฏในวรรณคดีและนิทานพื้นบ้านของไทย เช่น ผีนางนาก พระอภัยมณี และขุนช้างขุนแผน ซึ่งอาจารย์ได้วิเคราะห์อย่างลุ่มลึกว่าตัวละครเหล่านี้สะท้อนความคิดความเชื่อและสภาพสังคมในยุคนั้นได้อย่างไร

.

ภาษาที่อ่านง่ายและสนุก แม้จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างวิชาการ แต่ผู้เขียนใช้ภาษาที่เรียบง่าย ชวนติดตาม และเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ทำให้อ่านได้อย่างเพลิดเพลินตั้งแต่ต้นจนจบ และยังได้ความรู้ติดตัวกลับไปอีกด้วย

.

สำหรับฉบับพิมพ์ครั้งที่ 4 นี้ ได้มีการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาและเพิ่มเติมเรื่องราวใหม่ ๆ เข้าไป ทำให้เนื้อหามีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเคยอ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้วหรือไม่ การกลับมาอ่านฉบับปรับปรุงใหม่นี้ก็ยังคงความสนุกสนานและให้ความรู้ใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ

.

"ผีสางคางแดง" ไม่ใช่หนังสือที่จะชวนให้คุณกลัวผี แต่จะทำให้คุณเข้าใจผีได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกทัศน์และมุมมองใหม่ ๆ ในเรื่องความเชื่อและสิ่งลี้ลับที่คุณอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อนครับ