ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
นายฉลองชัยบุญโรจน์ (ธุดงค์เมือง)
จากใจผู้เขียน
สนใจสั่งซื้อ E Book ฉบับเต็ม
หรือ ฉบับแยก Chapter
โปรดแจ้งมาทางข้อความได้เลยนะครับ
.
ติดตามสาระดีๆ ได้จากเพจนี้ FB Living Learning Lifeตลอดจน สื่อสาระดีๆ ทั้งหนังสือแต่งเอง E Book และรูปเล่ม บทความสั้น หลักสูตรอบรมตลอดจนแนวทางและวิธีการพัฒนาชีวิตตนเองและสร้างสรรค์สังคมให้ดีงามและเป็นมิตร .ขอฝากเพจนี้สู่ท่านผู้สนใจทุกท่านด้วยนะครับ
คำปรารภ
ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
นายฉลองชัยบุญโรจน์
(ธุดงค์เมือง
จากใจผู้เขียน
บทนำ
ทั้งนี้เนื่องด้วย ท่านผู้อ่านมีความหลากหลายสาขาอาชีพ ตลอดความรู้ความเข้าใจความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านผู้เขียนจึงได้เขียนอธิบายถึงผลลัพธ์ที่คาดว่าท่านผู้อ่านจะได้รับจากการศึกษาเรียนรู้หนังสือเล่มนี้ผู้เขียนคาดว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประการหลักๆได้แก่ ผลลัพธ์ประการที่ 1 เมื่อเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ไปบ้างแล้วไม่ว่าจะอ่านจนจบหรืออ่านไปได้บางส่วนก็ตาม ท่านผู้อ่านบางท่านอาจรู้ข้อมูลเหล่านี้ดีอยู่แล้ว ผู้เขียนก็ขอให้ท่านอย่าได้เบื่อกันแต่อยากให้ถือเป็นโอกาสในการทบทวนตรวจสอบไปร่วมกันว่า ข้อไหนจุดไหนที่เราหลงลืมไปหรือไม่ ข้อไหน จุดไหน ที่เราเน้นย้ำมั่นเหมาะสม่ำเสมอ ข้อไหนจุดไหนที่เราอาจนึกไม่ถึงมาก่อนเลย ข้อไหนจุดไหนที่เราทราบดีอยู่แล้วแต่มีบางมุมมองที่น่าสนใจนำไปประยุกต์ใช้ได้ก็ขอให้ท่านผู้อ่านอย่าได้เบื่อกันแต่อย่างใด โปรดทบทวนตรวจสอบไปร่วมกันรวมไปถึงหากมีข้อไหน จุดไหนที่ผู้เขียนอาจเขียนได้ไม่ครบถ้วน ถูกต้อง เหมาะสมผู้เขียนเองก็พร้อมน้อมรับและนำไปปรับปรุงอย่างต่อเนื่องครับ ผลลัพธ์ประการที่
ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
นายฉลองชัยบุญโรจน์
(ธุดงค์เมือง
จากใจผู้เขียน
1. KNOW Your HOME
รู้จักบ้านของตนเอง
What’s in your HOME ?
มีอะไรอยู่ในบ้านของเราบ้าง (
เมื่อพูดถึงบ้านของเราไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ในบ้านก็จะมีทั้งคน มีทั้งข้าวของอยู่ภายในบ้านหน้าที่ของคนที่อยู่ในบ้าน คือการทำความรู้จักคนและข้าวของต่างๆ ว่าแต่ละคนเป็นคนนิสัยใจคอย่างไรชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถนัดอะไร ไม่ถนัดอะไรข้าวของแต่ละชิ้นแต่ละอย่างเรียกว่าอะไรบ้าง เวลาใครไปใครมาพูดคุยกันจะได้พูดตรงกัน คุยกันรู้เรื่อง ไม่เช่นนั้นหากเราไม่รู้ว่าสิ่งนี้เรียกว่าอะไร หน้าตาเป็นอย่างไร รูปร่างอย่างไร คงคุยต่อกันได้ยากทีเดียวสิ่งนี้ เรียกว่า รู้จักคน รู้จักข้าวของ บางบ้านอาจมีคนอยู่เยอะแยะมากมายเข้าและออกกันทั้งวัน บางบ้านอาจแทบไม่มีคน เสียงเดินยังแทบไม่ได้ยินเลยบางบ้านข้าวของมากมาย แต่จัดเก็บเป็นระเบียบ มีแต่คนจัดเก็บรู้ว่าอยู่ไหนรู้ว่าคืออะไร แต่คนในบ้านกลับไม่รู้จักไม่แม้กระทั่งรู้ด้วยซ้ำว่ามีของเหล่านี้อยู่ในบ้าน ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงอยากเชิญชวนท่านผู้อ่านทุกท่านร่วมรู้จักผู้คนข้าวของในบ้านของตัวท่านเองเริ่มต้นจากตรงนี้ก่อนครับ ว่ามีใครอยู่ในบ้านบ้าง มีอะไรอยู่ในบ้านบ้างยังไม่ต้องไปถึงว่าอยู่ตรงไหนของตัวบ้านบ้างเอาแค่ให้รู้ก่อนว่ามีอะไรบ้างอยู่ในบ้าน แล้วแต่ละอย่างเรียกว่าอะไรเวลาพูดคุยถึง จะได้ถึงกันออก คุยกันต่อ ทางด้านการดำเนินชีวิตนั้น ทั้งการศึกษาการงาน การเรือน สำหรับคำว่า รู้จัก นี้ ผู้เขียนใคร่ขอนำเสนอเชิงลึกยิ่งขึ้นมุมมองในการทำความรู้จักเจ็ดมิติ หรือขอเรียกว่า รู้จักทั้งเจ็ด ได้แก่ หนึ่งรู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักเวลา รู้จักชุมชน และรู้จักบุคคลหากท่านผู้อ่านต้องการฝึกฝนให้ตนเองมีศักยภาพด้านการรู้จักบ้านของท่านเองให้ดียิ่งขึ้นพึงฝึกฝนตนเองให้คุณลักษณะเจ็ดประการข้างต้นท่านจะเป็นคนที่ประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตทั้งการเรียนการศึกษา การงานการเรือนเป็นแน่แท้ นี้เองคือเชิงลึกของการการรู้จักบ้านของตนเองเมื่อท่านผู้อ่านเริ่มรู้จักบ้านของตนเองดีขึ้นแล้วต่อไปก็เป็นการทำความคุ้นเคยให้มากยิ่งขึ้นว่า สิ่งที่ท่านรู้จักนั้น จัดเก็บอยู่ตรงไหนของบ้านเวลาจะหยิบจะใช้จะหา จะได้สะดวก คล่อง รวดเร็ว ซึ่งจะได้กล่าวต่อไปหัวข้อถัดไปครับ
Where do we FIND ?
รู้ว่าอยู่ตรงไหน(รู้ที่)
เมื่อรู้ว่าแต่ละอย่างคืออะไรเรียกอย่างไร และรู้จักเชิงลึกทั้งเจ็ดประการไปบ้างแล้ว ต่อไปก็คือ สิ่งที่ท่านรู้จักนั้นอยู่ตรงไหนบ้างในบ้านของเรา เรารู้จักข้าวของแต่ละอย่างละ แต่เราหาไม่เจอไม่รู้ไปจัดเก็บไว้ตรงไหน เก็บเป็นที่เป็นทางถูกต้อง เหมาะสมหรือไม่ สิ่งนี้เรียกว่า รู้ที่ ในด้านการดำเนินชีวิต เช่น ด้านการเรียนการศึกษาท่านจะเป็นคนที่มีความแม่นยำ ชัดเจน ผู้คงแก่เรียน มีคุณลักษระจบในใจยิ่งด้านการงาน ท่านจะเป็นคนที่ฉะฉาน ปฏิภาณไหวพริบเป็นเลิศ เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษา เป็นที่พึ่งและเป็นผู้รู้ของผู้คนรอบข้าง ด้านการเรือนท่านจะเป็นผู้สุขม ผู้ปกครองที่ดีงาม ผู้วางใจวางตนเป็น เป็นสามีที่รู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบเป็นภรรยาที่ทำหน้าที่ให้สมกับเป็นภรรยาเป็นบุตรที่มีวินัยใฝ่ศึกษาและรู้กตัญญูกตเวทีบิดามารดา ตลอดจนผู้มีพระคุณนี้เองคือ ผลแห่งการ รู้ที่ เมื่อเรารู้แล้วว่าแต่ละอย่างเรียกว่าอะไรรู้ขึ้นว่าอยู่ที่ไหน ต่อไปก็คือขั้นใช้งานเป็น ประยุกต์ใช้ได้ เข้าใจว่าใช้งานอย่างไรดูแลลอย่างไร จัดเก็บอย่างไร บำรุงอย่างไรนี่เองคือเป้าหมายที่ผู้เขียนตั้งใจอยากให้ท่านผู้อ่านมาถึงขั้น รู้จริงนั่นเองครับ
Understanding through IMPLEMENTATION
เข้าใจ ใช้เป็น
เมื่อนึกออกหมดแล้วว่าข้าวของแต่ละอย่าง เรียกว่าอะไร จัดเก็บอยู่ไหน จะหาได้จากที่ไหนบ้างต่อมาก็คือขั้นของการฝึกฝน เรียนรู้ เพื่อเข้าใจหน้าที่การทำงาน ศักยภาพความสามารถ คุณประโยชน์ วิธีการใช้งานต่างๆ ที่ถูกต้อง การรักษาบำรุง สิ่งนี้เรียกว่า รู้จริง เป็นขั้นกว่าขั้นรู้จักและรู้ที่เพราะสองขั้นแรกคือมีความรู้ชัดเจนยิ่ง แต่ยังอาจใช้งานได้เป็นอาจยังรู้ไม่ชัดเท่าลงมือปฏิบัติ มีประสบการณ์จริงด้วยตนเอง ดังนั้นขั้นรู้จริงนี้ คือเข้าถึงหลักความเชื่อที่ถูกทิศถูกทางอันเป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตในทุกๆด้านของผู้คน เข้าถึงหลักแห่งการกระทำ ว่าผลที่ดีย่อมเกิดมาจากเหตุที่ดีเหตุที่ดีย่อมสร้างผลที่ดี เข้าถึงเหตุปัจจัยว่ามีปัจจัยใดบ้างในการสร้างผลเพียงหนึ่ง และหนึ่งผลไม่เกิดมาแต่เหตุเดียวและเหตุเดียวไม่ได้สร้างเพียงผลเดียวแต่มีความต่อเนื่องสอดคล้องมากกว่านั้นมากครับ ซึ่งในเบื้องต้นอาจจะยังไม่เข้าใจไม่คล่องแคล่ว ไม่ชำนาญ แลจะผิดพลาดบ่อย ก็ถือเป็นเรื่องปกติเพราะยังไม่คุ้นเคยนัก แต่เมื่อได้ฝึกฝน เรียนรู้ ให้ช่ำของ ให้หนักให้ถูกทิศถูกทาง ยิ่งได้คนแนะนำที่มีความรู้ความเข้าใจและใช้งานเป็นจริงยิ่งไปได้เร็ว ไปได้ไกล จนในสิ่งที่สุด สิ่งที่เคยผิดพลาดก็จะค่อยๆลดน้อยจนไม่ผิดอีกเลย ความถูกต้องดีงามก็จะเกิดเป็นผลเข้ามาแทนที่ท่านผู้อ่านลองสังเกตดีครับว่า ใครที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะดีแล้วมีความไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตทุกด้าน จะเป็นคนที่แทบจะไม่ทำอะไรผิดพลาดแม้ผิดพลาดก็จะไม่ใช่เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ แต่เป็นเรื่องที่ผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆแม้หนักก็มีแนวทางป้องกันรับมือได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว เป็นคนที่สุขุม สงบและหนักแน่น นี้คือคุณลักษณะของคนที่ รู้จัก รู้ที่ และรู้จริง ครับในทางตรงกันข้าม คนที่ยังมีความประมาทในการดำเนินชีวิตในทุกด้านจะเป็นคนที่ทำอะไรก็มักผิดพลาด ผิดพลาดในเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆเรื่องที่ผิดพลาดมีทั้งเล็กและใหญ่ เมื่อเหตุเกิดขึ้นไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้เย็นลงได้ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ต่อหน้าหรือเป็นสถานการณ์ที่คาดได้ในล่วงหน้าเป็นผู้ที่ชะล่าใจ ไม่ขวนขวาย ไม่ใส่ใจ ไม่เรียนรู้เหตุการณ์ในอดีตเพื่อนำมาป้องกันแก้ไขพัฒนาหรือส่งเสริมการพัฒนาชีวิตและจิตใจของตนเองในปัจจุบันให้เป็นผู้ที่มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุขคุณลักษณะเช่นนี้เองในเบื้องต้น ที่เป็นผู้ที่ไม่มีรู้จัก ไม่รู้ที่ ไม่รู้จริงในการดำเนินชีวิตนั่นเอง แม้บางด้านอาจดีเด่น เช่นการงานดีเด่น แต่การเรือนอาจไม่ประสบความสำเร็จ การเรียนการศึกษาดีเด่นแต่การงานประยุกต์ใช้ไม่เป็น ตามไม่ทัน เหล่านี้เป็นต้น
โดยสรุปในหัวข้อต้นนี้เป็นหัวข้อนำที่ผู้เขียนตั้งใจหยิบยกมาเป็นประเด็นแรกเพื่อให้ท่านผู้อ่านมีหลักในการพัฒนาตน พัฒนาชีวิต พัฒนาจิตใจพัฒนาการเรียนการศึกษา พัฒนาการงาน พัฒนาการเรือน ในทุกๆวันของการดำเนินชีวิตของท่านผู้อ่าน เพื่อให้ทุกท่านเป็นผู้ รู้จัก รู้ และรู้จริงในทุกสภาวการณ์นั่นเองครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in