หนังสือดำเนินเรื่องผ่านมุมมองของตัวละครแต่ละตัว เนื้อเรื่องเปิดมาได้ดีเลยค่ะ กระชับ ตื่นเต้น ทำให้เราระแวงเด็กทุกคนเลย แต่พอผ่านช่วงเปิดเรื่องมา ทุกอย่างมันแอบอืดๆ ไปนิดนึง แต่ก็ทำให้เราอยากรู้ความลับที่เด็กๆปิดเอาไว้เหมือนกัน เราเดาถูกเรื่องความลับของคูเปอร์ หนุ่มหล่อนักกีฬาด้วยแหละ ช่วงกลางเรื่องอาจจะไม่มีเรื่องการสืบสวนมากนัก แต่เราลุ้นตามเด็กๆว่าพวกเขาก้าวผ่านผลของการกระทำในอดีต และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้หรือเปล่า เรื่องราวกลับมาตื่นเต้นมากๆอีกทีตอนท้ายเรื่อง เมื่อเด็กๆหันมาคุยกัน เริ่มสืบหาความจริง และประติดประต่อเรื่องราวขึ้นมา ตอนจบค่อนข้างน่าตกใจ แต่เราว่ามันออกจะหดหู่อยู่สักหน่อยพอได้รู้ความจริง

ที่เราชอบคือ หนังสือไม่ได้นำเสนอแค่เรื่องราวการสืบสวนสอบสวน แต่พูดถึงการ cope กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นของเด็กๆด้วย ชีวิตที่ถูกจับตามองโดยคนรอบข้าง ทำอะไรก็ต้องระวังในฐานะผู้ต้องสงสัย อยู่กับความกลัวว่าความลับที่กุมไว้จะรั่วไหลออกมามั้ย ส่วนตัวเรารู้สึกว่าความลับของเด็กแต่ละคน มันน่าตกใจกว่าตอนจบของเรื่องเสียอีก บางคนปกปิดความลับ เพราะรู้ว่ามันเป็นความผิด แต่บางคนก็แค่กลัวเท่านั้น เด็กๆคิดว่าหากไม่มีใครรู้เรื่องของพวกเขา พวกเขาจะไม่ต้องสูญเสียสิ่งที่รักไป แต่สุดท้ายเมื่อปิดความลับไม่อยู่อีกต่อไป พวกเขาก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันได้

อีกอย่างที่เราชอบ คือการเล่าถึงปัญหาของเด็กวัยรุ่น ทุกคนต้องการความเข้าใจ ใส่ใจ และการยอมรับ ต้องการที่จะถูกมองเห็น ไม่อยากเป็นคนไร้ตัวตนในโลกของเหล่าวัยรุ่นใบนั้น ทุกคนดิ้นรนที่จะ belong somewhere จนอาจลืมไปว่า แท้จริงแล้ว เขาก็มีที่ๆ belong อยู่ หนังสือยังเล่าถึงปัญหาภายในครอบครัว ที่คนในครอบครัวไม่เห็นว่ามันคือปัญหา ทำให้เด็กรู้สึกว่ากำลังต่อสู้กับปัญหาคนเดียว และยังพูดถึงมิตรภาพ และความสัมพันธ์ที่เที่ยงแท้ในเวลาที่ยากลำบากอีกด้วย

โดยรวมแล้ว One of Us is Lying เป็นหนังสืออ่านสนุกเล่มนึงเลย สิ่งที่เราได้จากหนังสือคือ แท้จริงแล้วเราทุกคนล้วนโกหก และมีความลับที่บอกใครไม่ได้ เราโกหกทั้งคนอื่น และก็ตัวเราเอง เพราะเราไม่อยากเผชิญหน้ากับความจริง แต่เราก็ต้องอยู่กับความกลัว ว่าสักวันหนึ่ง จะมีคนรู้ความลับที่เราปกปิดไว้ เราจึงต้องเลือก ว่าจะอยู่กับเรื่องโกหกที่เราสร้าง ด้วยความกลัว หรือเผชิญหน้ากับความจริง แม้จะต้องเจ็บปวดก็ตาม

เจอกันเมื่ออ่านจบค่ะ :)