อ่านจบแล้ว
ขุนทอง... เจ้าจะกลับมาเมื่อฟ้าสาง 
โดย อัศศิริ ธรรมโชติ
สั้น กระชับ งดงาม และน่าเศร้า
หนังสือเล่มนี้เราได้ซื้อมาคู่กับหนังสือ ‘ทะเลสาบน้ำตา’ ของคุณ วีรพร นิติประภา กะว่าจะเป็นเซ็ทซีไรท์ ที่เวลาอยากหาอะไรลึก ๆ อ่าน จะได้หยิบมาอ่าน แล้วก็ได้ฤกษ์อ่าน ‘ขุนทอง...เจ้าจะกลับมาเมื่อฟ้าสาง’ ก่อนเล่มทะเลสาบน้ำตา  วันนี้พึ่งได้อ่านจบก็พอจะรู้สึกคุกรุ่นด้วยอารมณ์ของอรรถรสเนื้อหาจาหนังสือ  เลยตั้งใจว่าตอนนี้แหละต้องพูดอะไรเกี่ยวกับเล่มนี้
‘ขุนทอง... เจ้าจะกลับมาเมื่อฟ้าสาง’ เป็นงานเขียนรวามเรื่องสั้นโดยคุณ อัศศิริ ธรรมโชติ ที่ได้รวบรวมเล่มนี้และใช่ชื่อเรื่องส้นเรื่องสุดท้ายในหนังสือมาตั้งเป็นชื่อหนังสือ 
เรื่องสั้นแต่ละเรื่องที่อยู่ภายในอาจเคยได้รับการตีพิมพ์ในสื่ออื่น ๆ มาก่อนแล้วบ้าง  ซึ่งก็เป็นปกติของบรรดาหนังสือรวมเรื่องสั้น  เรื่องสั้นภายในหนังสือเล่มนี้โดยส่วนใหญ่จะบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครที่เป็นชาวบ้านปถุชนธรรมดา แต่แทบทุกตัวละครจะกอดรับปัญหาสังคม การเมือง บางอย่างเอาไว้ ความน่าสนใจและน่ายกย่องของหนังสือเล่มนี้เราจะขอยกสิ่งที่เห็นชัดเจนขึ้นมาสักสองหัวข้อที่จะกล่าวชม  แม้ภายในเล่มนี้จะทำให้เรารู้สึกว่ามีอะไรที่น่าสนใจอีกมากมายที่อยู่ในนั้น  เรากลัวคนอานรีวิวจะเบื่อ เพราะอย่างนั้นจะให้แค่สองหัวข้อ
ประเด็นแรกที่จะชื่นชมคือ ‘ภาษา’ ถ้าใครเคยอ่านผลงานซีไรท์ เราย่อมรับรู้ถึงความงดงามในด้านภาษาของงานเขียนรางวัลประเภทนี้  ที่ภาษาสวย  บางครั้งความสวยงามนั้นก็ลุ่มลึกเหมือนได้กลิ่นอาหารไฟน์ไดนิ่ง ซึ่งแต่ละจานก็จะทำให้เรารู้สึกค่อย ๆ ได้สัมผัสรสชาติ สัมผัสอรรถรสที่หลากหลายเข้าไปช้า ๆ แต่ในแต่ละคำที่กินเข้าไปเด็ดทุกคำ  ซึ่งในเรื่องภาษาของเล่มนี้ก็เด็ดตรงที่  คุณจะรู้สึกเหมือนได้อ่านกวีในบทร้อยแก้ว  สัมผัสต่าง ๆ การบรรยายต่าง ๆ เป็นความละเอียดลออ งดงามขณะที่เรื่องราวเป็นความรู้สึกที่หาความสุขในเรื่องราวแต่ละเรื่องได้อย่างยากลำบาก
ในประเด็นที่สองนี้เองที่เราจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้เด่นในการเขียนให้ตัวละครโอบกอดความน่าเจ็บแค้น น่าเศร้าสลดในสังคมของคนธรรมดาได้อย่างดี  ในเรื่องสั้นแต่ละเรื่องผู้เขียนพยายามเขียนสะท้อนภาพสังคมบางอย่าง  เราว่าส่วนนี้เป็นเพราะคุณผู้เขียนมีประสบการณ์การมองเห็นชีวิตของผู้คนที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตทั้งจากการที่เคยเป็นนักสำรวจสำมะโนประชากรและการได้เป็นนักข่าว นักหนังสือพิมพ์  ภาพตัวละครที่เขาเขียนถ่ายทอดออกมาราวกับเป็นเรื่องจริง--ซึ่งต้องเขาใจว่าหนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ในปี 2521  ภาพที่เล่าภายในเรื่องก็จะเป็นสังคมไทยในช่วงเวลานั้น--แต่นั่นก็ทำให้เราตระหนักรู้ว่า ออ สังคมไทยสมัยนั้นเป็นแบบนี้นี่เอง 
แต่เมื่อเราได้รับรู้ถึงสังคมอดีต  เราก็ตระหนักอย่างน่าเศร้าว่า บางสิ่งบางอย่างที่ถูกเขียนในหนังสือเล่มนี้สะท้อนภาพสังคมในปัจจุบัน (2563)  เราอ่านหนังสือเล่มนี้ในช่วงที่กำลังติดตามเหตุการณ์การประท้วงไล่รัฐบาลประยุทธ์ การที่หนังสือเล่มนี้เปิดเล่มด้วยเรื่องสั้น 'เธอยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็ในใจฉัน' ที่ถูกพิมพ์ครั้งแรกปี 2521  เราคิดว่าหากหนังสือเล่มนี้ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในหนังสือที่เยาวชนควรอ่าน  เยาวชนไทยในช่วงเวลานั้นก็น่าจะได้รับรู้ความเป็นไปของการเมืองและสังคม  และยอมต้องตระหนักรับรู้ได้ถึงความน่าเศร้าของความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับตัวละครที่เพียงแค่เห็นต่าง  หากเยาวชนในช่วงเวลานั้นเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้  หากเขาได้รับการศึกษา  ได้อ่านงานวรรณกรรมที่ได้รับยกย่องจากสังคมชิ้นนี้แล้ว  เราก็คิดว่าพวกคุณ ๆ ท่าน ๆ ควรตระหนักรับรู้ถึงประโยคสำคัญที่ตัวละครได้กล่าวว่า 'ในประเทศของเรานั้น  เราจะต้องช่วยกันสร้างความถูกต้อง และเป็นธรรม!' ประโยคสำคัญนี้ควรจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เรียกตนว่าเป็น ‘ผู้ใหญ่หรือปัญญาชน’ ทั้งหลายสร้างระบบการเมืองและสังคมที่ดีได้นานแล้ว   แต่ก็น่าแปลกว่าในปีนี้ปี 2563 เรากลับรู้สึกว่าทุกอย่างหวนกลับ 'ความถูกต้องและเป็นธรรม' ที่ควรจะก่อเกิดในสังคมกลับถดถอย  การตัดสินผู้กระทำความผิดด้วยโทษที่ไม่เท่าเทียม  เหตุการณ์ชุมนุมประท้วงยังเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และการทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมืองก็ยังเกิดขึ้น  สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเกิดคำถามว่า  ‘เราจะบอกได้หรือไม่ว่าเมื่อวรรณกรรมนี้ถูกอ่าน  มันก่อเกิดความประทับใจให้ผู้คนเพียงประเดี๋ยวประด๋าว’  ‘ทำไมเรายังให้สังคมมันเป็นเหมือนเดิมเช่นหลายสิบปีที่ผ่านมา’ ‘เราตระหนักถึงโครงสร้างที่ไม่เท่าเทียมในสังคมได้  แต่เราแก้ไขไม่ได้หรือเราคิดจะไม่ทำ เหมือนกับเรื่องราวของตัวละครบางตัวในหนังสือเล่มนี้ที่พวกเขาทำเพียง  มอง  รับรู้ และปลงกับสิ่งที่เกิดขึ้น..?’
หนังสือเล่มนี้เราแนะนำสำหรับทุกคที่ชื่นชอบงานเขียนซีไรท์ งานเขียนที่ภาษาการบรรยายต่าง ๆ งาม คนที่มีเวลาน้อยแต่อยากอ่านอะไรที่ลุ่มลึกทางภาษาและเรื่องราว หรือคนที่อยากรู้ว่าการเมืองไทยในอดีตกับปัจจุบันไม่ไปไหนอย่างไง  เราแนะนำ
สำหรับใครที่อ่านเล่มนี้แล้วจะไม่ชอบ  เราว่า คนที่ชอบอ่านเรื่องยาว คนที่ไม่อยากให้การอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่อ่านแล้วรับไม่ได้กับการจบแบบค้างเติ่ง  เรื่องนี้อาจไม่ตรงสเป็กของคุณ  แต่หากคุณอยากลอง  เราแนะนำนะสำหรับเล่มนี้.
 
			
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in