เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I write their love storyninja_ve
Never Not [Chanbaek]
  • We were so beautiful.



    “ไม่ชอบเพลงนี้หรือไง?” 


    เปล่าเลย ไม่ได้ไม่ชอบ มันเป็นเพลงที่เคยชอบมากๆต่างหาก มันก็ยังอยู่ในเพลย์ลิสต์ตลอดนั่นแหละ แค่ตอนนี้ไม่ได้เปิดฟังแล้ว เพราตอนนั้นที่ฟังมันไม่ได้ทำให้รู้สึกอะไร มันก็แค่เพลงเพราะๆเพลงนึงเท่านั้น พอเพลงจบแล้วมันก็แค่นั้น 


    “จะให้เปลี่ยนหรือเปล่า แบคฮยอน?” เจ้าของชื่อหันมามองเสียงของเพื่อนสนิทที่กำลังบังคับพวงมาลัยรถ ก่อนจะตอบคำถามสั้นๆ


    “ไม่ต้องเปลี่ยน” เพราะเพลงนี้มันทำให้แบคฮยอนคิดถึงใครบางคน--คนที่หายออกไปจากชีวิตไปนานแล้ว เขามองออกไปนอกหน้าต่างในขณะที่รถกำลังเคลื่อนไปด้วยความเร็ว ยกแขนข้างขวาขึ้นมาเท้ากับหน้าต่าง และค่อยๆปล่อยให้ความทรงจำทำงานท่ามกลางเสียงเพลงที่เขาเคยได้ยินบ่อยครั้ง








    “ชอบแบบเมื่อกี้มากกว่า”  แบคฮยอนพูด เขาเงยหน้าออกมาจากหนังสือเล่มโปรด และส่งยิ้มให้กับเจ้าของเสียงกีตาร์ที่กำลังนั่งถอดเสื้ออยู่ปลายเตียง


    “แบบนี้หรอ....” เขาเล่นมันอีกครั้งอย่างตั้งใจ พอคอร์ดสุดท้ายจบลงเขาคนก็หันมายิ้มให้แบคฮยอนอีกครั้ง


    “แบบนี้แหละชานยอล” เจ้าของชื่อพยักหน้า แล้วก็หยิบดินสอขึ้นมาจดคอร์ดที่เพิ่งเล่นลงไป 

    จะอธิบายยังไงดี แบคฮยอนกับชานยอลไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก เพิ่งจะรู้จักกันไม่นานด้วยซ้ำ เป็นคนรู้จักที่เข้าใจกันมากๆ ในตอนที่มองไปทางไหนก็เจอแต่คนแปลกหน้าที่พูดคนละภาษา แต่การมีใครสักคนที่ฟังเรารู้เรื่องและอยู่เป็นเพื่อนในตอนที่ลมหนาวกำลังจะเข้ามา มันก็เป็นเรื่องทีไม่ใช่หรอ? ตอนที่แบคฮยอนเจอชานยอลครั้งแรกบนรถไฟที่มุ่งหน้าไปเมืองบาธ บังเอิญที่ทั้งคู่มีจุดหมายเดียวกัน แต่เขาทั้งคู่มาที่นี้้ด้วยจุดประสงค์ต่างกัน แบคฮยอนมาเพื่อเดินทาง แต่ชานยอลมาที่นี่เพื่อหาแรงบันดาลใจ มันก็เหมือนกับการพบคนแปลกหน้าสักคนหนึ่ง ต่างคนต่างถูกใจ ยินยอมมอบความสุขให้กันและกันในเวลาสั้นๆ แล้วหลังจากนั้นก็จบ กลับไปสู่ความจริงในเส้นทางของตัวเอง


    “…There's a room in my heart with the memories we made” เสียงทุ้มต่ำของชานยอลดังขึ้นคลอไปกับเสียงกีตาร์



    “ไหนว่าไม่ชอบเพลงแนวนี้ไง” คนตัวเล็กกว่าถาม



    “เห็นเปิดบ่อยๆ” ก็จริง แบคฮยอนเปิดเพลงนี้ทุกวัน วันละหลายๆรอบ



    “เพราะดี...”


    เสียงของเขาหยุดไปแล้ว แต่มันกลับมาดังต่อในใจของแบคฮยอนแทน เขาเหลือบมองกระเป๋าเดินทางที่อยู่ตรงประตูระเบียง มองพาสปอร์ตที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างใจหาย 


    จะต้องจากกันแล้ว


    “แบคฮยอน”



    “ว่า”



    “ต้องไปแล้วใช่ไหม?”


    เกิดความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของแบคฮยอนทำลายความเงียบลง คำตอบก็คือใช่ แบคฮยอนต้องไปแล้ว ต้องออกเดินทางต่อ นั่นหมายความว่า จะไม่ได้เจอกันอีก


    ชานยอลวางกีตาร์ลงข้างตัว เขาค่อยๆขยับเข้ามาใกล้อีกคนที่นั่งพิงหัวเตียง สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จูบวาบหวามจะเกิดขึ้น 



    น่าเสียดายที่ความรู้สึกมันเริ่มต้นขึ้นในตอนสุดท้าย





    For as long as I live and as long as I love

    I will never not think about you

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in