หลังจากเสร็จสิ้นงานในแต่ละอัลบั้ม เธอจะหายหน้าหายตาไปพักใหญ่แล้วก็กลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่อีกครั้ง นี่เป็นภาพที่คนภายนอกมองว่าเป็นวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของเธอ
"เราไม่ได้ไปค้นหา บางทีแค่ได้ยินไฟล์จากดนตรีที่เขาทำ แค่ได้ยินกับกลองเซตนี้ คือแค่ทำมาเป็นเดโมง่ายๆแล้วเราอิน เราก็บอกโอ้โหเพลงนี้ต้องพูดเรื่องนี้เท่านั้นอะไรอย่างนี้ หรือว่าเราอาจจะได้ยินเสียงบรรยากาศในเพลงแค่นิดหน่อยเราก็ฟุ้งไปเลย บางทีมันไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับเราหรอก เราคิดขึ้นมาเอง เรากำหนดเอง บางทีคุยกับเพื่อน และก็มีที่ทีมงานคิดมาเป็นคีย์เวิร์ด ถ้าเราประทับใจคำไหนก็คิดมาจากคำนั้น"
"เราอัดไว้ในโทรศัพท์นะ แต่งกีต้าร์ เล่นได้ไม่เยอะหรอก เราเล่นไม่เก่ง ถ้าเราเที่ยวอาทิตย์หนึ่งกลับมาดูว่าบ้านทำอะไรเสร็จเรียบร้อย เรามีเวลาที่อยากจะทำจริงๆเราถึงทำ ไม่ใช่กดปุ่มแล้วจะมาทำได้เลย จะเป็นแนว เอ้อ! อยากทำแล้ว"
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยืนยันว่าเธอไม่ใช่นักแต่งเพลง เธอเป็นนักร้องและจะใส่ใจเรื่องการร้องมากที่สุด
"ให้เรานั่งทั้งวันยังคิดไม่ออกเลย ไมได้ 'ได้ดิ ต้องทำได้ มี่ต้องทำได้' มีคนพูดอย่างนี้บ่อยมาก พี่บอยก็พูดกับเรา เราถามว่าใครๆก็ทำได้เหรอคะ 'ใช่ ใครๆ ก็ทำได้มี่' แล้วทำไมใครๆไม่เหมือนพี่บอยล่ะคะ เรากลับไปนั่งคิด ขนาดมีเมโลดี้แล้วนะ ไม่ใช่ว่ะมันไม่ใช่ ทำไม่ได้จริงๆ คือคนเราถนัดอะไรก็ทำสิ่งที่เราถนัดเถอะ หน้าที่ใครหน้าที่มัน"
จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นปาล์มมี่เป็น 'นักร้องรับเชิญ' ในคอนเสิร์ตของศิลปินอีกมากมาย หรือจะเป็นคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นพิเศษตามเทศกาลดนตรี ก็มีชื่อของเธอเป็นศิลปินที่ขึ้นแสดงอยู่ในชื่อต้นๆเสมอ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในช่วงโปรโมทเพลงในอัลบั้มของเธอแล้วก็ตาม
"ส่วนใหญ่เวลาที่เราจะทำงานกับใคร เราจะทำกับคนที่เก่ง เหมือนของสะสมเราอยากจะให้มันอยู่ในใจ คนแรกเราเล่นกับไมโครแล้วเราแฮปปี้มาก เราเล่นกับพี่เสกและพี่เบิร์ด แล้วก็พี่ปู พี่ปุ๊ เรารู้สึกว่าคนเหล่านี้เป็นตำนานที่เราชอบ แล้วเราอยากเก็บเอาไว้อยากมีดีวีดีคอนเสิร์ตของเขา เราดูแล้วเราภูมิใจที่เราได้ทำงานกับคนเก่งคนที่เป็นตำนานคนที่มีจุดยืนที่แข็งแรง"
ภาพที่ปาล์มมี่กระโดดโลดเต้นในคอนเสิร์ตพร้อมเปล่งเสียงร้องอันทรงพลังเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงความทุ่มเทของเธอได้เป็นอย่างดี หลังจากผ่านช่วงชีวิตที่ต้องขึ้นแสดงคอนเสิร์ตแทบทุกสัปดาห์จนได้กลับมาอยู่ในช่วงหยุดนิ่ง เธอจึงใช้เวลาที่มีนั้นเพื่อการผ่อนคลายให้ชีวิตที่ถูกขึงตึงจนแทบจะขาดกลับเข้าสู่สมดุลอีกครั้ง
"ก็แล้วแต่วัน ตื่นมาแต่งตัวเสร็จก็ลงมาข้างล่าง เล่นกับหมา ไปกินข้าวเช้า อารมณ์อยากกินก๋วยเตี๋ยวก็ขับรถไปกินก๋วยเตี๋ยวกลับมาก็นั่ง..."
เธอหยุดเล่าและนั่งนิ่ง สายตาเหม่อลอยเหมือนคนไร้สติ แทนคำบอกเล่าถึงกิจวัตรประจำวันของเธอ แล้วจึงปล่อยเสียงหัวเราะครืนออกมาเป็นการปิดมุก
"ไม่หรอก มันก็มีอะไรทำของมันไป บางทีเพื่อนก็โทรมาชวนไปโน่นไปนี่ หลายๆคนมีปัญหาชีวิตก็มาปรึกษาหารือเราบ้าง ออกไปห้างดูว่าวัยรุ่นเขาไปถึงไหนกันแล้ว ถ้าเราว่างไม่ได้ไปไหนก็ดูแลต้นไม้ มันก็หมดเวลาไปถึงเย็นแล้ว เพราะอยู่ตรงนั้นก็สามสี่ชั่วโมง แต่มันก็มีบางวันเหมือนกันที่เราทำทุกอย่างหมดแล้ว ก็แค่นั่งเฝ้าต้นไม้ให้มันเติบโต ไม่มีอะไรแล้ว"
"ผมเผ้าเราก็ไม่ได้ไปทำอะไรมากก็ปล่อย เล็มๆเอา ตัดเองก็ตัดจนเบี้ยวเลยต้องม้วนขึ้น มันไม่มีแล้วไง ก็ต้องหาอะไรจุกจิกทำไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็สนใจเย็บผ้า ว่าจะไปซื้อจักรตั้ง 2 หมื่น แต่มันก็ทำอะไรได้หลายอย่าง จะไปซื้อแล้ว ไม่ได้ ได้เป็นเครื่องดูดฝุ่นกลับมาแทน ฮ่าๆ แต่ก็ยังคิดอยู่ว่า มีเถอะ เพราะว่าเราจะได้เอาไปเย็บอะไรเอง"
"แล้วก็ไปเรียนบ้าง เรียนจัดดอกไม้ เรียนปั้น ก็ไปเรียนได้อยู่พักหนึ่ง เพราะยังมีงานบ้างประปราย เดือนละสี่ห้างาน พอเราปั้น ปั้นเสร็จก็ต้องกลับมาทำงานอีก มันไม่เต็มที่ ตอนนี้มีเวลาก็อยากกลับไปเรียนอีก"
"แกงอ่อมนี่ก็ช่วยเราได้มากนะ คือไปซื้อกับข้าวแล้วคิดว่า ทำอะไรดีที่มันฝึกฝีมือ เราก็ไม่รู้ว่าจะถูกส่งให้ไปทำอะไรต่อไปภารกิจข้างหน้า เราก็อยากฝึกมือ เดินดูของพอทำออกมาแล้วมันใช่ รสมันเหมือนก็มีแรงบันดาลใจขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง ก็เลยฝึกมืออยู่ตลอด ทุกอาทิตย์เราจะต้องทำอาหารไม่ว่าจะทำอะไรเราก็ต้องทำ"
"ทำไปเรื่อยๆ เหมือนที่พี่บอยบอกว่า เขาก็เขียนไปเรื่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ จนมันทำได้เอง ของสดอะไรก็ซื้อเอง อย่างวันนั้นไปเจอพี่นักข่าวเขาก็งงว่าเรามาซื้อของเอง มาเข็นรถซื้อผักซื้อหมู 'อ้าว มี่มาซื้อเองเหรอ' ก็บอกใช่ 'อ้าว..แล้วมีใครมาอีกหรือเปล่า' มาคนเดียว เขาก็งงว่าไม่มีแม่บ้านเดินตามเหรอ เราไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนั้น"
ที่บ้านของเธอไม่มีแม่บ้าน ไม่มีใครอาศัยอยู่อีกแล้ว นอกจากเธอและบรรดาสัตว์ที่เธอเลี้ยงเอาไว้ ตั้งแต่เป็ด นก งู เต่า ปลา สุนัข และงูเหลือมที่ถือวิสาสะเข้ามาอาศัยในบริเวณบ้านซึ่งมีบรรยากาศรกครึ้มด้วยต้นไม้ที่เธอปลูกเอาไว้มากมาย แล้วเธอก็เปิดรูปนกฮูกดวงตากลมโตจากโทรศัพท์มือถือให้ดูเป็นหลักฐาน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in